ข่าว

'อนุทิน'ของขึ้นไล่นักท่องเที่ยวไม่รับหน้ากากอนามัยกลับประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อนุทิน'ของขึ้นไล่นักท่องเที่ยวไม่รับหน้ากากอนามัยกลับประเทศ แต่สุดท้ายต้องโพสต์ขอโทษหลังคลิปคำพูด ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์และถูกวิจารณ์ตามมาอย่างหนัก

     วันนี้ (7 ก.พ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตำหนินักท่องเที่ยวบางคน ปฏิเสธรับหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ หลังกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม องค์การอนามัย นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บนชานชาลา สถานีรถไฟฟ้าสยาม

       "พวกฝรั่งนักท่องเที่ยว ต้องบอกไปยังสถานทูต บอกประชาชนทั่วไปด้วย ไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมรับ แบบนี้ต้องไล่ออกจากประเทศไทย" นายอนุทินกล่าว

          หลังจากคลิปคำพูดที่นายอนุทินไล่นักท่องเที่ยวออกจากประเทศ ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ตามมาอย่างหนัก

        จนนายอนุทินได้โพสต์ขอโทษผ่านเพจ อนุทิน ชาญวีรกูล แล้ว โดยระบุว่า

      เราพยายามทำงานกันเต็มที่ และสุดความสามารถ
       ณ ขณะนี้ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศ
       เพราะเราตื่นตัวก่อนและทำงานจริงจังตั้งแต่เริ่มต้น

       การที่เราควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่น่าพอใจ และได้รับคำชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพราะคนไทยมีความตื่นตัวให้ความร่วมมือและเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง รวมทั้งให้ความร่วมมือที่จะหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ให้คำแนะนำ เป็นอย่างดี

      ประเด็นสำคัญที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษ คือ สื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวด้วยดุลพินิจที่ดี ทำให้ประชาชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสาร มีความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง ด้วยความถูกต้อง รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ที่ช่วยกันหยุดการแพร่กระจายข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ที่ทำให้สถานการณ์สับสน และแย่กว่าความเป็นจริง

      แม้เราจะทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา แต่เราต้องทำให้ดีขึ้น และต้องไม่ประมาท เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และทุกชีวิตที่อยู่ในประเทศไทย

      ความร่วมมือกันของทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะภาคประชาชน และการตั้งรับสถานการณ์อย่างมีสติ จะทำให้เราฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ อย่างเข้มแข็ง

       กระทรวงสาธารณสุข จะทำงานหนัก และทำงานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของคนไทยทุกคน

     สำหรับคนที่กำลังเอาเปรียบ และ ค้ากำไรจากการกักตุน ขึ้นราคา หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ จนทำให้ประชาชนเดือดร้อน

      ถ้าท่านคิดว่าการมีความสุขบนความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อนร่วมชาติ เป็นเรื่องที่ควรทำ และไม่ละอายใจ ก็เชิญทำต่อไป

   ผมเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว  วันหนึ่ง เราคงได้คิดบัญชีกัน
  ..........
   ปล. ขออภัย ที่วันนี้ มีอาการ"หลุด" ใส่ชาวต่างชาติ แถบยุโรป บางคน ที่ แสดงอาการรังเกียจ คนไทยใส่ mask และ ไม่ร่วมมือในการใส่ mask ในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ในประเทศไทย

    เราไม่สามารถรู้ได้ว่า คนต่างชาติคนนั้นมาจากประเทศไหน ก่อนมาประเทศ ไทย และ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน การให้เกียรติและให้ความร่วมมือการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค คือ สิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่การปัดมือ และมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม เช่นที่ผมและคณะกระทรวงสาธารณสุข ได้รับวันนี้

     ขอขอบคุณ และขออภัยชาวต่างชาติทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือ ป้องกันการแพร่ระบาด แล้ว"

    และล่าสุดเมื่อ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา นายอนุทินได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง ....

    ผมไม่โกรธที่โดนด่า โดนวิจารณ์หยาบคาย และไม่รู้สึกผิดขณะที่แสดงอารมณ์  และใช้คำพูดกับ"ฝรั่ง" คนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติคนไทย และ มองเห็นมาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ตลก ขบขัน

    ผมมั่นใจว่า 100% ของคนที่ด่าและวิจารณ์ผม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมและคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ในเช้าวันนี้

'อนุทิน'ของขึ้นไล่นักท่องเที่ยวไม่รับหน้ากากอนามัยกลับประเทศ

     เพราะผมรู้ว่าคนที่ด่าและวิจารณ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมจึงไม่โกรธ แต่ รู้สึกเสียใจที่มีการแปลเจตนาของผม ผิดพลาดจากที่ผมต้องการจะสื่อสาร

ผมเพียงแต่จะบอกว่า ถ้าคนต่างชาติคนนั้น หรือคนไหนก็ตาม ไม่พร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่ควรจะเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

  ไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยังเห็นสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ปัดมือผมที่ยื่นหน้ากากอนามัย ให้ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย และแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามความปรารถนาดีของคนไทย

ผมไม่รู้สึกผิดที่ตอบโต้ ผ่านสื่อมวลชน ไปยังคนต่างชาติคนนั้น และคนอื่นๆ ที่ดูอยู่ เพื่อให้ได้รับทราบเจตนาของผมในฐานะคนไทย ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ผมอดทน อดกลั้นมากพอที่จะไม่ตอบโต้กับคนต่างชาติคนนั้น ด้วยท่าทีแบบเดียวกับที่เขาทำกับผม และคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข

ผมเป็นคนไทยที่ไม่เคยยอมให้ต่างชาติมาแสดงท่าที อาการเหยียด และดูถูกคนไทย

ผมมีเพื่อนต่างชาติเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ไม่เหยียดคนไทย แต่ต่างชาติบางคนที่แสดงท่าทีเหยียดคนไทย ผมไม่นับเป็นเพื่อน

ในบางประเทศ ในช่วงเวลานี้ มีข้อห้ามคนต่างชาติมากมาย แต่ในประเทศไทย เราเพียงขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันคนอื่น ติดเชื้อ เท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าใครเดินทางมาจากไหน ก่อนมาประเทศไทย

บางประเทศ ไม่รับคนจีนเข้าประเทศ แต่รับคนจากชาติต่างๆ เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง ปรากฎว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มมากขึ้นกว่าประเทศไทย เพราะเรามีมาตรการควบคุมโรค แบบของเรา ทำให้สถานการณ์ของเรา ดีกว่าบางประเทศ ในภูมิภาคนี้

เราทำด้วยความปรารถนาดี และห่วงใย คนไทย และคนต่างชาติเกือบ 100% ที่ได้รับหน้ากากอนามัย วันนี้ ยิ้มและขอบคุณรัฐบาลไทย ที่นำมาแจกให้ป้องกันตัวเอง มีเพียงรายเดียวที่เป็นกรณีปัญหา

ผมขออภัยที่แสดงอาการไม่เหมาะสมผ่านสื่อมวลชน ซึ่งมีผู้ชมหลากหลายรุ่นวัย แต่ผมไม่มีวันขออภัยคนต่างชาติคนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติ และรังเกียจ มาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย

ผมจะทำงานของผม ตามแนวทางของผมต่อไป จนกว่าประเทศไทย และคนไทย จะก้าวข้ามภาวะวิกฤติทางสุขภาพนี้ ไปได้ด้วยความปลอดภัย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ