หนุ่มโดนตำรวจล็อคล้อหลังจอดรถผิดที่รีบเอาถังออกซิเจนไปให้แม่

กลายเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองต้องเสียใจไปตลอดชีวิต หลังจากไปจอดรถยนต์ในที่จอดรมอเตอร์ไซค์ เพื่อรีบไปซื้อถังออกซิเจนให้แม่ที่ป่วย แต่โดนตำรวจล็อคล้อ จนเอาถังออกซิเจน ไปให้แม่ไม่ทัน 
 

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมชาย เพชรชุม ได้เผยเรื่องราวสุดสะเทิอนใจเอาไว้ว่า 

"วันนี้ผมทำผิดกฎจราจร​ จอดรถในที่จอดมอเตอร์ไซด์เพรสะรีบเข้าไปเช่าเครื่องอ๊อกซิเจนไปให้แม่ที่ป่วย​ อ๊อกซิเจนใกล้หมด​ ผลถูกล็อคล้อต้องเสียค่าปรับ500ครับ​ประเด็นคือผมพยายามบอกตำรวจคยนั้นแล้วแต่เขาไม่ยอมฟังต่องให้ไปจ่ายค่าปรับก่อนจึงจะปลดใหผลก็คือผมเอาอ๋อกซิเขนไปให้แม่ไม่ทันครับแม่จากำปโดยสงบเวลา​11.25ครับ ขอบอกตำรวจคนนั้นท่านรัักษากฎหมายดีมาก​ แต่ท่านขาดจริยะธรรมครับท่านคงภูมิใจที่ท่านยึดตามกฎหมาย​ หวังว่าท่านคงมีความสุขกับเหตุการณ์ครังนี้น่ะครับเหตุเกิดที่ข้างโรงพยาบาลหาดใหญงันนี้ครีบ"

ทำให้มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลยจริงๆ หากเป็นกรณีฉุกเฉินแบบนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถใช้ดุลยพินิจได้ 

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก โซเชียล ฮันเตอร์ ได้นำเรื่องราวนี้มาตีแผ่เพิ่มขึ้นในอีกมุมว่า “โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง แทนที่จะเตรียมเมื่อรู้ว่าใกล้หมด แต่นี่รอจนมันจะหมด ถึงมาเอา แล้ว อีกอย่าง ทำผิด พี่ตั้มเขาก็ทำตามหน้าที่ เขาไม่รู้หรอก เรื่องแม่คุณ และอีกอย่าง นิสัย สันดานคนไทย ทำผิดชอบอ้างถึงความจำเป็น และพี่ตั้มเขาคงเจอมาบ่อยๆ ..”

จนล่าสุดลูกสาวของชายเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้เข้ามาอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า “หนูเป็นลูกของคนโพสต์นะคะ ขอสรุปเรื่องที่ไม่ได้เตรียมถังให้ฟังนะคะ คือว่าคุณย่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลวันเสาร์ แล้วครอบครัวไม่มีความรู้เรื่องถังออกซิเจนจริงๆ เตรียมถังไว้ 2 ถัง ไม่ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ด้วย

อีกอย่างคือ คุณย่าอยู่กับคุณน้า (น้องสาวของพ่อ) ซึ่งบ้านก็ค่อนข้างไกลกันอยู่นะคะ แต่พ่อก็ไปหาทุกวันแล้วก็มีรถของคุณพ่อคนเดียวที่สามารถเอาแก๊สไปเปลี่ยนได้ ด้วยความที่บ้านคุณน้ามีแต่ผู้หญิงอะค่ะ พอวันนี้คือวันอาทิตย์ที่พ่อไปก็เลยได้รู้ว่าถังนึงมันใช้ได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วถังล่าสุดก็กำลังจะหมดอยู่ตอนเที่ยงวันแล้ว