ข่าว

เพื่อไทย แนะ 3 แนวทาง บรรเทาปัญหา เศรษฐกิจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จากเสือตัวที่ 5 สู่ เห็บสยาม รองประธานยุทธศาสตร์เศรษฐกิจพรรค เพื่อไทย แนะ 3 แนวทาง บรรเทาความเดือดร้อน ผลพวงจากการรัฐประหาร 19 กันยายน

เพื่อไทยแนะเร่งทำ 3 เรื่อง เจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา แก้หนี้ก่อนดอกเบี้ยขึ้น แก้ไขน้ำท่วม หลัง16 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน ประเทศไทย เปลี่ยนจาก เสือตัวที่ 5  เป็น เห็บสยาม

 

พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ ระบุว่า 16 ปีของการรัฐประหาร 19 กันยายน ทำให้คิดว่าหากไม่ได้มีการปฏิวัติรัฐประหารในวันนั้นประเทศไทยจะพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ขณะนั้นประเทศไทยกำลังจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเซีย แต่ 16 ปีให้หลังกลับต้องกลายเป็นเห็บสยามในวันนี้ ความภูมิใจและความมั่นใจของคนในประเทศต่างกันอย่างสิ้นเชิง บทเรียนนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับประเทศไทยและคนไทยจนถึงปัจจุบัน

พิชัย นริพทะพันธ์ รองประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย

 

ในขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังใจจดจ่ออยู่ที่วันที่ 30 กันยายนนี้ ที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินชี้ขาดของ 8 ปีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ปัญหาของประเทศรอไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันประชาชนลำบากกันอย่างมาก จากราคาข้าวของแพงขึ้น เงินเฟ้อพุ่ง เงินทองหายาก ค่าใช้จ่ายพุ่งสูง หาเงินไม่พอประทังชีวิต ต้องมาเจอกับค่าไฟฟ้าที่จะแพง ก๊าซหุงต้มแพง น้ำมันแพง อาหารแพง ค่าเดินทางแพง แถมยังจะต้องมาเจอน้ำท่วม และดอกเบี้ยที่กำลังจะขึ้น

 

โดยเฉพาะเรื่องค่าไฟฟ้าที่ราคาพุ่งขึ้นมากจากหน่วยละ 4.00 บาท เป็น 4.72 บาท สาเหตุมาจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลที่ต้นทุนเชื้อเพลิงพุ่งสูง เพราะต้องนำเข้าก๊าซ LNG ที่ราคาแพงเข้ามา อีกทั้งยังมีการให้ใบอนุญาตเกินความต้องการใช้สูงสุดไปถึง 50% ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมมาก การที่รัฐต้องออกมาตรการที่ใช้เงิน 9,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือประชาชน ก็เป็นการช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลสร้างไว้เองจะมาอ้างเป็นบุญเป็นคุณกับประชาชนไม่ได้ ซึ่งเป็นการช่วยแค่ 4 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร และแนวโน้มราคาไฟฟ้ายังมีโอกาสขึ้นอีกจากหนี้ของ กฟผ. กว่าแสนล้านบาทนอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับลงมาแล้ว แต่ราคาน้ำมันดีเซลยังไม่ปรับลงเพราะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันที่ติดลบมาก เพราะการบริหารที่ผิดพลาดไม่ลดภาษีน้ำมันดีเซลในเวลาที่เหมาะสม

เมื่อมองไปตรงไหนก็เห็นว่าเป็นปัญหาเต็มไปหมด ประชาชนขาดที่พึ่ง พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เร่งช่วยทำใน 3 เรื่องเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ดังนี้

 

1. ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้รัฐบาลได้เร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน ไทย กัมพูชา มาเป็นเวลานานแล้ว ปรากฎว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. พลังงาน ได้ออกข่าวชี้แจงว่าได้เริ่มกลับมาเจรจากับกัมพูชาแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี และอยากให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประเทศไทยจะได้ประโยชน์สูงสุด

นอกจากจะได้ก๊าซในราคาถูกแล้ว เพราะไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซในอ่าวไทยหรือจากเมียนมาร์ราคาจะอยู่เพียงหน่วยละ 2-3 บาท ถ้าไฟฟ้าผลิตจากน้ำมันเตาหรือน้ำมันดีเซลราคาไฟฟ้าจะอยู่หน่วยละ 6 บาท และถ้าผลิตจากก๊าซ LNG ราคาไฟฟ้าจะพุ่งไปถึง 10 บาทเลย นอกจากราคาไฟฟ้าจะถูกลงแล้ว รัฐยังจะได้ค่าภาคหลวงปีละเป็นแสนล้านบาทเพื่อมาทำสวัสดิการกลุ่มเปราะบาง และผู้สูงอายุ

2. อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเดือนสิงหาคมยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งสูงมาก ดังนั้นธนาคารกลางของสหรัฐคงจะต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างแรงอีกครั้งในไม่นานนี้ โดยน่าจะขึ้นอีก 0.75% เป็นครั้งที่ 3 และเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะสูงถึง 4% และอาจจะขึ้นอีกในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอาจจะอยู่ในระดันสูงแบบนี้ไปนาน ซึ่งจะกดดันทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง และ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เงินทุนไหลออก ดังนั้นก่อนที่ประเทศไทยจะต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงตามบ้าง พลเอกประวิตร และรัฐบาลจะต้องเตรียมตัวและเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ให้ลดลงก่อน เพราะหากดอกเบี้ยพุ่งขึ้นอีก การแก้ไขหนี้จะยิ่งทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น

3. ในภาวะน้ำท่วมหนักนี้ ที่ปัจจุบันมีน้ำท่วมแล้ว 20 กว่าจังหวัด และยังมีแนวโน้มที่จะแย่ลง รัฐบาลควรต้องรื้อระบบการบริหารจัดการน้ำในอดีตขึ้นมาทำใหม่ทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาที่ค้างอยู่มา 8 ปีแล้ว มิเช่นนั้นประเทศไทยก็จะเจอปัญหา น้ำท่วม น้ำแล้ง แบบนี้ไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ปัญหาที่ กทม. น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเพราะพื้นดินของ กทม. ต่ำลง รัฐบาลจะต้องมีแผนใหญ่ในการบริหารจัดการน้ำท่วมเหมือนในประเทศที่เจริญแล้วและประสพปัญหานี้ดำเนินการ เช่น ในประเทศเนเธอแลนด์ เป็นต้น

3 เรื่องนี้ควรต้องรีบดำเนินการเพราะจะเป็นประโยชน์กับประเทศและจะช่วยประชาชนได้อย่างมากในระยะสั้นและในระยะยาวเพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทย ซึ่งยังมีเรื่องต่างๆต้องทำอีกมาก ซึ่งจะเป็น เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ในรูปแบบใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย การปรับเปลี่ยนประเทศเป็นระบบดิจิตอล (Digital Transformation) เพื่อสร้างงานและสร้างธุรกิจสมัยใหม่  เพิ่มประสิทธิภาพและลดการทุจริตคอรัปชั่น การพัฒนาภาคการเกษตรด้วยระบบ Ai การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาความสามารถแข่งขันของไทย และอีกหลายเรื่อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

Line:https://lin.ee/qw9UHd2-

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote

https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ