"พายุซินลากู" ถล่ม 200 ครัวเรือนจมน้ำ ไม่สามารถอพยพออกมาได้ทัน หนักสุดในรอบ 40 ปี ส่วนชาวบ้านเร่งขนของ-สัตว์เลี้ยงหนีน้ำ น่าชื่นชม นอภ.น้ำปาด ลุยน้ำสูงหน้าอก ช่วยผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วันจากอิทธิพลของพายุซินลากู ส่งผลให้น้ำป่าจากภูเขาและลำน้ำสาขาต่างๆ ไหลลงแม่น้ำปาด เพิ่มระดับความสูงอย่างรวดเร็ว มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือชาวบ้าน พื้นที่การเกษตร 4 ตำบล ในอำเภอน้ำปาด 200 ครอบครัวจมน้ำ ไม่สามารถอพยพออกจากหมู่บ้านได้ เจ้าหน้าที่เร่งส่งข้าวส่งน้ำ นับว่ารุนแรงสุดรอบ 40 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลน้ำเริ่มไหลทะลักเข้าสู่หมู่บ้านที่อยู่ริมลำน้ำปาดและเพิ่มระดับความสูงมากกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต่างเร่งเก็บข้าวของทรัพย์สินมีค่าไว้ที่สูง โดยเฉพาะที่หมู่ 5 บ้านห้วยปากแค ตำบลเด่นเหล็ก ที่ชาวบ้าน 90 ครอบครัวไม่สามารถออกจากหมู่บ้านได้เนื่องจากระดับน้ำสูง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือท้องแบนนำน้ำ อาหารกล่อง จัดส่งให้ทุกครอบครัว ที่น่าชื่นชม เมื่อนายศุภชัย บุญทิพย์ นายอำเภอน้ำปาด นำเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ ตำรวจตระเวนชายแดน 316 (ตชด.316 น้ำปาด) ลุยน้ำท่วมสูงระดับหน้าอก พร้อมเปลผ้าใบ เพื่อช่วยขนย้ายผู้ป่วย 2 ราย ที่มีอาการเครียดจากโรคประจำตัวความดันสูง ส่งโรงพยาบาลน้ำปาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ที่น่าสงสารและเห็นใจมากที่สุด คือ ครอบครัวของนางแว่นและนายประสิทธิ์ บุญพิมพ์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านใหม่ ตำบลบ้านฝาย อำเภอน้ำปาด ที่น้ำท่วมบ้านจนมิดหลัง ไม่สามารถขนทรัพย์มีค่า เครื่องยนต์ทางการเกษตรหนีน้ำได้ทัน แม้แต่ไก่แจ้ตัวผู้ที่เลี้ยงไว้เป็นจำนวนมาก ถูกน้ำพัดเหลือไว้ดูต่างหน้าเพียง 1 ตัวที่ช่วยไว้ทัน เนื่องจากต้องช่วยกันขนย้ายวัว 1 ฝูงหนีน้ำ จนตัวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และยังไม่ได้กินข้าวแม้แต่มื้อเดียว
นางแว่น เล่าว่า น้ำมาไวและแรงมาก แม้จะเฝ้าระวังตามประกาศของราชการ เก็บข้าวของไม่ทัน เพราะมีเพียง 2 ตายาย นับว่ารุนแรงและสร้างความเสียหายหนักสุดในรอบ 40 ปี หลังจากเคยเกิดน้ำท่วมบ้านมาแล้วเมื่อปี 2521 ยังไม่ได้ทานข้าวสักมื้อ
ด้านนายศุภชัย บุญทิพย์ นายอำเภอน้ำปาด กล่าวว่า อำเภอน้ำปาดเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสีแดงวัดปริมาณน้ำฝนได้ 200 มม. ล่าสุดชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว 4 ตำบลคือ ตำบลบ้านฝาย ตำบลแสนตอ ตำบลห้วยมุ่น และตำบลเด่นเหล็ก มากถึง 200 ครอบครัวที่ถูกน้ำท่วมสูง และจัดตั้งศูนย์พยาบาลและศูนย์บรรเทาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อง่ายต่อการประสานการและให้ความช่วยเหลือ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวโดย บุญพิมพ์ ใบยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง