สอบ 9 เดือนไม่คืบหน้า ผู้บริหาร-ครูผู้ช่วยขัดแย้งกันหนัก สพป.เขต 1 ประจวบฯเร่งแก้ปัญหา

วันที่ 15 สิงหาคม นายสมหวัง ขุนพรหม รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 (สพป.เขต1) เปิดเผยว่า จากกรณีผู้บริหารและครูผู้ช่วย 3 ราย ที่โรงเรียนบ้านอ่างทองพัฒนา หมู่ที่ 5 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก มีความขัดแย้งอย่างหนัก หลังจาก สพป.เขต 1 สั่งให้เปิดเรียนตามปกติเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิด 19 แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ไม่มีผู้ปกครองนักเรียนไปส่งบุตรหลานที่โรงเรียน ตามปกติ โดยโรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียน 78 คน ตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ชาวทับสะแกขึ้นป้าย ห้ามย้าย ผอ. ต้อนรับวันเปิดเทอม 

นายสมหวัง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ถูกต้องเรียนมีปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณ การบริหารงานบุคคล การบริหารงานภายใน เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดทำอาหารกลางวัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้ผู้เกี่ยวข้องรายงานผลให้ทราบภายใน 60 วัน แต่ต่อมามีการขยายระยะเวลาการสอบสวน ล่าสุดเร็วๆนี้หากมีผลสรุปเป็นประการใดก็จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งยุติได้ และเบื้องต้นพบว่าจากการสอบสวนจากเอกสารหลักฐานในบางประเด็นพบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจ ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งของบุคลากรในสถานศึกษาไม่ควรมีผลกระทบกับนักเรียนหรือผู้ปกครอง สำหรับครูผู้ช่วย 3 รายคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) มีมติไม่ยินยอมให้ย้ายจากโรงเรียนเดิม

น.ส.เอ นามสมมติ ผู้ปกครองนักเรียน รายหนึ่ง กล่าวว่า ผู้ปกครองไปรับบุตรหลานก่อนเลิกเรียน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา และจะไม่ให้บุตรไปหลานไปเรียนหนังสือ หากยังไม่ย้ายครูผู้ช่วย 3 รายไปโรงเรียนอื่น หลังจากพบว่าครูผู้ช่วยทั้ง 3 ราย กลับมาทำหน้าที่สอนหนังสือตามปกติ ทำให้ปัญหาความขัดแย้งไม่จบ หลังจากเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้ปกครองกว่า 30 ราย ไปถือป้ายประท้วงหน้าโรงเรียน ยื่นข้อเสนอไม่ให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ขอให้ย้ายครูผู้ช่วย 3 ราย ออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้เจ้าหน้าที่นิติกร สพป.เขต 1 ย้ายครูผู้ช่วย 3 ราย ไปช่วยราชการที่ สพป.เขต 1 ชั่วคราว แต่ต่อมาพบว่ามีคำสั่งให้ครูผู้ช่วยทั้ง 3 คน กลับมาทำงานโรงเรียนเดิมจึงให้นักเรียนหยุดเรียน และหากให้ย้ายกับมาถาวร ผู้ปกครองก็จะย้ายบุตร หลาน ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนอื่นทั้งหมด

ด้าน ครูผู้ช่วยรายหนึ่ง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ สปพ.1 บางรายได้เจรจาเพื่อขอให้ยุติเรื่องร้องเรียนผู้บริหาร โดยให้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานว่าเรื่องที่ร้องเรียนทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อน หลังจากยื่นเรื่องร้องเรียนแล้ว 9 เดือน แต่ยังไม่คืบหน้า และยืนยันว่าจะไม่ยินยอมลงลายมือเพื่อยุติการร้องเรียน เนื่องจากได้ส่งเอกสารร้องเรียนถึงสำนักงาน ป.ป.ช.ประจวบคีรีขันธ์  แต่จะไปสอนหนังสือตามปกติแม้ว่าจะนำชาวบ้านมากดดันการทำงาน เพราะไม่ได้มีความผิดใดๆ ในการปฏิบัติหน้าที่

ภาพ/ข่าว พอใจ จันทนา ข่าวภูมิภาค จ.ประจวบคีรีขันธ์