"ธรรมนัส" แจงสับสนปมถอดยศใช้ "นาย" จนได้เป็น "รมต."

 

 

          เมื่อเวลา 18.00 น. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลุกขึ้นชี้แจงกรณีนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย อภิปรายถึงกรณีที่ตนเคยถูกถอดยศ และเรื่องการประกอบธุรกิจค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า เมื่อวันที่ เมื่อ 24 ต.ค. 2541 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอดยศ ร.ท.พชร พรหมเผ่า ชื่อตนในขณะนั้น ขณะเดียวกันมีหนังสืออีกหนึ่งของกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งเลื่อนยศนายทหารชั้นสัญญาบัตร สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ให้ตนซึ่งขณะนั้นมียศ ร.ท. เป็นว่าที่ร.อ. ลงนามเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2541 ทำให้เกิดความสับสนเนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวห่างจากวันที่ตนถูกถอดยศหลายเดือน

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

"ฝ่ายค้าน" กล่าวหา "ธรรมนัส" รับโควต้าหวย 80 ล้านฉบับ

"สงคราม" เล่นแรงซัด "บิ๊กตู่" กลางสภา เป็น "เห็บหมา-ปลวก"

จองคิว ลากยาวซักฟอก "บิ๊กตู่" ถึงพรุ่งนี้

 

 

 

 

          ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่เคยคิดแอบอ้างเรื่องยศฐาบรรดาศักดิ์ ชีวิตของตนมาถึงทุกวันนี้ไม่ว่าจะทำมาหากินหรือทำอะไรก็ตามไม่เคยแอบอ้างยศไปทำมาหากิน และตอนที่ตนสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ก็ใช้คำนำหน้าว่านาย เช่นเดียวกับตอนที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการนำรายชื่อของตนขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เป็นรัฐมนตรี มีข้อถกเถียงหลายประเด็น ตนพยายามหาหลักฐานมาชี้แจงว่ายศของตนยังอยู่หรือไม่ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยมียศนำหน้าว่า ร.อ. ตนก็ใช้แบบนั้นเป็นต้นมา

 

          ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ส่วนการค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนไม่ปฎิเสธว่าก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองมีอาชีพเป็น 1 ใน 5 เสือกองสลาก หรือเป็นผู้ค้าสลากรายใหญ่ อย่ามองว่าผู้ค้าสลากเป็นโจรเอารัดเอาเปรียบสังคม 5 เสือกองสลากมีคุณธรรม ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคและเมื่อรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ให้มี 5 เสือกองสลากอีกต่อไป โดยสัมปทานครั้งสุดท้ายที่ตนเป็นคู่สัญญาก็คือวันที่ 4 ส.ค.2558 ทุกวันนี้ตนไม่ได้เป็นคู่สัญญาหรือได้รับสัมปทานสลากกินแบ่งแม้แต่เพียงเล่มเดียว อย่างไรก็ตาม ตามที่ตนได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. ว่ามีรายได้จากการค้าสลากเดือนละ 3 ล้านบาทนั้น ข้อเท็จจริงคือตนเช่าช่วงแผงค้าสลากฯ ข้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเกือบ 10 แผง เพื่อหล่อเลี้ยงคู่ค้าที่เคยทำธุรกิจกับตนมาเกือบ 10 ปี เพื่อให้เขามีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงครอบครัวตนจำเป็นต้องทำ     

 

          “เป็นรัฐมนตรีก็สาหัสพออยู่แล้ว แต่เป็นส.ส. หรือผู้แทนฯ ตลาดล่างเงินเดือน 1.2 แสนบาท แต่ละงานของ ส.ส.เลี้ยงเราได้หรือ ใครไม่เป็นผู้แทนเขตไม่รู้หรอก ส.ส. บางคนสิ้นเดือนยิ่งกว่าสิ้นใจ เพราะเงินไม่พอ เชื่อว่าส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องทำมาหากิน ไม่เช่นนั้นอยู่ไม่ได้" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงนั้น เป็นที่สังเกตว่าสีหน้าท่าทางเหมือนอยู่ในอารมณ์โกรธ โดยเฉพาะสายตาที่แข็งกร้าวที่แสดงออกมาจนเห็นได้ชัด