เล่นกับใครไม่เล่น! เปิดคลิปเจ้าของบ้านใจเด็ดฮึดสู้โจรจนสิ้นท่า

               วันที่ 8 เมษายน 2563 เวลา 17.30 น. ร.ต.อ.พิทักษ์ พรหมวงษ์ซ้าย รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี  ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ว่า มีเหตุคนร้ายเข้าบ้านเลขที่ 77/20 หมู่บ้านจัดสรร แห่งหนึ่ง ซ.4 ถ.นิตโย ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี และขณะนี้เจ้าของบ้านได้ล้อมคนร้ายเอาไว้อยู่ในบ้านพัก จึงพร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ 191 ตำรวจสืบสวน ตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง ตำบลหนองบัว และตำบลหนองนาคำ รุดไปตรวจสอบ

 

 

 

 

               ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น พบนางสาวเจษฎาภรณ์ และนายวัฒนา อายุ 27 ปี สามีภรรยากันและเป็นเจ้าของบ้าน นำตำรวจไปจับกุมตัวคนร้ายที่หลบซ่อนตัวในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน จึงควบคุมตัวออกมาสอบสวนที่บริเวณหน้าบ้าน ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอนก สมฤทธิ์ อายุ 37 ปี ชาว ต.หมากแข้ง จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง นาฬิกาข้อมือ 1 เรือน พระเครื่อง 2 องค์ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ 1 อัน ครีมนวดเคล็ดขัดยอก 1 หลอด อยู่ในกระเป๋าแบบซิปสีชมพู และเสื้อผ้าที่คนร้ายสวมใส่ เป็นเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง ยี่ห้อโปโล และกางเกงยีนส์ขายาว ยี่ห้อลีวายส์ 1 ตัว ที่เจ้าของบ้านชี้ยืนยันว่าเป็นของตัวเองแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้าห้องนอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               ในขณะที่ตำรวจกำลังสอบปากคำคนร้าย ได้มีนายสิทธิโชค ภูบัวใบ อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 77/24 ซึ่งอยู่เยื้องกับบ้านผู้เสียหาย ได้มาชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่เข้าบ้านเมื่อคืนนี้ เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะตนกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ห้องโถงชั้นล่างกับภรรยา และกำลังจะหลับ ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาทางหลังบ้าน จึงร้องตะโกนถามว่าเข้ามาบ้านทำไม พร้อมกับลุกขึ้นไปดูและเข้าล็อกตัวคนร้าย และต่อสู้กันกับคนร้ายราว 5 นาที

 

 

 

 

               ตนเสียท่าถูกคนร้ายกัดบริเวณแผ่นหลังเป็นรอยช้ำ ก่อนที่คนร้ายจะเปิดประตูกระจกข้างบ้านแล้ววิ่งหลบหนีออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาได้โทรศัพท์แจ้ง รปภ.ประจำหน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน และตำรวจชุมชนตำบลหนองขอนกว้าง มาช่วยไล่ติดตามจับคนร้ายแต่ก็ไร้วี่แววคนร้าย โดยตนมีหลักฐานภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ ได้ขณะเกิดเหตุ ต่อสู้กับคนร้าย มามอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับคนร้าย พร้อมกับนำตำรวจไปชี้จุดภายในบ้านที่ตนเองและภรรยา จุดที่หลับนอน และต่อสู้กับคนร้ายด้วย

 

 

 

 

               ส่วน นายวัฒนา เจ้าของบ้านเลขที่ 77/20 ผู้เสียหายให้การว่า ทำงานฝ่ายเครื่องมือแพทย์ รพ.เอกชน แห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ก่อนเกิดเหตุตนและภรรยาลางาน 1 สัปดาห์ เพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ จ.หนองคาย และเดินทางกลับมาบ้านวันนี้มาทราบที่หลังว่ามีคนร้ายเข้ามาบ้านงัดบ้านอยู่ที่ชั้นบน รู้สึกตกใจมาก จึงปิดล็อกประตูบ้านเอาไว้ เพื่อขังคนร้ายไว้  แล้วส่วนภรรยาได้โทรศัพท์แจ้ง รปภ.มาช่วย พากันยืนหน้าบันไดชั้นล่าง ก่อนโทรแจ้งตำรวจมาจับกุมคนร้ายได้พร้อมของกลางดังกล่าว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               จากการสอบสวนคนร้ายให้การว่า เพิ่งออกจากคุกมา 1 สัปดาห์ หลังพ้นโทษข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร” ติดคุก 2 ปี 9 เดือน และไปพักอาศัยอยู่บ้านเพื่อนได้ 5 วัน ก่อนถูกยายของเพื่อนไล่ออกจากบ้าน จึงออกเดินหาสมัครงาน แต่ไม่มีคนรับเข้าทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดหนัก และผู้ประกอบการได้ปิดกิจการชั่วคราว ทำให้ตนไม่มีงานทำ และไม่มีทางเลือกในการดำรงชีพ จึงปีนกำแพงรั้วหมู่บ้านแห่งนี้เข้ามาก่อเหตุช่วงกลางคืนของวันที่ผ่านมา วันที่ 7 เมษายน 63 เพื่อก่อเหตุงัดบ้านเข้าไปลักทรัพย์สินไปขาย โดยบ้านหลังแรกที่ตนเข้าไปก่อเหตุ เป็นบ้านที่ตนหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวช่วงเช้ามืด และมาถูกจับได้พร้อมของกลางในช่วงเย็นวันนี้ เนื่องจากไม่มีคนอยู่บ้านและไม่เปิดไฟ

 

 

 

 

               โดยเข้าไปก่อเหตุงัดหน้าต่างข้างบ้าน ปีนเข้าไปขโมยทรัพย์สิน และขโมยเสื้อผ้าของเจ้าของบ้านมาสวมใส่ ก่อนเดินไปก่อเหตุงัดหน้าต่างหลังบ้านที่สองที่อยู่เยื้องกัน แต่เจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาพบเข้าพอดี ตนได้ขอร้องยกมือไหว้ขอเจ้าของบ้านไม่ให้แจ้งตำรวจ แต่เจ้าของบ้านไม่ยอม จึงเกิดการต่อสู้กันยกใหญ่ ก่อนที่ตนจะหนีรอดจากการจับกุมออกมาได้ และเข้ามาหลบซ่อนตัวที่บ้านหลังนี้ โดยไม่กล้าออกไปข้างนอกเพราะกลัวโดนตำรวจจับ จึงได้ดื่มน้ำในตู้เย็นของเจ้าของบ้าน และกำลังจะเตรียมตัวออกจากบ้านหลบหนีในช่วงค่ำ แต่เจ้าของบ้านกลับมาพบพอดีจึงถูกขังไว้ ล้อมเอาไว้ ก่อนที่เจ้าของบ้านจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

 

 

 

 

-----------------------------------------------------------------
โดย นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี