ตอบทุกข้อสงสัยจาก ดร.ศิริรักษ์ ช้างรบ นักวิจัยสาวไทยในสหรัฐฯหลังรับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม เกี่ยวกับ อาการข้างเคียง ข้อควรระวัง รวมไปถึงฉีดแล้วเราต้องใช้ชีวิตตามปกติหรือไม่ เป็นต้น
ดร.ศิริรักษ์ ช้างรบ นักวิจัยสาวชาวไทยในสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กหลังจากที่เธอเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer BioNTech ครบ 2 เข็ม พร้อมกับรวบรวมคำถามทั่วไปที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ข้อควรระวัง รวมไปถึงฉีดแล้วเราต้องใช้ชีวิตตามปกติหรือไม่
ดร.ศิริรักษ์ นักวิจัยหลังปริญญาเอก University of Chicago เปิดเผยหลังเข้ารับวัคซีนโควิด-19 หลังจากที่ฉีดเข็มแรกผ่านไปเมื่อ 20 วันที่ผ่านมา โดยมีผู้สูงอายุที่ทยอยเข้ารับวัคซีนเข็มแรก และได้ทำการนัดหมายวันที่จะรับวัคซีนตั้งแต่วันที่รับเข็มแรก ก่อนจะต้องไปเช็กอินเข้าห้องฉีด โดยพยาบาลจะสอบถามอาการหลังรับวัคซีนเข็มแรกไป
ดร.ศิริรักษ์ เล่าว่า สำหรับขั้นตอนการรับเข็มที่ 2 หลังจากได้ทำการนัดหมายผ่านทาง MyChart ตั้งแต่รับเข็มแรกไปแล้ว วันนี้ก็ต้องไปยืนยันตัวตรงจุด check-in แล้วก็เข้าห้องฉีด จะมีพยาบาลถามว่าหลังรับเข็มแรกเป็นยังไงบ้าง ?
แล้วก็ถามคำถามเดิมเหมือนตอนที่รับเข็มแรก คร่าวๆคือ เคยมีประวัติการแพ้อะไรรุนแรงมั้ย? ก่อนหน้านี้ 90 วันเคยตรวจเจอเชื้อโควิดมั้ย? พยาบาลก็ถามว่าอยากให้ฉีดข้างไหน จากนั้นทำการฉีด พยาบาลก็จะบอกเราว่า "ยูรับเข็มที่สองแล้วนะ ยินดีด้วย" พร้อมแปะสติ๊กเกอร์ I got my COVID-19 vaccine บนบัตรทำงานของเรา ยืนยันว่าเราฉีดวัคซีนแล้ว
ตั้งแต่รับเข็มแรก เราก็ได้รับ Vaccination Record Card (การ์ดฉีดวัคซีน) ที่มีชื่อ วันเดือนปีเกิด วันที่วัคซีนเข็มแรก/เข็มสอง ยี่ห้อวัคซีนที่ได้และล็อตที่ผลิตมาเก็บไว้กับตัว ซึ่งจะได้ช่วยจำว่าเราเคยได้รับวัคซีนโควิดเมื่อไหร่ และยี่ห้ออะไร ตรงนี้สำคัญมากๆ ในอนาคตอาจจะต้องใช้การ์ดนี้เวลาเดินทาง
ซึ่งหลังจากเข้ารับวัคซีนเสร็จ ตนก็ยังกลับมาทำแลบต่อ อาการ 2 ชั่วโมงแรกไม่มีอะไรเลย แต่เมื่อผ่านไป 8 ชั่วโมงแล้ว รู้สึกตัวร้อนนิดๆ และปวดบริเวณที่ฉีดไม่ต่างกับเข็มแรก เพื่อนทุกคนที่เข้ารับการฉีดเข็มที่ 2 ต่างบอกว่าหนักกว่าเข็มแรกแน่นอน ปวดเมื่อยปวดหัว ตัวร้อน บางคนมีต่อมน้ำเหลืองใต้จั๊กแร้โต (จุดที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่ฉีด) แต่อาการเหล่านี้หายไปได้ภายใน 48 ชั่วโมง
อ่านข่าว : เปิด 4 กลุ่มเตรียมรับวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก
รวมคำถามและข้อสงสัยทั้งหมด
1.อาการข้างเคียง?
ทั่วไปที่พบในอาสาสมัครระยะทดลองคือ มีอาการเหมือนไข้หวัด ที่ไม่ได้ติดไข้หวัด อาการจะอยู่ในช่วง ปวดเมื่อย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หนาวสั่น ปวดข้อ มีไข้ตัวร้อน แต่ไม่ต้องตกใจ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนแล้ว
จากผลทดลองของอาสาสมัครทั้ง Pfizer และ Moderna พบว่า 50% มีการข้างเคียงเบื้องต้น (ตามด้านบน) หลังรับเข็มแรกและกว่า 70-80% มีอาการหลังรับเข็มที่ 2 แล้วก็มีประมาณ 10-20% ที่ต้องลาป่วย ไปทำงานไม่ได้ (อาการหนักกว่าอาการเบื้องต้นนั่นเอง)
2.การใช้ยาในช่วงขณะรับวัคซีน?
หากคุณมีโรคประจำตัวที่ต้องทานยาเป็นประจำต้องปรึกษาแพทย์ก่อนได้รับวัคซีน ยกตัวอย่างคนที่รู้จัก มียาที่ต้องกินทุกวันเนื่องจากมีโรคประจำตัวทางพันธุกรรม เค้าต้องปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนว่ายาที่กินจะไม่ไปตีกับวัคซีน ถึงจะมารับวัคซีนได้อย่างสบายใจ อยู่ในเรดาห์ของแพทย์ประจำตัว
3.กินยาพารา ยาแก้ปวดดักไว้ก่อนฉีดวัคซีนได้หรือไม่?
ไม่ควร เพราะการกินยาแก้ปวดลดไข้ก่อนฉีด จะส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันต่อวัคซีนลดลง แต่กรณีถ้ามีอาการไข้หรือปวดหลังรับวัคซีน สามารถกินยาแก้ปวดลดไข้ได้
4.ถ้าฉีดวัคซีนแล้วไปตรวจเชื้อจะเจอว่าผลบวกไหม?
ไม่เจอ เพราะวัคซีนชนิดนี้เป็นเพียงสารพันธุกรรม ไม่ใช่เชื้อจริง ไม่มีคุณสมบัติในการติดเข้าสู่เซลล์เยื่อบุเลย ให้มั่นใจได้
5.ถ้ามาฉีดเข็มที่ 2 ช้ามีผลอะไรไหม?
เป็นไปได้ก็ควรได้มาฉีดเข็มสองตามระยะเวลาที่กำหนด วัคซีนส่วนใหญ่จะมีกฎเกณฑ์ของเค้าว่าช้าได้ไม่เกินกี่วัน ถ้าเกินกี่วันจะต้องเริ่มนับเข็มหนึ่งใหม่ สำหรับวัคซีนโควิดตอนนี้ยังไม่มีผลตรงส่วนนั้น จนกว่ากรมควมคุมโรค CDC จะออกมาประกาศอย่างเป็นทางการอีกที ฉะนั้น อย่านิ่งนอนใจว่าได้อยู่ รับเข็มแรกไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ได้อยู่ แปลว่า ไม่ได้
6.ถ้าเคยติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ ยังรับวัคซีนได้ไหม?
ได้ เพราะตอนนี้ยังบอกไม่ได้เลยว่าการติดเชื้อโดยธรรมชาติจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน แต่การได้รับวัคซีนคือการยืนยันว่าคุณมีภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพ มีผลการทดลองยืนยันในกลุ่มคนกลุ่มใหญ่แล้ว แต่เราไม่ควรรับวัคซีนในขณะที่เรากำลังติดเชื้อ ควรจะรับหลังจากที่หาย กลับมาใช้ชีวิตปกติทั่วไปแล้วเท่านั้น
7.ถ้าเลือกได้ว่าจะฉีดเลยหรือรอก่อนจะเลือกอะไรดี?
แล้วแต่บุคคล สถานการณ์และสถานที่ เราต้องประเมินว่าตัวเองว่าเรามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนที่จะได้รับเชื้อ หรือถ้าเราได้รับเชื้อแล้วเราจะมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน
แต่ความเห็นส่วนตัวของตน ขอตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า "รับแน่นอน" ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และจำนวนเคสคนติดเชื้อ คนเสียชีวิตในแต่ละวัน มันได้ตอบแล้วว่า เราควรมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ ที่เราไม่อาจจะรู้เลยว่าวันดีคืนร้ายเราจะติดเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วถ้าเราติด เราก็แพร่เชื้อให้คนอื่นได้ต่อๆกันไป
แพร่ไปให้คนอื่นแล้วคนอื่นอาจจะเป็นหนักเสียชีวิตได้ เป็นตราบาปไปตลอดชีวิตเราอีก ข้อมูลและผลการทดลองที่มีน่าเชื่อถือได้ว่าเราจะปลอดภัยและมีการสร้างภูมิคุ้มกันแน่นอน แต่สิ่งที่เราไม่รู้เลยคือจะยาวนานแค่ไหน ต้องฉีดทุกปีมั้ย ตรงนี้ก็ยังต้องรอดูต่อไป
CR เฟซบุ๊ก Siriruk Ch
ข่าวที่เกี่ยวข้อง