ผู้ว่าสุพรรณสั่งสอบผู้ใหญ่บ้านร่วมวงดื่มสุรากับผู้ติดเชื้อโควิด19

 

 

                           ที่ จ.สุพรรณบุรี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าสถานการณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรี ขณะนี้มีการเฝ้าระวังอยู่อีก 1 เคสซึ่งเป็นชาว จ.นครปฐม กลับจากประเทศอังกฤษ มีญาติพี่น้องอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี และเข้ามาในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ ต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จากนั้นได้มาเยี่ยมพ่อแม่ ที่ ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า และชายคนนี้ได้มาอยู่ในพื้นที่ ต.มะขามล้มตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 5 เมษายน ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน ได้ไปหาหมอที่คลินิก แห่งหนึ่งในตัวเมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากมีอาการเหมือนเป็นหวัด จากนั้นได้เดินทางกลับ จ.นครปฐม แล้วไปตรวจอาการไข้ที่ จ.นครปฐม พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อ เมื่อเราทราบเราจึงได้ทำการสอบสวนโรคว่าพื้นที่ที่เขาไปได้ปฏิสัมพันธ์กับใครบ้างไม่ว่าจะเป็น ที่ อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง และ อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเราได้จัดทำไทม์ไลน์ไว้ทั้งหมดรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ลูกและภรรยา พี่สาว เพื่อนบ้าน ผู้ใหญ่บ้านที่ไปร่วมรับทานอาหารและอาจจะดื่มสุราร่วมกันด้วยคนกลุ่มนี้เราได้กักกันตัวไว้ทั้งหมด

                ส่วนผู้ใหญ่บ้านที่ร่วมวงดื่มด้วยและเพื่อนบ้านอีกคนเราได้นำตัวมากักกันตัวที่โรงแรมกีฬา อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดไว้เฝ้าระวังผู้ที่มีโอกาสที่จะติดเชื้อค่อนข้างสูงส่วนพ่อแม่ ของผู้ป่วยเราได้ไปดูสภาพบ้านแล้วเห็นว่าเป็นที่โล่งและแยกออกมาจึงให้กักกันตัวอยู่ที่บ้านเนื่องจากเป็นผู้สูงอายุด้วยขณะนี้เราได้เฝ้าระวังและดำเนินการาตรวจในส่วนของผู้ที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งผลการตรวจน่าได้ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ส่วนที่คลินิกที่อยู่ในเมืองทางเราได้ให้ปิดทำการชั่วคราว โดยทางนายแพทย์เจ้าของคลินิคได้ทำห้วงเวลาที่ผู้ป่วยรายนี้มาพบจำนวน 3 วันและในห้วงเวลาเดียวกันในคลินิกมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นใครบ้าง เจ้าของคลินิก ได้ทำการตรวจสอบให้ว่ามีใครบ้างซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดที่มาคลินิคเราได้ติดต่อไปแล้วและให้เขากักกันตัวเองแยกจากผู้อื่นให้สังเกตอาการของตัวเองถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ด่วนเพราะกลุ่มของผู้ที่ไปใช้บริการของคุณหมอยังถือเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำเพราะว่าไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรงรวมแล้วน่าจะมีผู้ที่ไปที่คลินิกแห่งนี้ประมาณ 10 กว่าคน

 

 

 

 

 

 

                     ขณะนี้ทางจังหวัดได้ออกมาตรการปฏิบัติการคิกอ๊อฟวันนี้ได้ลงพื้นที่เอ็กซเรย์ทุกหลังคาเรือนทุกหมู่บ้านเราได้จัดชุดปฏิบัติการประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม.และปลัดอำเภอ ปลัดเทศบาล ปลัด อบต.ลงเป็นทีมทุกพื้นที่ทุกหลังคาเรือนในการที่จะตรวจสอบว่าบ้านหลังไหนมีผู้เข้ามาพักอาศัยในลักษณะมาจากต่างประเทศหรือมาจากต่างจังหวัดเราจะบันทึกว่ามาจากไหน จะกลับเมื่อไหร่เราก็จะมีคำสั่งเจ้าพนักงานให้กรอกรายละเอียดชื่อของผู้ที่เราจะต้องสั่งว่าจะต้องกักกันตัวเองถึงวันที่เท่าไหร่ถ้าหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งปฏิบัติการเอ็กซเรย์ว่าในจังหวัดสุพรรณบุรี จะมีกลุ่มเสี่ยงที่เราจะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษกี่คน กลุ่มไหนที่คิดมีความจำเป็นที่จะต้องนำมาสถานกักกันเราก็จะเอามากลุ่มไหนที่จะต้องกักกันตัวเองเราก็จะบังคับให้กักกันตัวเองอยู่ที่บ้านซึ่งมาตรการเช่นนี้น่าจะลดการแพร่ระบาดในพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี

                นอกจากนี้ยังได้ออกมาตรการที่เพิ่งออกคือคำสั่งให้ปิดโรงแรม อพาร์ทเมนต์ หอพักที่เปิดให้พักรายวัน รีสอร์ท และโฮมสเตย์ ทั้งหลายเพื่อจัดระเบียบบรรดาที่พักเหล่านี้เนื่องจากมีบุคคลภายนอกมาพักในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจำนวนมากสิ่งที่น่าสังเกตก็คือมาพักหลายวันซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะมาพักหลายวันขนาดนั้นโดยการเข้ามาพักเก็บตัวไม่ออกไปไหนเราถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่มาพักเพื่อกักกันตัวเองดังนั้นที่เราปิดเพื่อจะทำการตรวจสอบส่วนที่พักแห่งไหนมีความเดือดร้อนอยากจะเปิดก็ให้เปิดได้โดยแจ้งท่านนายอำเภอ แต่มีเงื่อนไขทุกวันจะต้องรายงานจำนวนผู้ที่มาเข้าพักพร้อมทำประวัติผู้ที่มาพักอย่างละเอียดว่าชื่ออะไรพักกี่วันเพื่อเราจะได้ติดตามกรณีเกิดความสงสัยว่าจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 นี่เป็นอีกมาตรการควบคุม

 

 

 

 

 

 

 

                            ส่วนกรณีผู้ใหญ่บ้าน ต.มะขามล้ม ที่ไปร่วมวงดื่มสุรากับผู้ติดเชื้อผู้ป่วยรายใหม่ที่มาจากนครปฐม ได้สั่งการให้นายอำเภอบางปลาม้า ดำเนินการสอบวินัย ว่าทำไมเป็นผู้ใหญ่บ้านถึงละเลยการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่เราได้มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน อสม.เป็นทีมในการสำรวจตรวจสอบว่ามีใครเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านของตัวเองโดยเฉพาะผู้ที่มาจากต่างประเทศและมาจากประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่องอย่างเช่นอังกฤษ ทำไมไม่สั่งให้เขากักตัว นอกจากไม่สั่งให้กักตัวแล้วยังไปร่วมกิจกรรมร่วมดื่มสุรานี่ถือเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่จึงสั่งให้นายอำเภอสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการลงทางวินัยซึ่งต้องให้ผู้ใหญ่บ้านครบกำหนดกักกันตัวก่อนค่อยดำเนินการ นอกจากนี้อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกท่าน ขอให้ช่วยให้ข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ลงพื้นที่ไปเอ็กซเรย์ตั้งแต่วันนี้ไปเยี่ยมที่บ้านขอให้ร่วมมือให้ความจริงว่าที่บ้านมีใครเข้ามาพักอาศัยด้วยหรือไม่เพื่อจะได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวัง และการที่พี่น้องประชาชนที่จะออกไปปฏิบัติภารกิจนอกบ้านขอให้ออกเท่าที่จำเป็นและขอให้สวมหน้ากากอนามัยหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปในชุมชนแออัดที่มีคนจำนวนมากถ้าเลี่ยงไม่ได้ขอให้ป้องกันตัวเองให้รอบคอบที่สำคัญต้องหมั่นล้างมือกรณีในบ้านมีเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดขอให้อยู่ห่างๆและขอให้สวมหน้ากากขณะอยู่ที่บ้านด้วย

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว ภัทรพล พรมพัก มงคล สว่างศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี