ตำรวจแกะรอยสาว 41 ปีได้ถึงโรงงานมะพร้าว หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ยาย 73 แล้วเกิดการต่อสู้กันจนต้องเผ่นหนี เหตุเกิดเมื่อ 2 มี.ค. 63 ที่ผ่านมา ตำรวจนำมาทำแผน ยายเผลอตบทำเหมือนวันเกิดเหตุ เจ้าตัวสารภาพเอาเงินไปใช้ในครอบครัว กราบขอโทษยาย ขณะยายให้อภัย พร้อมสอนอย่า
วันที่ 13 มี.ค.63(08.30 น.) ร.ต.อ.สุธรรม ดีราชรัมย์ รองสารวัตร(สอบสวน)พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นำนางสายสุนีย์ ขุนชาญโหมก อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 95 ม.19 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังก่อเหตุเข้าไปชิงทรัพย์นางเสวียน ประสงทรัพย์ อายุ 73 ปีบ้านเลขที่ 74 หมู่ 12 ต.อิสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ แล้วเกิดการต่อสู้กัน จนนางสายสุนีย์ คนร้ายสู้ไม่ไหวต้องร่นถอยหนีขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป ได้เงินในกระเป๋าไปประมาณ 3,000 บาท จากที่มีอยู่กว่า 10,000 เหตุเกิดเวลา 11.00 น.เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา
การทำแผนตำรวจให้ผู้ต้องหาเริ่มทำตั้งแต่คนร้ายขับรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้าสีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าบ้าน แล้วเดินเข้าไปในร้าน แล้วเดินไปหยิบเอากระเป๋าเงินภายในร้าน เมื่อมาถึงช่วงที่มีการเผชิญหน้าระหว่างยายกับคนร้าย แล้วมีการต่อสู้กัน ตามคำให้การของยายในวันเกิดเหตุ
ตำรวจได้ให้ยายสาธิตตอนที่เจอกับคนร้านสองต่อสอง และให้ยายจำลองการถึงผ้าปิดหน้าของคนร้ายออก นางเสวียน ซึ่งยังคิดถึงอารมณ์วันเกิดเหตุจึงกระชากผ้าพร้อมตบคนร้ายเหมือนจริง จนตำรวจต้องเข้ามาห้าม ท่ามกลางชาวบ้านมามุงดูการทำแผนกันเป็นจำนวนมาก
จากนั้นนางสายสุนีย์ คนร้ายได้ลงกราบขอโทษยายที่ทำไปเพราะต้องการเอาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยนายเสวียน ก็ยกโทษให้พร้อมกับสั่งสอนว่าต่อไปให้เลิกทำแบบนี้
นายเสวียน กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุไม่คิดว่าจะได้ตัวคนร้าย เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด ,จำหน้าคนร้ายไม่ได้ และไม่มีพยานหรือคนที่เห็นเหตุการณ์นอกจากตนกับสามีที่อยู่กันตามลำพัง ครั้งนี้ต้องยอมรับฝีมือของตำรวจที่สามารถตามไปจับได้ถึงต่างอำเภอ
อย่างไรก็ตามหลังทำแผนเสร็จ ตำรวจได้ส่งตัวให้ร.ต.อ.สุธรรม ดีราชรัมย์ รองสารวัตร(สอบสวน)เจ้าของคดี ไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เบื้องต้นตำรวจตั้งขอหาชิงทรัพย์ในเวลากลางวัน
ภาพ/ข่าว อภิชาติ ศิริสุข ผู้สื่อข่าวจังหวัดบุรีรัมย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง