พอลลีน หยาง สตรีผู้เป็นที่รักแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกง

 

                  เพซบุ๊ก "เก้ากระบี่เดียวดาย" โพสต์บรรยายเรื่องราวชีวิตที่น่าประทับใจก่อนจะประสบความสำเร็จของหญิงชาวฮ่องรายหนึ่งนามว่า พอลลีน หยาง โดยโพสต์ระบุว่า.. ไม่มีงานต่ำ ถ้ากระทำด้วยจิตใจสูง

                  ในช่วงเย็นของวันที่ 15 เมษายน 2018 พิธีมอบรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกงครั้งที่ 37 มีทีมงานมากระซิบกับเธอว่า “เดี๋ยวพิธีกรจะเรียกชื่อคุณ คุณก็แค่เดินออกไปนะ”

 

 

 

 

 

                  สตรีวัย 68 ยืนอยู่หลังเวที ร่างกายของเธอสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากความตึงเครียด จนต้องสวดภาวนาในใจและพยายามทำให้ตัวเองสงบลงโดยเร็วที่สุด เธอกำลังจะรับรางวัล Professional Spirit Award จากมือของเฉินหลง ดาราที่เคยร่วมงาน แต่ที่เธอจะยื่นของให้กับเขา ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขาหยิบยื่นของให้กับเธอบ้าง เมื่อเขารู้ว่าเธอจะได้รับรางวัลนี้เฉินหลงรีบบินกลับมาเพื่อมอบรางวัลนี้ให้กับเธอด้วยตัวของเขาเอง

                  ย้อนกลับไปในปี 1980 เธอเข้าสู่วงการภาพยนตร์ฮ่องกง ด้วยความที่เธอไม่เคยได้เรียนหนังสือ งานแรกที่เธอได้รับคือ “งานของเธอก็แค่คอยดูแลผู้กำกับและพวกนักแสดง ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น” โปรดิวเซอร์บอกกับเธอเช่นนั้น

 

 

 

 

                  ในช่วงแรกด้วยการไม่รู้หนังสือ เธอจึงจดจำตัวหนังสือที่จดอยู่บนแก้ว และผู้กำกับกับนักแสดง เธอทุ่มเทกับงานนี้เป็นอย่างมาก เมื่อหยุดถ่ายทำเธอจะพยายามสังเกตุว่าใครเป็นใครชอบดื่มอะไร ชอบทานอะไรตอนไหน

                  "สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ง่ายที่สุด" ดั่งที่โปรดิวเซอร์บอกเธอ เมื่อนักแสดงพักระหว่างการถ่ายทำ เธอจะเข้ามาพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยผ้าเช็ดหน้าและถ้วยด้วยที่เธอไม่รู้หนังสือ เธอจะพยายามแยกแยะและจดจำชื่อที่เขียนบนถ้วยอย่างชำนาญ และมอบมันให้กับนักแสดงและผู้กำกับอย่างไม่ผิดพลาด

 

 

 

 

                  ก่อนที่จะถ่ายทำต่อเธอรีบดึงถ้วยที่ใช้แล้วและผ้าเช็ดตัวเช็ดหน้าเพื่อทำความสะอาดและรีบนำชาไปทำหน้าที่ต่อไป เธอทำสิ่งเหล่านี้ 30-40 ครั้งต่อวัน 200 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อวัน เธอทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน คำนวณเป็นรายได้ต่อเดือนเกือบห้าพันดอลลาร์ฮ่องกงไม่ใช่เงินเดือนสูงนักในฮ่องกง

                  “มันไม่ง่ายหรอกนะ ที่คนอย่างฉันจะสามารถมีรายได้ถึงระดับนี้ ดังนั้นฉันจึงเคารพรักอาชีพของตัวเอง”

 

 

 

 

                  หลายคนพอใจงานกับงานที่ทำเพียงเท่านั้น แต่เธอไม่ เธอมองทีมงานทุกคนในกองถ่ายและคิดว่า พวกเขาสมควรได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม เพราะพวกเขาก็เป็นคนสำคัญในวงการภาพยนตร์เช่นกัน จะช่างไฟ ช่างแต่งหน้า ทีมกล้อง ตัวประกอบ ดาราหรือคนธรรมดาไม่ควรได้รับการปฏิบัติที่แตกต่าง

                  เธอเริ่มดูแลคนอื่นๆในกองถ่าย นั่นทำให้เธอพิเศษ เธอทำงานด้วยความตั้งใจดูแลทุกคน เธอกลายเป็นพิเศษของทีมงาน และดาราหลายๆคน ที่เธอเคยดูแลพวกเขาตั้งแต่ยังไม่โด่งดัง ทั้งเฉินหลง หลิวเต๋อหัว เจิ้งอี้เจี้ยน กู่เทียนเล่อ

 

 

 

 

 

                  เมื่อถามว่าเธอชอบบริการใครมากที่สุด เธอบอกชอบบริการทุกคน ยกเว้นหลิวเต๋อหัว เพราะหลิวเต๋อหัวไม่ชอบให้ใครมาดูแลเขามาก เขาไม่ทานอาหารแยกกับทีมงาน ในกองถ่ายเมื่อพักเที่ยงหลิวเต๋อหัวจะถือจานข้าวต่อแถวกับทีมงาน รอคิวตักอาหารเหมือนกับคนอื่นๆ จนเธอแทบจะไม่ได้ดูแลอะไรเขาเท่าไหร่ (ไม่สามารถแสดงความสามารถในการดูแลได้เต็มที่) แต่เธอก็เคยดูแลเขาตั้งแต่ตอนเขายังเป็นตัวประกอบ จนกระทั่งเขาได้แสดงเป็นเอี้ยก่วยในมังกรหยกภาคสอง ตอนนั้นหลิวเต๋อหัวต้องเร่งถ่ายทำละครชุดเรื่องนี้ตลอดเจ็ดวันมีเธออยู่เคียงข้างคอยดูแลเขาและทีมงานทุกคนในกองถ่าย

 

 

 

 

                  ด้วยความรักใคร่ของทีมงานทุกคนในกองถ่าย เธอมักจะถูกเรียกใช้เป็นนักแสดงประกอบในภาพยนตร์หลายเรื่อง ทั้งกู๋หว่าไจ๋ (Young and Dangerous Movie Series) ที่เธอแสดงแทบทุกภาค และหนังอีก 30 กว่าเรื่อง ก่อนที่เธอจะได้โอกาสเป็นคนออกแบบเสื้อผ้า (Costume Designer) ให้ภาพยนตร์อีก 3 เรื่อง In the Heat of Summer (1994) Happy Hour (1995) และ Paramount Motel (2000)

                  "เมื่อคุณดีต่อคนอื่น คนอื่นจะดีกับคุณ เมื่อคุณเคารพต่องานที่ทำ คนอื่นจะให้ความสำคัญกับคุณ"

 

 

 

 

                  จากยุค 80 ถึงปี 2018 ชีวิตของเธอเสมือนเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง เธอดูแลโจวซิงฉือในภาพยนตร์เรื่องแรก ดูแลเฉินหลงที่ค่อยๆสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังทั่วโลกและกลับมาแสดงหนังในจีน และฮ่องกงอีกครั้ง วงการภาพยนตร์ฮ่องกงที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุด ในกองถ่ายนึงเธอมีลูกน้องถึง 10 คนที่คอยดูแลนักแสดงและทีมงาน จนกระทั่งวงการภาพยนตร์อ่องกงที่ตกต่ำ ตั้งแต่ปี 1997 กองถ่ายเหลือเธอเพียงแค่คนเดียว

                  ความโรยราของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงก็เสมือนวัยของเธอที่เข้าสู่วัยชรา ปัจจุบันเธอทำงานเพียง 6 เดือนต่อปี ลดหลั่นตามจำนวนภาพยนตร์ที่มีการสร้างในฮ่องกง

 

 

 

 

                  Professional Spirit Award เสมือนจิตวิญญาณของคนฮ่องกง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความพิเศษใด เธอไม่ได้เรียนหนังสือ ใบหน้าไม่ได้สะสวย เรือนร่างไม่ได้งดงาม สิ่งที่เธอทำเพียงพิเศษกว่าผู้อื่น คือ “ความใส่ใจในงานที่ทำ เคารพให้เกียรติผู้ร่วมงานทุกคน”

                  ตอนนี้ทั้งดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ทั่วเอเชีย ผู้กำกับ บุคลลากรทั่วฮ่องกงรอยืนปรบมือแสดงความยินดีให้กับหญิงวัย 68 ปี ที่ทำงานบริการกองถ่ายมาเกือบ 40 ปี

 

 

 

 

                  “รางวัล Professional Spirit Award หรือคนเบื้องหลังผู้มีคุณูปการสำคัญต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกง ในงานประกาศรางวัลฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ดส์ ครั้งที่ 37 นี้ได้แก่ ....... “พอลลีน หยาง”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ฮ่องกง : อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
-'ปอย-ตรีชฎา' รับงานต้องเลื่อน เพราะม็อบฮ่องกง
-ยุทธศาสตร์สร้างภาพยนตร์ 'ไทย-จีน' ส่งออกวัฒนธรรม
-'มาริโอ้' เลื่อนโปรโมทหนัง เหตุปัญหาการเมืองในฮ่องกง