น๊อตกราบรถ..นับหนึ่งถึงล้านเลย??

         3 ก.ค.60 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์. อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยภายหลังนายอัครณัฐ อริยฤทธิ์ วิกุล หรือน๊อตกราบรถ ผู้ถูกคุมประพฤติในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส มารับทราบเงื่อนไขการคุมประพฤติและทำงานบริการสังคมตามคำสั่งศาล ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงให้รอลงอาญา 2 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 4 ครั้ง และทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 1 ปี ทั้งนี้เจ้าพนักงานคุมประพฤติได้ออกแบบการบริการสังคมให้แก่ผู้ถูกคุมประพฤติรายนี้ โดยกำหนดให้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้สังคมลดความรุนแรง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งอันเนื่องมาจากปัญหาการจราจร การควบคุมอารมณ์ และการให้อภัย. โดยอาจให้พูดสอดแทรกในรายการของตนเท่าที่ทำได้ หรือให้มาบรรยายประสบการณ์จริงเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์แก่กลุ่มเป้าหมาย ตามที่กรมฯจะได้กำหนดต่อไป

           พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ตนยังได้กำชับให้ผู้ถูกคุมประพฤติเข้ารายงานตัวตามกำหนด และหลีกเลี่ยงการกระทำความผิดอาญาอื่นๆ ซึ่งจะมีผลให้นับรวมโทษครั้งเก่าเข้ากับโทษใหม่ ดังนั้นจึงขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่อาบายมุข. ไม่ขับรถเร็ว รู้จักควบคุมอารมณ์. เพราะสถานะของผู้ถูกคุมประพฤติคือการถูกภาคทัณฑ์และคาดโทษไว้ เท่ากับเป็นคนที่มีชนักปักหลัง หากผิดเงื่อนไขในการคุมประพฤติเจ้าหน้าที่จะรายงานศาล ซึ่งอาจเป็นผลให้ต้องรับโทษหนักขึ้น

           นายอัครณัฐ กล่าวว่า วันนี้ได้มาหารือกับเจ้าหน้าที่เพื่อกำหนดงานบริการสังคม โดยเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาจากความสามารถว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง เบื้องต้นตนเสนอว่าอยากเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนในเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพราะเคยทำผิดและขาดสติอย่างรุนแรง โดยจะเริ่มงานบริการสังคมให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่ศาลเมตตาให้โอกาสทำประโยชน์กับสังคม รวมถึงผู้ใหญ่และเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติที่เอ็นดูและให้ตนได้ใช้ความสามารถ สำหรับเรื่องงานในวงการตอนนี้ได้คุยกันไว้บ้าง ซึ่งมีผู้ใหญ่ใจดีคอยให้โอกาส และบางงานเริ่มมีถ่ายไปบ้างแล้ว ส่วนเรื่องความเสียหายที่บริษัทประกันรถยนต์เรียกเก็บเงินจากคู่กรณี 20,000 บาทนั้น ตนได้แจ้งบริษัทประกันแต่แรกแล้วว่าไม่มีคู่กรณี และในวันไกล่เกลี่ยตนได้บอกกับแม่คู่กรณีว่าจะช่วยเหลือเรื่องเงินเต็มที่ ดังนั้น เรื่องนี้คงเป็นเรื่องระหว่างบริษัทประกันที่จะชี้แจงตกลงกับคู่กรณี

         “ขอย้ำเรื่องการใช้สติ ผมเคยขาดสติมาก่อน เรื่องเหล่านี้บางทีไม่ใช่เรื่องไกลตัว ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นต่อจากนี้ให้นับหนึ่งถึงล้านเลย” นายอัครณัฐ กล่าว