โลกผวา'โควิด-19'หลายชาติปิดประเทศ จะถึงคิวไทยเมื่อไหร่ ขณะที่ประชาชนแตกตื่น เตรียมรับมือระยะ 3 แห่ซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกักตุนแล้ว
วันนี้ปัญหาโควิด-19 หมดเวลาที่จะมาพูดเรื่องของการดิสเครดิตทางการเมืองแล้ว เพราะมันคือมหันตภัยไวรัสถ้วนหน้า!
โดยนับแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งมีแหล่งกำเนิดการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เวลานี้ได้ขยายวงกว้างออกไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศแล้ว
แต่พอมองมาที่รัฐบาลไทย ทำไมเหมือนยังไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ จนทำให้วลีที่ว่า “...เราจะตายกันหมด” เหมือนมันมาจ่ออยู่หน้าประตูบ้าน!!
อ่านข่าว-ยอดติดไวรัสโรคโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 1.5 แสนแล้ว
ยิ่งเมื่อหันไปมองถึงรัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลกกับการรับมืออย่างเด็ดขาด ทั้งที่บ้านเมืองเขาเองก็มีระบบบริหารจัดการที่ดี มีความเจริญรุดหน้าในทุกมิติก็ยิ่งสะท้อนใจ
เมื่อถึงคราวที่พลเมืองของตนเองจะต้องเสี่ยงภัยถึงชีวิต เขาก็เลือกที่จะรักษาปกป้องชีวิตของคนที่เขาดูแลก่อน เพราะถ้าคนของเขาเดือดร้อน ล้มตาย หายนะมันก็ลามทั้งประเทศอยู่ดี
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ทั่วโลกรายงานเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 145,369 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,429 คน และมีอาการดีขึ้น 71,694 คน อ้างอิงข้อมูลจาก Johns Hopkins CSSE
ทั้งนี้รวบรวมข้อมูลทั้งจากข่าวสารและรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรคทำให้รู้สึกได้ทันทีว่านานาชาติต่างมีวิธีการสกัดโควิดที่เข้มข้นจริงจัง ต่างจากบ้านเราเอง ที่คนไทยยังงงๆ ว่าเรากำลังรออะไรอยู่?
ชาติยุโรปปิดประเทศ
สถานการณ์โควิด-19 แม้แรกเริ่มกำเนิดที่จีน แต่ล่าสุด ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า “ยุโรป” คือศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แห่งใหม่ของโลก
ดังนั้นข่าวล่าสุดช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ทั้งสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศเชงเก้นมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน/ประกาศกักบริเวณ/ปิดประเทศไปแล้ว 8 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เดนมาร์ก ฮังการี สาธารณรัฐเช็ก สโลวะเกีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ และนอร์เวย์
อิตาลี ประกาศปิดประเทศและห้ามกิจกรรมสาธารณะทั้งหมด สั่งห้ามผู้เดินทางจากอิตาลี จีน เกาหลีใต้และอิหร่านเข้าประเทศ ยกเว้นประชาชนชาวฮังการีที่เดินทางมาจากสถานที่เหล่านั้น ซึ่งต้องกักกันตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์
เดนมาร์ก มีมาตรการการควบคุมการผ่านแดนเข้าประเทศทั้งหมดชั่วคราว เริ่มตั้งแต่ 14 มีนาคม ถึง 13 เมษายน 2563 หรือราว 1 เดือน
โปแลนด์ มีมาตรการปิดชายแดนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม มีผลระยะเวลา 10 วัน แต่อาจขยายเวลาขึ้นกับสถานการณ์และห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติจีนเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม 2563 และกำหนดให้กักกันตัวเอง 14 วัน สำหรับพลเมืองที่เดินทางกลับบ้านเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค
สาธารณรัฐเช็ก มีมาตรการห้ามชาวเช็กและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักเดินทางออกนอกประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 ยกเว้นนักท่องเที่ยว โดยผู้เดินทางกลับจาก 15 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องกักตัวเองโดยไม่มีข้อยกเว้น และระงับคำร้องของชาวต่างชาติในการขอรับตรวจลงตราแบบเชงเก้น ระยะยาว และถาวร เป็นการชั่วคราว
สโลวะเกีย ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศซึ่งมีผลบังคับใช้เวลา 07.00 น. ตามเวลาของบัลแกเรียในวันที่ 12 มีนาคม เพื่อให้มาตรการที่จำเป็นได้ถูกดำเนินการในการลดผลกระทบจากโรคดังกล่าว
นอร์เวย์ ประกาศปิดประเทศเพื่อควบคุมไวรัสเป็นเวลา 2 สัปดาห์ปิดสถานศึกษา งดกิจกรรมกลางแจ้งและชุมนุมในที่สาธารณะทุกชนิด ร้านอาหาร ยิม ร้านตัดผม หรือบริการใดก็ตามที่ไม่สามารถกันให้ลูกค้า อยู่ห่างเกิน 1 เมตรได้ก็จะถูกบังคับให้ปิดด้วย
สวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลทีชีโน ประกาศปิดโรงเรียนภาคบังคับทั้งหมดในมณฑล ในวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม หลังจากที่รัฐโว (Vaud) และรัฐฟรีบูร์ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปิดโรงเรียนทุกแห่ง มีผลจนถึงสิ้นเดือนเมษายน โดยมีคาดการณ์ว่าที่สวิตเซอร์แลนด์จะยกระดับทั้งประเทศแน่นอน
ลิทัวเนีย เมืองวิลนีอุสได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดด้วยการหยุดกิจกรรมของสถานศึกษาและปิดสถานบันเทิงสาธารณะพร้อมทั้งระงับกิจกรรมของโรงภาพยนตร์สโมสรกีฬา
พี่กันยังเข้ม
ศุกร์ 13 ที่ผ่านมานี้เอง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงประกาศให้การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ในสหรัฐ “เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ”
ขณะที่ยังห้ามเรือสำราญจอดเทียบท่าทุกแห่งในประเทศเป็นเวลา 30 วัน มีผลนับตั้งแต่เที่ยงคืนเข้าสู่วันเสาร์ที่ 14 มีนาคมนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
และแน่นอน สหรัฐยังเป็นอีกประเทศที่ไม่ประมาทเรื่องการแพร่เชื้อจากการเดินทางเข้าประเทศของผู้คนที่ต่างๆ โดยได้ประกาศห้ามผู้ที่เดินทางทั้งหมดจากยุโรปเข้าสหรัฐ เป็นเวลาทั้งสิ้น 30 วัน ยกเว้นอังกฤษ โดยกฎดังกล่าวนี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 13 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป
อินเดียปิดตาม
แม้แต่ประเทศที่เราวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดเรื่องสุขภาวะของผู้คนอย่างอินเดีย เวลานี้รัฐบาลของเขาก็ไม่นั่งเฉย โดยได้สั่งห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศและระงับวีซ่าท่องเที่ยวทั้งหมดแล้ว ภายหลังยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มเป็น 60 ราย
โดยอินเดียระงับวีซ่าทั้งหมดที่เคยให้ไปแก่ประชาชนต่างสัญชาติที่จะเดินทางมาอินเดียไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยให้มีผลบังคับมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2563
แต่มาตรการนี้ยกเว้นกับวีซ่าทางการทูต วีซ่าทางการ วีซ่าสำหรับสหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศ วีซ่าทำงาน และวีซ่าโครงการ
ส่วนวีซ่าท่องเที่ยวฟรีที่รัฐบาลให้แก่กลุ่มคนที่ถือบัตรอินเดียโพ้นทะเลจะถูกระงับเช่นเดียวกัน โดยหากชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมายังอินเดียด้วยความจำเป็นให้ติดต่อสถานกงสุลเป็นกรณีพิเศษ
ส่วนผู้ที่กำลังเดินทางมาอินเดียรวมถึงชาวอินเดียที่มีประวัติเดินทางมาจากจีน อิตาลี อิหร่าน เกาหลี ฝรั่งเศส สเปน และเยอรมนี ภายหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ต้องถูกกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ตั้งแต่ 13 มีนาคม 2563
เนปาลปิดเขา
แม้แต่รัฐบาลเนปาลที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อ “1 ราย” ล่าสุดก็ยังออกมาประกาศยกเลิกการอนุญาตปีนเขาทั้งหมดจากวันที่ 14 มีนาคมนี้ถึง 30 เมษายน ขณะที่ทางการจีนก็ยกเลิกการปีนเขาจากด้านทิศเหนือ ด้านที่จีนควบคุมไปแล้ว
โดยสำหรับฤดูกาลปีนเขาปี 2563 จะถูกยกเลิกทั้งหมด เพราะถึงที่สุดชีวิตพลเมืองก็มีค่ามากกว่า
เพื่อนบ้านเรานำหน้า
ล่าสุดรัฐบาลเวียดนามออกมาตรการในการเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติ (เว้นผู้เดินทางเพื่อราชการ) มีผล 30 วัน ตั้งแต่ 15 มีนาคม โดยจะระงับการเข้าเวียดนามของผู้ที่เดินทางจาก/ผ่านกลุ่มประเทศเชงเกน และ/หรือสหราชอาณาจักรในช่วง 14 วันก่อนหน้า เข้าเวียดนาม
ระงับให้วีซ่าตรวจลงตราที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับทุกสัญชาติต่างประเทศ ส่วนต่างชาติที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้จัดการธุรกิจ แรงงานทักษะสูง ที่เข้าเวียดนาม จะต้องถูกตรวจสุขภาพและอาจถูกกักตัว
สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ส กำหนดระงับเที่ยวบินจากกรุงลอนดอน กรุงปารีส นครแฟรงก์เฟิร์ต เข้าเวียดนาม ตั้งแต่ 15 มีนาคม เป็นการชั่วคราว ส่วนเที่ยวบินจากเวียดนามไปยุโรปยังคงดำเนินการต่อไป
ส่วนฟิลิปปินส์ประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกจากบ้านที่อยู่ในพื้นที่ “กรุงมะนิลา” ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปในเขตเมืองหลวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง