วาเลนไทน์นี้ที่น้ำพุโซดาเมืองกาญจน์ นทท.แห่ชมไม่กังวลห้ามดื่มน้ำ ขอแค่ได้เซลฟี่ก็พอใจ

จากกรณี เมื่อวันที่ 10 กพ. 2564 ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการขุดเจาะน้ำบาดาล เพื่อช่วยชาวบ้านในพื้นที่แห้งแล้ง บ้านสระตาโล ม.12 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย พื้นที่เขตติดต่อกับ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี จำนวน3แห่ง เกิดสิ่งแปลกประหลาด เมื่อพบว่า น้ำที่ขุดจำนวน3แห่ง มี2แห่ง พุ่งขึ้นมาเป็นน้ำพุสูงราว2-3เมตร รวมทั้งมีรสชาติคล้ายน้ำโซดา สามารถใช้ดื่มกินได้ สร้างความฮือฮาให้แก่ชาวบ้านและผู้พบเห็น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ขออย่าดื่มกิน รอตรวจสอบคุณภาพน้ำให้แน่ชัด ว่าปลอดภัยก่อน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ก.พ.2564 ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก ที่บริเวณบ่อน้ำพุโซดา บ้านสระตาโล ม.12 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอยซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกับ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี บริเวณริมถนนสายห้วยกระเจา-บ่อพลอย และบริเวณรอบๆบ่อน้ำพุโซดา บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากว่า30ร้าน ต่างนำสินค้ามาตั้งโต๊ะขายให้นักท่องเที่ยว มีทั้งน้ำดื่ม เครื่องดื่ม ไอศกรีม อาหารตามสั่ง อาหารปิ้งย่าง พืชผักปลอดสารพิษ รวมทั้งแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่มีกว่า10แผง ทำให้บรรยากาศดูเหมือนมีงานเทศกาล ที่ครึกครื้น ท่ามกลางนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวชมน้ำพุโซดาอย่างมากมาย รถยนต์จอดเป็นแถวริมถนน2ฝั่ง ยาวเหยียด

ขณะเดียวกัน นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สทบ.เขต2(สุพรรณบุรี) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จนท.อบต.บ่อพลอย จนท.อบต.ห้วยกระเจา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ่อพลอย สภ.ห้วยกระเจา ได้คอยมาดูแลการจราจร และรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณถนนสายห้วยกระเจา-บ่อพลอย โดยเจ้าหน้าที่ได้กางเต๊นไว้บริเวณใกล้น้ำพุ รวมทั้งกั้นเชือกล้อมบ่อน้ำพุ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชน นำภาชนะลงไปรองน้ำที่บ่อ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้มีการต่อวาล์วน้ำ ทำให้น้ำพุพุ่งขึ้นสูงกว่า10เมตร เลยกลายเป็นภาพที่สวยงาม นักท่องเที่ยวแม้ไม่ได้น้ำกลับไป ต่างก็ถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึกกันไปทั่ว

บริเวณรอบตัวบ่อ ที่ล้อมไว้ด้วยเชือก ติดกระดาษมีข้อความว่า พื้นที่ดำเนินการห้ามเข้า รวมทั้งป้ายขนาดใหญ่ มาติดตั้งบริเวณแนวคันดินใกล้บ่อ มีข้อความว่า ห้ามดื่มน้ำแร่โซดา เนื่องจากอยู่ระหว่างการทดสอบคุณภาพน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบอก ขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปที่บริเวณใกล้บ่อ เนื่องจากในระหว่างนี้ต้องรอการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ว่าใช้บริโภคดื่มกิน ปลอดภัยหรือไม่อย่างไร รวมทั้งเกรงว่าเมื่อมีประชาชนเดินเข้าไปที่บ่อ เป็นจำนวนมาก คันดินที่กั้นยกสูง อาจพังทลายได้ อาจไม่ปลอดภัยต่อประชาชนได้

บรรดานักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด แม้ผิดหวังที่จะนำน้ำกลับบ้าน หรือทดลองดื่มกิน ว่ารสชาติเป็นเช่นไร เหมือนน้ำโซดาหรือไม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ลงไปรองน้ำพุ ต่างก็บอกว่า ขอแค่ได้มาเที่ยวชม และถ่ายภาพกับน้ำพุโซดาก็พอใจแล้ว เพราะน้ำพุพุ่งขึ้นท้องฟ้าสูงกว่า10เมตร ละอองน้ำกระจายเป็นฝอย เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดเป็นสายรุ้ง ดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก นทท.ต่างถ่ายภาพเซลฟี่ไว้เป็นที่ระลึก

อย่างไรก็ตาม บรรดานักท่องเที่ยว เชื่อว่า หากมีการขุดเจาะพบน้ำพุมากกว่าเดิม อาจจะกลายเป็นแลนด์มาร์คเรื่องการท่องเที่ยวแห่งใหม่ อีกแห่งหนึ่งของจ.กาญจนบุรี อย่างแน่นอน และในวันพรุ่งนี้(15ก.พ.)ที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เวลา10.00น.จะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดทุกประเด็น เรื่องน้ำพุโซดา    

 วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. กาญจนบุรี