ข่าว

งัด 14 มาตรการสู้ "โควิด-19" รัฐทุ่มแจกหน้ากาก 50 ล้านชิ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

งัด 14 มาตรการสู้ "โควิด-19" รัฐทุ่มแจกหน้ากาก 50 ล้านชิ้น "สธ." สั่งกักตัว 9 ประเทศเสี่ยง ถกวันนี้ "ผีน้อย" แห่กลับ

 

               ครม.ไฟเขียว 1,233 ล้านสู้ “โควิด” “บิ๊กตู่” ผุดกองทุนแก้ปัญหาไวรัส รมต.แห่สละเงินเดือน ประกาศ 14 มาตรการเข้มป้องระบาด ตั้งศูนย์ข้อมูลที่ทำเนียบ-ให้หลีกเลี่ยงจัดกิจกรรมชุมนุมคนหมู่มาก เผยรัฐทุ่ม 225 ล้านให้ อปท.ผลิต “หน้ากากผ้า” 50 ล้านชิ้นแจกประชาชน กำชับใช้กฎหมายเข้มพวกโก่งราคา นัดถกวันนี้ปัญหา “ผีน้อย” ในเกาหลีใต้ขอกลับไทยอื้อ ด้าน สธ.เล็งใช้เทคโนโลยีช่วยติดตาม “อนุทิน” ประกาศ 9 ประเทศเขตโรคติดต่ออันตรายต้องกักตัว 14 วันไม่มีข้อยกเว้น ส่วนอิหร่านยอดตายพุ่ง 66 ราย สหรัฐดับแล้ว 6 ขณะที่รัสเซียมีผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว


อ่านข่าว ก.แรงงานสั่งจับตา "ผีน้อย" ล็อตใหญ่กลับไทย

อ่านข่าว ตม.แจงยิบเข้มคัดกรอง "ผีน้อย" ปัดป่วยโควิด 8 ราย

 

               เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การผลิตหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนว่า เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) กระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

               โดยต้องไปดูกำลังการผลิตเรามีโรงผลิต 11 แห่ง ผลิตหน้ากากได้ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน ได้เร่งกำลังการผลิตให้เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง และต้องจัดสรรส่วนหนึ่งใช้ในทางการแพทย์ 350,000 ชิ้นต่อวัน ส่วนที่เหลือก็จะนำไปจำหน่าย โดยจะกระจายไปให้ทั่วถึง ทั้งร้านค้า ร้านสะดวก และร้านในท้องถิ่น อย่างไรก็ตามอยากให้เข้าใจว่าการผลิตหน้ากากอนามัยนั้นต้นทุนวัสดุมาจากต่างประเทศทั้งสิ้นทั้งจีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย แต่ละประเทศได้ลดการส่งออกวัสดุเหล่านี้ ก็เป็นปัญหาที่เราเผชิญ

 

               นอกจากนี้ได้ให้กระทรวงพาณิชย์ไปตรวจสอบเพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์จากการกักตุนเพื่อส่งออกขายต่างประเทศหากพบจะลงโทษเด็ดขาดซึ่งได้ดำเนินคดีแล้ว 51 คดี โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท ขอเตือนการค้าขายทางออนไลน์ที่มีการหลอกลวงสั่งซื้อแล้วไม่ได้

 

               นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดทำโครงการหน้ากากอนามัยผ้าทางเลือก โดยกระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่าสามารถป้องกันการแพร่กระจายได้ โดยจะเร่งผลิตภายใน 10 วันให้ได้ 50 ล้านชิ้น โดยท้องถิ่นดำเนินการด้วย อย่างไรก็ตามเป็นห่วงหน้ากากที่ใช้แล้วต้องทิ้งในที่จำกัดเนื่องจากเป็นขยะที่ติดเชื้อ แต่เห็นมีการทิ้งไปทั่ว ทิ้งลงแม่น้ำ ทุกคนต้องช่วยกันดูแล ถ้าให้รัฐบาลทำอย่างเดียวก็ต้องมีมาตรการเข้มงวด ขอให้ทุกคนช่วยกัน 

 

               นอกจากนี้มีมติครม.ในวันนี้เป็นข้อสั่งการในมาตรการเร่งด่วนจากสถานการณ์และมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขในการควบคุมโรคเพิ่มเติม มาตรการปฏิบัติตัวของผู้ที่ต้องสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน และหากการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 รัฐบาลก็มีมาตรการล่วงหน้าไว้แล้วเพื่อจะใช้ได้โดยทันที

 

               สำหรับกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายที่จะเดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ หรือผีน้อย จะมีการประชุมเรื่องมาตรการอีกครั้งหนึ่ง และจะออกในวันที่ 4 มีนาคม เพราะหากจะต้องกักตัวทั้งหมดปัญหาคือจะควบคุมคนจำนวนมากได้อย่างไรเนื่องจากมีหลายพันคนและอาจจะเป็นหมื่นคน ต้องดูจากต้นทางด้วยเพราะทางเกาหลีใต้ก็มีการดำเนินมาตรการ ซึ่งเมื่อกลับมาถึงไทยก็ต้องถูกกักตัว 14 วัน จะต้องหาวิธีการที่เหมาะสมอีกครั้ง และรู้ว่าประชาชนยังไม่ค่อยมั่นใจ หวาดกลัว ไม่มีอะไรที่จะหวังผลได้ 100% เพราะเรื่องนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ 

 

               ในส่วนของสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ ยาที่ผลิตเองตอนนี้มีพร้อมแล้วแต่ต้องทดลองการใช้ก่อน พร้อมขอความร่วมมือเรื่องการไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากอะไรที่เลื่อนได้ก็อยากให้เลื่อน อยากให้นึกถึงสุขภาพประชาชนเป็นหลัก เพราะหากมีการติดเชื้อก็จะเกิดการแพร่กระจายไปในคนหมู่มาก

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการเรื่องมาตรการระยะเร่งด่วนยกระดับป้องกันระบาดโดยออกเป็นคำสั่งจำนวน 14 ข้อ อาทิ ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปดูงานฝึกอบรมหลักสูตรหรือประชุมในประเทศที่มีการระบาดและประเทศที่มีการเฝ้าระวัง ให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่เดินทางกลับ หรือเดินทางผ่าน หรือมีเส้นทางแวะผ่านประเทศเสี่ยงจำเป็นต้องสังเกตอาการก่อนปฏิบัติงานภายใน 14 วัน 

 

               ส่วนประชาชนทั่วไปให้จัดการขนส่งกลับภูมิลำเนาหรือไปยังสถานพยาบาลที่เหมาะสม รวมถึงการกำกับดูแลกักกันตัวเองในที่พักอาศัย โดยให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชน จิตอาสา อาสาสมัคร สาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และสถานพยาบาลในพื้นที่ในการติดตามเฝ้าระวังตรวจสอบ 

 

               นอกจากนี้จัดให้มีศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกส่วนราชการและให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคเอกชนให้หลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโดยไม่จำเป็น เป็นต้น (อ่านรายละเอียด หน้า 3)

 

               ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอของบกลางจำนวน 1,233 ล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาการระบาดในระยะที่ 2 ภายในห้วงระยะเวลา 3 เดือน คือมีนาคม-พฤษภาคม แบ่งเป็น 1.การเฝ้าระวัง คัดกรอง ตรวจจับ และติดตามผู้สัมผัส ผู้ติดเชื้อ ที่ช่องทางเข้าออกทุกช่องทาง ทั้งสนามบิน ช่องทางธรรมชาติ ทางเรือ พื้นที่โรงพยาบาลในชุมชน 2.การดูแลรักษา ตรวจวินิจฉัย รักษาผู้ป่วยติดเชื้อ และ 3.การสื่อสารความเสี่ยง ลดผลกระทบด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนการประสานงาน ตัดสินใจ และการบูรณาการทำงานร่วมกัน

 

ครม.สละเงินเดือนเข้ากองทุน

 

               นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัญมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่าในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เสนอตั้งกองทุนแก้ปัญหาโควิด-19 เพื่อให้รัฐมนตรีแต่ละคนบริจาคเงินเข้ากองทุนดังกล่าวในการดำเนินการจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชน แต่ไม่ได้กำหนดจำนวนเงิน อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีก็ได้เสนอให้เงินเดือน 1 เดือนของรัฐมนตรีแต่ละคน

 

               ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติงบกลางรายการสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินปี 2563 เพื่อเดินหน้าโครงการ “พลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา” วงเงิน 225 ล้านบาทเพื่อนำไปผลิตหน้ากากผ้าเป็นทางเลือกให้ประชาชนจำนวน 50 ล้านชิ้น เฉลี่ยต้นทุนอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 4.50 บาท โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโดยกระจายให้ชุมชนต่างๆ เป็นผู้ผลิตเพื่อแจกให้ประชาชนทั่วประเทศซึ่งโครงการนี้ดำเนินการได้ทันทีเพราะท้องถิ่นมีความพร้อมอยู่แล้ว

 

พณ.คุมเข้มรง.กระจายหน้ากาก

 

               น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่าจากข้อกังวลของประชาชนเรื่องหน้ากากอนามัยขาดแคลนนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม. ให้ทราบในส่วนการผลิตมีทั้งหมด 11 โรงงาน มีกำลังการผลิต 36 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยนายจุรินทร์ได้ขอให้โรงงานทั้ง 11 แห่งเร่งการผลิตตลอด 7 วัน โดยจะผลิตได้ 38 ล้านชิ้นต่อเดือน ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถผลิตได้มากกว่านี้ เนื่องจากวัตถุดิบตัวกรองหรือฟิลเตอร์ต้องนำเข้าจากจีนและไต้หวัน 

 

               แต่ขณะนี้สถานการณ์ไวรัสในจีนและไต้หวันทำให้ส่งวัตถุดิบได้ยากมากขึ้นจึงหันไปที่อินโดนีเซีย แต่อินโดนีเซียได้ชะลอการส่งมอบและขอขึ้นราคาเกือบ 1 เท่าตัว ทำให้นายจุรินทร์สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกแสวงหาว่ามีประเทศใดมีตัวกรองจำหน่ายด้วย 

 

               นอกจากนี้ภายหลังพบการลักลอบขายและกักตุนหน้ากากอนามัย นายจุรินทร์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปประจำที่ 11 โรงงานเพื่อตรวจสอบการผลิตและกระจายสินค้าว่าไปที่ใด พร้อมให้ข้อมูลกลับมาที่กระทรวงพาณิชย์ทุกวัน รวมถึงส่งข้อมูลมายังศูนย์กระจายหน้ากากเพื่อคำนวณความต้องการของหน่วยงานทางการแพทย์เพราะต้องให้หน่วยงานทางการแพทย์ได้รับหน้ากากเพียงพอและประชาชนเข้าถึงในราคาขายที่ 2.50 บาทต่อชิ้น

 

รัฐบาลมึนปัญหากักตัว“ผีน้อย”

 

               นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายในประเทศเกาหลีใต้กว่า 5,000 คนที่ขอเดินทางกลับประเทศไทย ว่าที่ประชุม ครม.กำลังพิจารณาแนวทางว่าจะดำเนินการกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาหรือไม่ แต่ปัญหาขณะนี้เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่เดินทางกลับมาคนใดที่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย เพราะไม่มีชื่ออยู่ในระบบ ปัจจุบันแรงงานไทยมีมากกว่า 30,000 คน 

 

               ส่วนมาตรการกักตัวคนไทยที่จะกลับมานั้นยอมรับว่าหากเดินทางกลับมาพร้อมกันจำนวนมากและมีความจำเป็นต้องใช้การกักตัวก็จะมีความลำบากมากกว่ากรณีของอู่ฮั่น เพราะครั้งนั้นมี 138 คน แต่กรณีแรงงานผิดกฎหมายเดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้มีจำนวนมากและอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสถานที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะกักตัวหรือไม่ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต จะมีรายชื่อแรงงานผิดกฎหมายบางส่วนเท่านั้น ซึ่งวันนี้จะกลับไปรวบรวมเพราะส่วนหนึ่งต้องขอรายชื่อจากหน่วยงานทางเกาหลีใต้ที่แรงงานผิดกฎหมายของไทยไปรายงานตัว 

 

               ทั้งนี้ขอฝากแรงงานไทยที่จะเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ต้องแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อไม่ให้เกิดกรณีปกปิดข้อมูลจนเกิดปัญหาบานปลาย อย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลปัญหานี้อย่างดีที่สุดเพราะแรงงานผิดกฎหมายก็เป็นคนไทย

 

ตม.พบแรงงานสงสัยติดเชื้อ7ราย

 

               ขณะที่ พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองโฆษก สตม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา มีแรงงานไทยที่ถูกผลักดันกลับมายังประเทศไทย โดยขึ้นจากท่าอากาศยานอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ มาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนทั้งสิ้น 7 คน พบคนมีไข้เข้าข่ายต้องสงสัย 2 คน จึงส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 5 คนได้บันทึกประวัติที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และให้กลับไปกักตัวดูอาการที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องที่เข้าไปตรวจเป็นระยะ 

 

               ซึ่งการกักตัวเองถือเป็นจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อตัวเองด้วย สำหรับจำนวนแรงงานไทยที่ประสงค์จะกลับประเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดแต่เบื้องต้นมีสายการบินที่เดินทางจากเกาหลีใต้มายังประเทศไทยรวม 18 ไฟลท์ แบ่งเป็นลงที่ท่าอากาศยานสุวรรรภูมิ 14 ไฟลท์ และท่าอากาศยานดอนเมืองอีก 4 ไฟลท์

 

ยึดมาตรฐานนศ.กลับจากอู่ฮั่น

 

               พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. กรณีแรงงานไทยในเกาหลีใต้ร้องขอกลับไทยกว่า 5,000 คน ว่าในเบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน เนื่องจากประเทศต้นทางไม่ได้กำหนดหรือประกาศปิดเมืองเหมือนเมืองอู่ฮั่น จึงไม่มีกฎหมายที่จะสามารถกักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาได้ ส่วนเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานที่เดินทางกลับมานั้นให้เป็นเรื่องของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่เดินทางกลับมา

 

               ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ถ้าได้รับอนุญาตจากเกาหลีให้เดินทางกลับมาได้ก็ต้องดูแลอยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศต้องร่วมมือกัน ส่วนเรื่องการกักตัวต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับการดูแลนักศึกษาที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น

 

แรงงานเผยทะลักกลับไทยอื้อ

 

               นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตัวเลขแรงงานไทยที่กลับจากเกาหลีใต้ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นับแต่เดือนธันวาคม 2562-1 มีนาคม 2563 มีคนไทยไปรายงานตัวแล้วกว่า 5,248 คน โดยแรงงานไทยเริ่มเดินทางกลับมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีเหตุการณ์โควิด-19 ระบาดซึ่งหากดูตัวเลขที่แจ้งกับทางตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2562 พบทยอยเดินทางกลับสัปดาห์ละ 200-400 คนโดยประมาณ แต่พอมีข่าวเรื่องโรคระบาดหนักในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ตัวเลขแรงงานไทยเข้ารายงานตัวสูงขึ้นอย่างมีนัย 

 

               เฉพาะล่าสุดช่วง 24 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม มียอดแรงงานไทยเดินทางกลับมาถึง 1,181 คนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวกระทรวงแรงงานมีความเป็นห่วงแรงงานกลุ่มสุดท้ายที่เข้ามาล่าสุดเนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ถึง 1,181 คน ขณะนี้กำลังประสานกับทางตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอที่พำนักอาศัยตามภูมิลำเนาของแรงงานทั้งหมดเพื่อส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามเฝ้าระวังแรงงานกลุ่มนี้

 

รับมือผีน้อยใช้เทคโนโลยีช่วย

 

               ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 43 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 73 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 90,216 ราย เสียชีวิต 3,080 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,026 ราย เสียชีวิต 2,912 ราย ซึ่งวันนี้ประเทศไทยอยู่อันดับ 15 ของโลก

 

               ส่วนกรณีแรงงานไทยเข้าเมืองผิดกฎหมายลักลอบทำงานเกาหลีใต้ต้องการจะเดินทางกลับไทยนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า สธ.กำลังประสานขอข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องระดับรัฐบาลที่ต้องบูรณาการความร่วมมือในการจัดการปัญหานี้ เบื้องต้นการติดตามแรงงานผีน้อยที่เดินทางกลับมาโดยกรมควบคุมโรคได้วางมาตรการและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการติดตามซึ่งสิ่งที่สธ.ต้องการข้อมูลโดยละเอียดทั้งชื่อที่อยู่ของบุคคลเหล่านี้โดยเร็วเพื่อจะรีบวางระบบรองรับและถ้ามีความจำเป็นต้องจัดเตรียมสถานที่รวมทั้งกำลังคนก็ต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคงเหมือนเช่นกรณีรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น

 

ประกาศ9ปท.เขตโรคติดต่อ

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติตต่ออันตราย กรณีโควิด-19 โดยกำหนดให้ 9 ประเทศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า) ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน ซึ่งนายอนุทินโพสต์ข้อควมผ่านเฟซบุ๊กว่า ทุกคนที่เดินทางมาจาก 9 ประเทศ ซึ่งเป็นเขตติดโรคต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้นตาม.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งหากสภาวการณ์ของโรคดังกล่าวสงบลงหรือมีเหตุอันสมควรจะมีการประกาศยกเลิกเขตติดโรคติดต่ออันตรายต่อไป

 

ตร.รวบมือโพสต์สร้างแตกตื่น

 

               วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท.ได้เข้าจับกุมบุคคลต้องสงสัยสร้างข่าวหลอกลวงเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 เขตห้วยขวาง กทม. เป็นร้านค้าในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักของผู้ที่โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ในทำนองว่ามีผู้เสียชีวิตในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 และมีผู้ถูกกักตัวตรวจสอบ 40 คน โดยโพสต์เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาอ้างว่าอ่านข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียแบบผ่านๆ และด้วยความตกใจ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรื่องจริงจึงโพสต์ลงไป นอกจากนี้ในวันเดียวกันที่ จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นหญิง 1 ราย ประกอบอาชีพค้าขาย หลังโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จกรณีโควิด-19 โดยควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ปอท.ด้วย

 

สังฆราชประทาน2ล้านซื้อหน้ากาก

 

               นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อที่ทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นเรื่องที่ดีแล้วเราก็ควรจะทำทุกวัน ให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย วันเดียวกันนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานเงินมา 2 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อหน้ากากอนามัยไปถวายพระสงฆ์ในวัดทั่วประเทศ โดยเน้นวัดที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก สำหรับมาตรการการดูแลพระสงฆ์เราจะเน้นดูแลวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีประชาชนเข้าออกเป็นจำนวนมาก โดยการทำความสะอาดทุกวัน และหากวัดไหนมีงบประมาณในการฉีดพ่นยาได้ก็จะเป็นเรื่องดีเพราะวัดก็ถือเป็นแหล่งชุมชนเช่นเดียวกัน

 

อิหร่านลามไม่หยุดตายพุ่ง66

 

               มีรายงานจากสื่อของทางการอิหร่าน ว่ามียอดเสียชีวิตใหม่เพิ่มอีก 12 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ เพิ่มเป็น 66 ราย ในจำนวนนี้มีนายโมฮัมหมัด มีร์โมฮัมมาดี อายุ 71 ปี ที่ปรึกษาของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งอิหร่าน ทั้งนี้มีรายงานว่า นายมีร์โมฮัมมาดี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของอิหร่าน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเตหะราน

 

               ก่อนหน้านี้นายโมฮัมหมัด อาลี รามาซานี ดัสทัก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอิหร่าน เสียชีวิตจากไวรัสเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ หลังตรวจพบติดไวรัสเพียงไม่กี่วัน ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อิหร่านกลายเป็นชาติที่มีการแพร่กระจายหนักที่สุดในตะวันออกกลางและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดรองจากจีนทำให้รัฐบาลอิหร่านตัดสินใจระงับการประชุมสภารวมทั้งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนดและงดการชุมนุมในที่สาธารณะด้วย

 

มะกันตายเพิ่มเป็น6-แห่ตุนสินค้า

 

               สำนักข่าวประเทศรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐ เพิ่มเป็น 6 คน ทั้งหมดอยู่ในรัฐวอชิงตัน ซึ่งมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของโรค ระบุว่าวัคซีนรักษาโรคน่าจะใช้ได้ในราวกลางปีนี้ 

 

               ทั้งนี้มีรายงานว่าความตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดทำให้ผู้คนในนครนิวยอร์กแห่กักตุนสินค้าจำเป็นทำให้สินค้าประเภททำความสะอาดและกระดาษชำระหมดจากชั้นวางอย่างรวดเร็ว แม้ทางการจะเรียกร้องขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกก็ตาม

 

               ส่วนนายรอน ไนเรนเบิร์ก นายกเทศมนตรีเมืองซานอันโตนิโอ ในรัฐเท็กซัส ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) ได้ปล่อยตัวหญิงชาวอเมริกันรายหนึ่งที่ติดเชื้อออกจากพื้นที่กักกันโรคหลังตรวจร่างกาย 2 ครั้งพบไม่ติดเชื้อแต่กลับพบว่าผลการตรวจสอบเพิ่มเติมบ่งชี้ว่าหญิงผู้นี้มีเชื้อไวรัสในร่างกาย ทั้งนี้ในฐานะนายกเทศมนตรีของเมืองไม่สามารถยอมรับการกระทำของซีดีซีที่ปล่อยตัวผู้ติดเชื้อรายนี้ ก่อนจะได้รับการยืนยันจากผลการทดสอบทั้งหมดเสียก่อนและมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะนำไปสู่การแพร่ระบาดในชุมชน

 

รัสเซียพบผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว

 

               วันเดียวกัน นายเซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกของรัสเซีย ระบุว่าคณะแพทย์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในกรุงมอสโก ทำให้ผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วยรายนี้ต้องเข้ารับการรักษาตัวจำนวน 24 คน และอีก 83 คนต้องถูกกักตัว โดยภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่พบสัญญาณบ่งชี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าชายคนดังกล่าวอาจติดเชื้อ เจ้าหน้าที่มีการระบุรายชื่อทั้งหมดของผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย ซึ่งรวมถึงญาติ เพื่อน คนคุ้นเคยและผู้โดยสารอื่นๆ ที่เดินทางในเที่ยวบินเดียวกับชายคนดังกล่าวที่มาจากอิตาลี และต่อมาก็ไปพบแพทย์ด้วยอาการติดเชื้อไวรัสทางระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลันและขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้วซึ่งนับเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในรัสเซีย

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ