ปิดตำนานสวนเสือศรีราชา สู้ไม่ไหวเจอพิษโควิดรอบ 3 ประกาศเลิกกิจการถาวร
ไปอีกราย ปิดตำนานสวนเสือศรีราชา สู้ไม่ไหวหลังเจอพิษโควิดรอบ 3 ประกาศเลิกกิจการอย่างถาวร
จากกรณีสวนเสือศรีราชาได้ติดประกาศเลิกกิจการ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564 และให้พนักงานของสวนเสือศรีราชาเข้าร่วมประชุมในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ โดยคณะผู้บริหารสวนเสือศรีราชาจะทำความเข้าใจและชี้แจงถึงการเลิกกิจการในครั้งนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงไปยังนายวสันต์ เต็มศิริพงศ์ กรรมการบริหารบริษัทสวนเสือศรีราชา จำกัด โดยเปิดเผยว่า สวนเสือศรีราชาเริ่มเพาะเลี้ยงเสือโคร่งในปี พ.ศ.2532 โดยเริ่มต้นได้มาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ 2 คู่ และสวนสามพรานอีก 2 คู่ การที่ทางสวนเสือศรีราชาเลือกเพาะเลี้ยงเสือโคร่ง เนื่องจากเสือโคร่งเป็นเสือที่พบมากที่สุดในทวีปเอเชีย และในปัจจุบันเสือโคร่งในธรรมชาติมีจำนวนลดน้อยลง และที่เลือกเสือพันธุ์เบงกอล เพราะเสือพันธุ์นี้มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ มีสีเข้มสวยงาม และสามารถอาศัยในภูมิอากาศของประเทศไทยได้
ทั้งนี้สวนเสือศรีราชาเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2540 โดยจัดการดำเนินงานเพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ และให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว
สวนเสือศรีราชา เป็นสวนสัตว์เอกชน ตั้งอยู่ที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บนพื้นที่ 250 ไร่ สวนเสือศรีราชาเป็นที่เพาะเลี้ยงเสือโคร่งเบงกอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ฝึกและแสดงความสามารถของสัตว์ อาทิ เสือ จระเข้ ช้าง และหมู นอกจากนี้ภายในยังเลี้ยงอูฐ กวางดาว กระต่าย และสัตว์ชนิดอื่นๆ
โดยสาเหตุในการประกาศเลิกกิจการอย่างถาวรได้รับแจ้งว่า เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ระลอกที่ 3 ซึ่งอย่างไรแล้วทางคณะผู้บริหารจะออกมาแถลงข่าวอีกครั้งเพื่อความชัดเจนในเร็วๆนี้
ทางด้านประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างรู้สึกใจหายหลังทราบข่าวประกาศเลิกกิจการปิดสวนเสือศรีราชา ที่เป็นตำนานมากว่า 20 ปี
โดย สิงห์ทอง นามมาลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดชลบุรี