ตัวแทนจากภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 องค์กร ในนามสมาพันธ์ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายสุราแห่งประเทศไทย ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี วอนอย่าเพิ่มวันงดขาย
(27 เมษายน 2563) ตัวแทนจากภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 องค์กร ในนามสมาพันธ์ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายสุราแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยสมาคม ชมรม กลุ่ม เครือข่าย ของผู้ประกอบการผลิต นำเข้าและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และธุรกิจต่อเนื่องต่างๆ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการต่างๆ อย่างรุนแรง เนื่องจากมีการห้ามจำหน่ายสุราในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรตลอด 24 ชั่วโมงทั้งปลีกและส่ง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 รวมถึงการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ทั้ง 7 องค์กรได้ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้จึงขอให้พิจารณาระยะเวลาห้ามจำหน่ายสุราและผ่อนปรนข้อห้ามต่างๆ
1. ขอให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพฯอย่าขยายเวลาจำหน่ายสุราออกไปหลังวันที่ 30 เมษายน 2563
2. ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุราสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อซื้อกลับบ้านหรือส่งให้ถึงบ้านได้เหมือนอาหารประเภทอื่นๆ โดยสามารถจำหน่ายในเวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ได้
3. เบียร์สามารถเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ได้เพื่อขนส่งออกนอกสถานที่บริการในช่วงป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิดจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ เพื่อเป็นการระบายสินค้า ซึ่งตกค้างอยู่จำนวนมาก
4. พิจารณาเรื่องการออกระเบียบปฏิบัติในการขอคืนภาษี และทำลายสินค้าสุราที่เสื่อมสภาพ โดยให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ออกคำสั่งให้กรมสรรพสามิต เร่งรัดขั้นตอนการคืนภาษีในกรณีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น หรือจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการไว้ก่อนอย่างช้าภายใน 3 เดือน
5. พิจารณาผ่อนปรนเรื่องการขนย้ายสุรา เนื่องจากคราฟท์เบียร์ ไวน์องุ่น และสุราแช่ หลายชนิดเป็นสินค้าที่ต้องจัดเก็บตามอุณหภูมิที่กำหนด การประกาศห้ามขายส่ง (ใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 1) ทำให้ไม่สามารถนำสินค้าที่เสียภาษีแล้วไปเก็บในคลังของผู้ประกอบการได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง