ข่าว

สธ.ตั้งเป้าเม.ย.ติดเชื้อต่ำ3.5พัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หวังพ.ร.ก.หน่วงระบาด เผยติดเชื้อเพิ่ม 111 ยอดสะสมทะลุ 1,045 ราย เสียชีวิต 4 ชี้กลุ่มเสี่ยงไม่ร่วมมือป้องกัน-เว้นระยะห่าง-งดเดินทาง ด้าน "อนุทิน"ปัดตำหนิทีมหมอติดเชื้อ

สถานการณ์ระบาด โควิด-19 ยังลามไม่หยุด ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 1,000 รายแล้ว รวมถึงในกลุ่มบุคลากรการแพทย์ก็พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นด้วย 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ว่า วันนี้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 111 ราย รวมยอดผู้ติดเชิ้อสะสม 1,045 ราย เสียชีวิตรวม 4 ราย กลับบ้านแล้ว 88 ราย อาการหนัก 4 ราย ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 953 ราย ซึ่งมีทั้งอาการน้อยและปานกลาง และล่าสุดมีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อสะสมแล้ว 9 ราย ทั้งนี้ การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะทำให้หน่วงสถานการณ์ และหวังว่าตัวเลขผู้ป่วยอาจะไม่ถึง 3,500 คนในเดือนเมษายนนี้

 

 

 

 

สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประกอบยด้วย กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 19 ราย สนามมวย 6 ราย สถานบันเทิง 3 ราย และผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 1 รายที่ปัตตานี กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยใหม่ 19 ราย เป็นผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ คนไทย 5 ราย ต่างชาติ อเมริกัน 1 ราย ทำงานในสถานที่แออัดมีผู้คนจำนวนมาก 5 ราย โดยเป็นพนักงานบริษัท พนักงานร้านนวด พนักงานโรงแรม และบุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย และปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย ส่วนกลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 63 ราย

“จากจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นทะลุหลักพันเร็วกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อยแต่ทั้งหมดยังทราบประวัติที่มาที่ไปโดยกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคือกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเก่าที่เคยรายงานแล้ว ทั้งกลุ่มสนามมวย กลุ่มสถานบันเทิง กลุ่มกลับจากงานบุญ พบประมาณ 20-30 รายต่อวัน แสดงว่าประชาชนกลุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในเรื่องการเว้นระยะห่าง(Social Distancing)ในบ้าน ทำให้นำโรคมาแพร่ให้ แม่ พ่อ สามี ภรรยา ลูก หลาน”นพ.อนุพงศ์กล่าว และว่า ในส่วนผู้ป่วยรายใหม่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง มีอาชีพทำงานสัมผัสกับชาวต่างชาติ ทำงานในสถานบันเทิง พบทั้งในกทม.และต่างจังหวัด วันละ 10-20 ราย แสดงถึงความตระหนักเรื่องการป้องกันตัวเองของประชาชนยังไม่ดีพอ ยังไม่งดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ยังไปในพื้นที่คนแออัด ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่หมั่นล้างมือ

ด้าน นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ผอ.รพ.สมุทรปราการ ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์เพิ่งออกมาเช้านี้(26มี.ค.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค เพราะยังไม่แน่ชัดว่าสาเหตุการติดเชื้อมาจากสถานที่ใดเนื่องจากเป็นฝ่ายบริหารและมีการประชุมในหลายสถานที่ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องพบว่ามีจำนวนหนึ่งแต่อยู่ระหว่างการสอบ โดยเบื้องต้นให้คนที่เกี่ยวข้องกักตัวเองสังเกตอาการ 14 วันแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา(สสจ.ยะลา) ได้ออกประกาศพบผู้ติดเชื้อในบุคลากรสาธารณสุข ว่าวันที่ 22-25 มีนาคม สสจ.ยะลาได้รับรายงานจากรพ.บันนังสตา ว่าพบบุคลากรติดเชื้อ จำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นพยาบาล 2 ราย และแพทย์ 1 ราย มีแพทย์ 8 คน ถูกกักตัวจำนวน 6 คน รวมบุคลากรถูกกักตัวทั้งสิ้น 21 ราย ทั้งนี้สสจ.ยะลาได้แจ้งรพ.บันนังสตางดบริการผ่าตัดปกติ ผ่าตัดเฉพาะกรณีฉุกเฉิน เลื่อนนัดผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เพื่อลดการแพร่หรือรับเชื้อ งดหรือเลื่อนการให้บริการทางรังสีวิทยาไม่เร่งด่วนทุกชนิด ห้ามไปรับบริการที่คลินิกไข้หวัดที่จัดสำหรับประชาชน จัดแพทย์จากทุกโรงพยาบาลในจ.ยะลาไปช่วยบริการในรพ.บันนังสตา วันละ 3 คน ประมาณ 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และขอความร่วมมือประชชนคำนึงถึงความปลอดภัยบุคลากรสาธารณสุขอย่าปกปิดข้อมูลประวัติเสี่ยง

เช้าวันเดียวกัน ที่รพ.สนามธรรมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิท-19 จำนวน 2 รายแรกเดินทางเข้าที่พักที่ชั้น 8 ท่ามกลางมาตการควบคุมอย่างเข้มงวดของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ โดย รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า สำหรับอาคารที่ถูกจัดเตรียมรองรับผู้ป่วยภายในด้านหลังของมหาวิทยาลัย อาคารสูง ชื่อ Dluxx Thammasat มีลักษณะเป็นหอพัก 14 ชั้น มีความเหมาะสมต่อการจัดพื้นที่รองรับได้มาตรฐาน โดยเตรียมติดตั้งกล้องวงจรเพิ่มเติม และจัดระบบการรับผู้ป่วย และยาเวชภัณฑ์ บุคลากรทางการแพทย์ แต่เมื่อปริมาณผู้ป่วยสูงขึ้นอาจจะต้องให้บุคลากรจากโรงพยาบาลเครือข่ายมาช่วยสนับสนุน ทั้งนี้โรงพยาบาลทุกสังกัดทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีความร่วมมือกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากโควิด-19 เป็นเรื่องใหม่ รัฐบาลให้ความสำคัญและให้ความสนใจ และให้การสนับสนุนโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ รัฐบาลมีงบประมานเพียงพอให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าทุกท่านจะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สธ. ได้ร่วมพิธีรับมอบเวชภัณฑ์ จากมูลนิธิแจ็คหม่า และมูลนิธิอาลีบาบา ประกอบไปด้วยหน้ากากอนามัย 5 แสนชิ้น ชุดป้องกันเชื้อโรค (Ppe) 5 หมื่นชิ้น และหน้ากาก N95 จำนวน 5 หมื่นชิ้น รวมไปถึงความช่วยเหลือจาก Bank of America ซึ่งจัดหาหน้ากาก N95 มาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปที่กล่าวตำหนิบุคคลากรการแพทย์ที่ติดเชื้อว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด เพราะที่ผ่านมา เราสนับสนุนการทำงานของแพทย์เต็มที่ เรามีมาตรการระมัดระวังอยู่ตลอด ไม่ใช่ไม่มีมาตรการป้องกันหรือลดความเสี่ยงให้บุคลากรทางการแพทย์ สำหรับเรื่องแพทย์ที่ติดเชื้อจากการทำงานนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิ หรือต่อว่า เพราะตนรู้ดีว่า ทุกคนทำงานหนัก และเสี่ยงชีวิต อยู่แล้ว แต่ที่ตำหนิ คือบุคลากรทางการแพทย์ที่ไปติดเชื้อมาจากการไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงแล้วติดเชื้อ แต่ยังมาทำงานทำให้เจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆต้องถูกกักตัว เสียกำลังขาดบุคลากรที่จะมาทำงานให้ประชาชนไปด้วย และตนได้เตือนบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนว่าในฐานะที่เป็นข้าราชการสาธารณสุข ต้องปฏิบัติเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน 

“ประเด็นที่ต้องการสื่อสารมีเพียงเท่านี้ ไม่มีเจตนาที่จะตำหนิแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนักอยู่ในขณะนี้ มีแต่ให้กำลังใจกันทุกวัน แต่หากการสื่อสารทำให้เข้าใจผิดก็ขอชี้แจงให้ทราบตามนี้”นายอนุทินกล่าว

ก่อนหน้านี้นายอนุทินได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในเรื่องมาตรการป้องกันความเสี่ยงของแพทย์และกรณีมีแพทย์ที่ติดเชื้อไปแล้ว โดยกล่าวว่า "เท่าที่ผมได้รับรายงานมานะครับ การติดเชื้อของแพทย์จากการปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาโควิดยังไม่มี นี่คือสิ่งที่จะต้องไปคิดกันนะครับ อันนี้ต้องยอมรับ พวกเราก็ไม่พอใจนะครับ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่เฝ้าระวังตัวเอง ซึ่งเราควรจะต้องเป็นบุคคลตัวอย่าง ต่อให้ไม่เป็นบุคคลตัวอย่างนี้เราก็จะต้องเป็นคนที่ Alert ตัวเองตลอดเวลาว่า ช่วงนี้มีสถานการณ์ระบาดโรคแบบนี้เราต้องเซฟตัวเองให้มากที่สุด”

ทั้งนี้ภายหลังคำพูดดังกล่าวเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากรวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนก็โพสต์รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดและรู้สึกท้อใจด้วย กระทั่งนายอนุทินออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ตำหนิหมอและบุคลากรการแพทย์ที่ทำหน้าที่สู้ไวรัส

 

 

 

 

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เรือนจำกลางราชบุรี พบผู้ต้องขังชายได้รับการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ 1 ราย อายุ 60 ปี เป็นผู้ต้องขังในคดี พ.ร.บ.ยาเสพติด ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปาก ขณะนี้สอบสวนสาเหตุของการติดเชื้อ นับเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 สำหรับเรือนจำจังหวัดสระบุรีและเรือนจำกลางฉะเชิงเทราที่มีผู้ต้องขังต้องสงสัยพบว่ามีผู้ต้องขังแห่งละ 1 ราย เนื่องจากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมที่ติดเชื้อนั้น ขณะนี้ทราบผลการตรวจพิสูจน์แล้วยืนยันผลเป็นลบไม่พบเชื้อทั้ง 2 ราย ดังนั้นผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็นรายที่ 2 ในเรือนจำจังหวัดราชบุรี ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะได้ติดตามสถานการณ์การเจ็บป่วยของผู้ต้องขังในทุกเรือนจำอย่างใกล้ชิดทุกวันเพื่อจำกัดจำนวนผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงติดโรคระบาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมคณะ ได้เข้าแจ้งต่อผู้ประกอบการคอนโดมีเนียม ย่านถนนบึงพระจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนที่ผ่านมา(25มี.ค.) หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นหญิงสาววัย 43 ปีอาชีพเทรนเนอร์ที่อาศัยอยู่คอนโดดังกล่าว และพบผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่มอีก 2 ราย โดยรายแรกเป็นลูกของเทรนเนอร์สาว อายุ 20 ปีที่อาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน ส่วนอีก 1 รายเป็นแรงงานที่กลับจากกรุงเทพฯมาอยู่ที่ภูมิลำเนาเดิมที่ อ.เนินมะปราง และมีคำสั่งปิดอาคารชุดที่พักดังกล่าว ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 เมษายน และห้ามผู้ใดเข้าไป และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขคัดกรองผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดดังกล่าว

มีรายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สธ.ได้ประสาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) วานนี้(25 มี.ค.)โดยแจ้งให้ทราบว่า สธ.ได้ตรวจพบมีผู้ติดเชื้อโดยสารมากับเที่ยวบินของการบินไทย 2 เที่ยวบิน คือ เที่ยวบิน TG 923 เส้นทาง แฟรงก์เฟิร์ต-กรุงเทพฯ ของวันที่ 14 มีนาคม และเที่ยวบิน TG 923 เส้นทาง แฟรงก์เฟิร์ต–กรุงเทพฯ วันที่ 17 มีนาคม โดยวันนี้(26มี.ค.)ได้สั่งให้ลูกเรือทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 2 เที่ยวบินดังกล่าวกักตัว 14 วัน นอกจากนี้ได้ทำการพ่นย่าฆ่าเชื้อและทำความสะอาดในอากาศยานเรียบร้อยแล้ว

เช่นเดียวกับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รับแจ้งจาก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า MRT ว่ามีพนักงานประจำสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ติดเชื้อไวรัส เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารจึงได้ปิดสถานีดังกล่าว เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ทั้งนี้ได้ปิดพื้นที่ห้ามประชาชนเข้า–ออกสถานี และขบวนรถไฟฟ้าจะไม่ทำการจอดที่สถานีดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้(26มี.ค.) เป็นต้นไป โดยการให้บริการเดินรถสถานีอื่นยังคงให้บริการตามปกติ

 

 

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ