คอลัมนิสต์

เรื่อง ลุงตู่ ติดกับดักรัฐธรรมนูญ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  วงในวงนอก   โดย...  อสนีบาต [email protected]

 

 

 

 

          เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา… อสนีบาต…ได้มีโอกาสร่วมวงสนทนากับบรรดา "บิ๊กการเมืองฝ่ายค้าน” นำทีมโดยคุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เรียกได้ว่ายกทัพใหญ่มาเยือนกองบรรณาธิการทีเดียว

 

 

          โดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านแจ้งว่าเป็นกิจกรรมเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ รอบนี้ถึงคิวพบปะสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ถัดจากนั้นจะได้นัดหมายพบปะแกนนำพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลพร้อมเผยไฮไลท์สุดท้าย ต้องการพบ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี”
  

          แบบว่า ไม่ได้พูดล้อเล่นแต่เอาจริงถึงขนาด "ธนาธร” ย้ำตั้งหลายรอบ “ถ้าคุณประยุทธ์จะยอมให้ผมพบพรุ่งนี้ก็ได้ ผมก็พร้อม” เรียกได้ว่าพรรคฝ่ายค้านพร้อมยกเลิกกำหนดการทั้งหมดเพื่อพบ “บิ๊กตู่”


          อย่างที่ทราบกันดีฝ่ายค้านมีความพยายามอย่างยิ่งยวดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งไม่ใช่แค่ปล่อยให้กระบวนสภาทำหน้าที่อย่างเดียวแต่กำลังเคลื่อนไหวนอกสภาขยายแนวร่วมให้มากที่สุด
   

          คราวนี้จากการรับฟังความเห็นของตัวแทนพรรคฝ่ายค้านทำให้เห็นว่า นักการเมืองเหล่านี้ได้ศึกษาบทเรียนเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญในอดีตซึ่งมักจะเป็นชนวนให้เกิดความรุนแรง จึงคิดหากลวิธีว่าจะทำอย่างไรไม่ให้วงจรนี้กลับมาอีก จึงต้องพยายามนวดไปเรื่อยๆ "สร้างกระแสธรรมชาติ” เพื่อลดทอนกระสุนสนับสนุนการจัดตั้ง แม้แต่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวในวงสนทนาว่า “อยากให้เกิดการพูดคุยร่วมกัน อย่าไปคิดเหมือนหมอดูว่า เมื่อแก้รัฐธรรมนูญจะเกิดการนองเลือด มันไม่ใช่ ”
    

          นั่นเป็นสิ่งที่คุณหญิงและคณะเตรียมตัวมาตอบสื่อมวลชนอยู่แล้ว ว่าเราจะทำอย่างไรไม่ให้ความเห็นต่างกลายเป็นความแตกแยก จึงต้องพยายามขายความคิดโน้มน้าวทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายทางการเมือง ภาคประชาสังคม นักวิชาการ เห็นคล้อยตาม ให้เกิดเป็นพลังเข้มแข็งกดดันฝั่งผู้กุมอำนาจหันมาให้ความสนใจต่อการแก้รัฐธรรมนูญ




          โดยเฉพาะการทำให้ฝ่ายกุมอำนาจต้องเงี่ยหูฟัง ก็คงจะเป็นประเด็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นผู้ออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยมีการตั้งด่านอรหันต์ไว้ตามมาตราต่างๆ ควบคุมการบริหารประเทศ ซึ่งตอนนี้กฎกติกาต่างๆ ในรัฐธรรมนูญกำลังพ่นพิษใส่รัฐบาลชุดปัจจุบัน เหมือน "หมองูตายเพราะงู” นั่นล่ะ


          ถ้าจะไล่เรียงกันรายมาตราน่าจะมีเยอะ แต่ในชั้นนี้ขอนำบทสรุปบนโต๊ะพูดคุยมาฉายให้เห็นอีกรอบ เช่น พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การแถลงนโยบายรัฐธรรมนูญโดยไม่แจกแจงที่มาของงบประมาณ หรือมาตรา 270 ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูประเทศต่อรัฐสภาครบทุก 3 เดือน


          หรือกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยกมาตรา 73 ระบุว่ารัฐพึงจัดให้มีมาตรการหรือกลไกที่ช่วยให้เกษตรกรประกอบเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพสูง มีความปลอดภัย โดยใช้ต้นทุนต่ำ และสามารถแข่งขันในตลาดได้ และพึงช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ให้มีที่ทํากินโดยการปฏิรูปที่ดินหรือวิธีอื่นใด
  

          “ปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ไปค้ำประกันราคายาง 60 บาท ซึ่งจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และด้วยเหตุนี้หรือไม่ที่เขาจึงอยากแก้รัฐธรรมนูญ คือแก้เฉพาะมาตราที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหาร” พ.ต.อ.ทวี ให้ข้อสังเกตไว้
   

          จึงเป็นอะไรที่คุณหญิงสุดารัตน์ เพิ่มเหตุผลเข้าไปอีกว่า ก่อนการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังใช้ความเป็นหัวหน้าคสช. ออกมาตรา 44 ขอยกเว้นการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเกือบ 10 เรื่อง พอหลังเลือกตั้งก็กำลังกระทำการขัดรัฐธรรมนูญขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งชี้ชัดแล้วว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กำลังมีปัญหากับรัฐธรรมนูญ
  

          “โชคดีที่เป็นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ถ้าเป็นคุณธนาธร เป็นนายกฯ ป่านนี้ก็ไม่รอดแล้ว" คุณหญิงหน่อยเหน็บแนมไว้อย่างเจ็บแสบ


          สดับตรับฟังจากคนการเมืองทั้งหลายที่เดินทางมาในวันนั้นต้องนำไปคิดพิจารณาถึงเหตุผลดูดีมีน้ำหนัก โดยเฉพาะตัวท่านนายกฯ ซึ่งฝ่ายค้านวางกำหนดการจะพบท่านไว้ซะด้วยว่าการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้การถูกตั้งด่านจากรัฐธรรมนูญสกัดแบบนี้กำลังทำให้เกิดปัญหาแล้วหรือไม่ หรือท่านจะถือธงนำแก้รั่ฐธรรมนูญเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยตามลูกยุของฝ่ายค้าน ก็ต้องนำไปคิดดู อย่านิ่งดูดายปล่อยให้เนิ่นนาน


          ระวังจะมีโทรโข่งดังออกมา “พวกเราล้อมท่านไว้หมดแล้ว”

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-"อนุสรณ์"อัดประยุทธ์พฤติกรรมสวนทางคำพูด
-ประยุทธ์ "หลุด" ระวังคนจะไล่ ...
-คุมเข้มพื้นที่รัฐสภา รับ นายกฯเข้าสภาวันแรก
-'ประยุทธ์' ไม่ควรลงว่าที่นายกฯ : ปริญญา

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ