จังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม

                            วันที่ 22 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อปิดกั้นวงจรการแพร่ระบาด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนไปอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งเกินความจำเป็นมากเกินไป จึงมีการปรับปรุงประกาศในเรื่องของการปิดสถานที่บางแห่ง จากเดิมฉบับที่ 1 เป็นฉบับที่ 2 โดยสั่งการให้ปิดสถานประกอบการและสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค เนื่องจากมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก รวม 28 ประเภท  รวมถึงห้างสรรพสินค้า ยกเว้นซุปเปอร์มาร์เก็ต  ส่วนร้านอาหารให้จำหน่ายแบบซื้อกลับบ้านเท่านั้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 23 มีนาคม 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 13 เมษายน 2563

                       ด้าน นายแพทย์ วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยสถานการณ์ผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดถึงเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (22 มี.ค. 63) จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยที่ยืนยันติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม 5 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 12 ราย หายกลับบ้านแล้ว 1 ราย ยังอยู่โรงพยาบาล 11 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสม 439 ราย กลับบ้านแล้ว 355 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 84 ราย และเป็นผู้เดินทางจากเขตติดโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง 418 ราย 

                          กรณีผู้ป่วยใหม่ที่พบเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 จำนวน 3 ราย นั้น รายแรกเป็นผู้ป่วยหญิงชาวไทย อายุ 57 ปี อาชีพเป็นเจ้าของกิจการ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับลูกสาวและหลานชาย กลับมาถึงประเทศไทยในวันที่ 12 มีนาคม 2563 เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 23.40 น. ด้วยสายการบินไทยสมาย เที่ยวบินที่ WE176 ซึ่งมีการกักตัวอยู่ที่บ้านทั้งครอบครัว รายที่สองเป็นชายชาวต่างชาติ สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ อายุ 66 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 และในวันที่ 19 มีนาคม 2563 ก็มีอาการป่วย กรณีนี้ไม่มีผู้สัมผัสในจังหวัด เพราะผู้ป่วยรู้ตัวดี จึงให้ภรรยาขับรถไปรอ เมื่อลงจากเครื่องก็ขับรถกลับเอง และรายที่ 3 เป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพนวดแผนไทย ย่านถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีอาการป่วยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 แล้วได้เดินทางมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลในทันที ซึ่งผู้สัมผัสก็เป็นคนในครอบครัว จำนวน 4 คน และคนที่ร้านอีก 10 คน สำหรับการติดตามว่าติดมาจากไหน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะมีกลุ่มที่ต้องติดตามอีกหลายกลุ่ม ซึ่งผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้ ขอให้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ยังไม่ต้องรีบเดินทางมาตรวจสารคัดหลั่งที่โรงพยาบาล จนกว่าจะมีอาการไข้ ไอ ก็ให้ติดต่อสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านได้ทันที ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการติดตามของเจ้าหน้าที่ต่อไป.

ฟงหวิน  ศักดิ์อัศวิน.ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่ 

.