ข่าว

สธ. พบอีก 2 คนไทยจากอู่ฮั่น เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ. แถลงพบอีก 2 คนไทยจากอู่ฮั่น เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ขณะ 4 ราย เตรียมออก รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มาพักฟื้นอาคารรับรอง ขณะที่กลุ่มเปราะบาง ยังคงเฝ้าดูแลพิเศษ

 

                 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 ที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การนำคนไทยกลับบ้านกรณีไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ณ สโมสรโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีการแถลงข่าวประจำวัน ดังนี้

                 อ่านข่าว ยอดเสียชีวิตไวรัสโคโรน่าในจีน 722 แซงโรคซาร์ส-ติดเชื้อ34,546

 

 

 

                 นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 6 เปิดเผยว่า ขณะนี้อันดับสถานการณ์ผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ของประเทศไทย ลดอันดับจาก 2 เป็นอันดับที่ 4 โดยภาพรวมถือว่าเราดูแลสถานการณ์เป็นอย่างดี นอกจากนี้ได้มีการคืนโทรศัพท์ให้กับผู้ที่เข้าพักในอาคารบ้านพักรับรองทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัว ลดความตึงเครียดได้ ในส่วนของกลุ่มเปราะบางจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย คนท้อง 2 เดือน ,เด็กเล็ก 6 เดือน ,เด็ก 2 ขวบ และเด็ก 3 ขวบ ทางทีมแพทย์ได้ดูแลเป็นพิเศษในขณะที่กลุ่มโรคประจำตัวก็ได้ให้ยาและดูแลเป็นอย่างดี

                 อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา(7 ก.พ.) เราพบผู้เข้าข่ายอีก 2 ราย โดยหนึ่งรายมีอาการเป็นไข้ต่ำ ไอ แต่อีกรายไม่มีอาการ แต่เนื่องจากพักห้องเดียวกันจึงต้องส่งไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจเช็ค และเอกซเรย์ จึงทำให้ขณะนี้มีผู้อยู่อาคารพักรอบรอง จาก 134 คน เหลือ 132 คน

                 สำหรับผู้ป่วยเดิม 4 ราย ที่พักรักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ผลตรวจเป็นลบ อาการดีขึ้น ไม่มีไข้หรือไอแล้ว เมื่อเกิดความมั่นใจก็จะส่งทั้ง 4 ราย ไปอาคารพักรับรองเป็นเวลา 14 วันตามมาตรฐาน ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่นั้นจะต้องปรึกษากับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง

                 "ทั้งนี้ยืนยันว่าทีมแพทย์ได้ติดตามอาการ ผู้พักอาคารรับรอง 132 คน อย่างต่อเนื่องและไม่ประมาท เนื่องจากทุกคนมาจากเมืองอู่ฮั่นที่เป็นพื้นที่ของเชื้อโรคจึงจะต้องมีการติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน"

                 ด้าน พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า หากในวันที่ 19 วันที่ครบกำหนดติดตามเฝ้าอาการ 138 คน หากมีใครไม่สามารถกลับบ้านได้ กองทัพเรือก็จะดูแลจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ