สธ.แถลงยืนยันชัดเจน นศ.วัย 21ติดเชื้อไวรัสโควิด 19
จากกรณีมีกระแสเล่าลือกันว่า รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 “ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยล่าสุดนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบว่าทาง รพ.ท่าศาลา ได้รายงานว่ามีนักศึกษาผู้ชายเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงสงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จำนวน 1 คน ทาง รพ.ท่าศาลา ได้เลือดส่งตรวจสอบที่ รพ.จุฬา ยังไม่ทราบผล ดังนั้นจนถึงขณะนี้จึงยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยและเฝ้าระวัง ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2563ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มเติม 4 ราย 1.ชายชาวอิตาลี อายุ 29 ปี เป็นพนักงานบริษัท เข้าประเทศไทย 1 มี.ค. ตรวจผ่านช่องทางไม่พบไข้ แต่มารักษารพ.เอกชน ด้วยไข้ ไอ ปัจจุบันรักษาที่รพ.ชลบุรี 2.ชายไทย อาชีพพนักงานบริษัท อายุ 42 ปี มีประวัติเดินทางมาจากอิตาลี เข้าไทย 2 มี.ค. รักษาด้วยตนเอง เพราะตอนผ่านด่านไม่มีไข้ รักษาที่รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ทั้งนี้ ทั้ง 2 รายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน 3.ชายจีน อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางจากอิหร่านมาต่อเครื่องเมื่อวันที่ 1 มี.ค. เจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูกระหว่างรอต่อเครื่องจึงส่งเข้าสถาบันบำราศนราดูร และ 4. ชายไทย อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษากลับจากอิหร่านเมื่อ 27 ก.พ. 2563 เดินทางผ่านด่านไม่มีไข้ ไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ดังนั้นสรุปประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 47 ราย รักษาหาย 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย ยังเหลือรักษาในรพ.อีก 15 ราย 1 รายที่อาการหนักตรวจไม่พบเชื้อ แต่อยู่ในการดูแลของแพทย์ใกล้ชิด โดยรายล่าสุดนักศึกษากลับจากอิหร่านเมื่อ 27 ก.พ. 2563 เดินทางผ่านด่านไม่มีไข้ ไม่มีอาการ เข้ารักษาที่ รพ.ท่าศาลา และทาง รพ.ท่าศาลา ได้กัดตัวไว้เป็นวันที่ 5 พร้อมเจาะเลือดส่งตรวจจนและพบว่าเป็นไวรัสโควิด 19 ดังกล่าว ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และถือเป็นรายแรกที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของ รพ.ท่าศาลา รวมทั้งประชาชนชาวท่าศาลา และชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่พอใจ นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างมาก เนื่องจากพยายามปกปิดมาตลอด แถมยังได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 ว่าไม่มีขอแจ้งข่าวนะครับ ข่าวลือรายวันเรื่องการเฝ้าระวังโควิด-19 ปกติช่วงนี้ผมเชื่อว่าเกือบทุก รพ.จะมีคนมาปรึกษาเรื่องว่าจะทำอย่างไรถ้าเพิ่งกลับจากประเทศที่มีโควิด-19ระบาดอยู่ ของท่าศาลาเองก็มีหลายคนครับ มีทั้งจากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง เราก็แนะนำตามหลักการควบคุมโรคไวรัสโควิด 19 ไปว่าให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านไม่ต้องออกไปไหน 14วัน ถ้ามีอาการไข้หวัด ไอ เจ็บคอก็ให้รีบมาพบแพทย์ และเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2563 ก็มีเด็กหนุ่มกลับจากอิหร่านมาปรึกษาเช่นกันเขาก็สบายดีไม่มีอาการอะไร ทาง รพ.ท่าศาลา ก็แนะไปว่าให้เฝ้าระวังอาการ 14 วัน ตอนนี้ได้ 4 วันแล้วครับ ก็ยังสบายดี
ส่วนที่ได้ลือกันไปมากว่ามีการติดเชื้อและคนไข้อยู่ในห้องความดันลบนั้นอาจจะเนื่องว่าช่วงนี้ รพ.ท่าศาลาเรามีคนไข้หนักและเสียชีวิตจากปอดบวมจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ A สรุปว่ารพ.ท่าศาลายังไม่มีการติดเชื้อโควิด-19นะครับ เพียงแต่มีคนที่ต้องอยู่ในระหว่างการเฝ้าระวังตามหลักการควบคุมโรคเท่านั้น ช่วยแชร์ต่อด้วยนะครับ ลงชื่อ นพ.กิตติ รัตนสมบัติ ผอ.รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 0813704119
เจ้าหน้าที่ รพ.ท่าศาลา คนหนึ่งกล่าวว่า ผอ.รพ.ท่าศาลา ทำไม่ถูกมาตั้งแต่แรกเพราะพยายามจะปกปิดเรื่องนี้มาตลอด ขนาดผลการตรวจนักศึกษาที่เดินทางมาจากอิหร่าน มาถึง รพ.ท่าศาลาตั้งแต่ดเช้าวันที่ 4 มี.ค. 2563 แต่ทาง ผอ.ก็ยังออกแถลงการณ์ปฏิเสธเสียงแข็ง ว่าไม่มีผู้ป่วยไวรัสโควิด 19 ทั้ง ๆ ตัว ผอ.ไม่กล้านั่งทานในห้องทำงานมา 2-3 วันแล้ว แต่ออกมานั่งทานในที่แจ้งมีลมพัดถ่ายเท ในขณะที่แพทย์พยาบาลที่จะขึ้นไปตรวจรักษานักศึกษาคนดังกล่าวในห้องชน 2 อาคารจิตเวช ก็ไม่มีใคกล้าขึ้นไปต้องมีการจับฉลาก ใครจับฉลากโดนถึงกับร้องห่มร้องให้ ทราบว่าแพทย์พยาบาลคนที่ตรวจนักศึกษาและทกการเจาะเลือดนักศึกษาในวันแรกต่างวิตกกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับ และเริ่มมีอาการที่ส่อจะเป็นไวรสโควิด 19 เพิ่มอีก 1 คน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม่ ผอ.ต้องปกติ ในระหว่างนั้นมีผู้ป่วยและญาติจำนวนมากเข้าออก รพ.ท่าศาลา โดนไม่ได้ป้องกันตามที่ควรจะเปนจำนวนมาก ทั้งหมดกลายเป็นผู้ที่ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงใช่หรือไม่
เมื่อทาง นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกมาแถลงยอมรับว่านักศึกษาที่เดินทางมาจากอิหร่านเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งแม้จะไม่ระบุว่า รพ.ไหน แต่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ประชาชนคนท่าศาลา หรือทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นนักศึกษาคนเดียวกันที่เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ท่าศาลา ก่อนเจาะเลือดส่งตรวจพิสูจน์ที่ รพ.จุฬา ผอ.ปกปิดทำไม่ ทำไมไม่ประกาศและเข้าสู่มาตรการการป้องกันอย่างเข้มข้น ตอนนี้ไม่มีบุคลากรคนใดของ รพ.ท่าศาลา อยากมาทำงานเพราะมันเสี่ยงกับการติดโรคร้ายนี้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่ชาวมุสลิม ชาว ต.มโคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรราช ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับ นักศึกษาที่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 กล่าวว่า หลังจกนักศึกษาคนดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศอิหร่านและผ่านด่าน ตม.ก่อนจะเดินทางกลับมาบ้านใน ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา เขาดำรงชิตปกติอยู่ 2-3 วันใกลชิดกับพ่อแม่และญาติ ๆ รวมทั้งเข้าทำกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิดโมคลานต่อเนื่อง จนมีอาหารไข้ขึ้นสูงกว่า 40 องศา เขาจึงเดินทางไป รพ.ท่าศาลา เพื่อปรึกษาและให้แพทย์ตรวจจนเพิ่งจะมีการกักตัวไว้ชั้น 2 ตึกจิตเวช รพ.ท่าศาลา และส่งเลือดไปตรวจที่ รพ.จุฬา จนทราบผลชัดเจนว่าติดเชื่อไวรสโควิด 19 สรุปมีคนที่อยู่ในกลุ่มเสียงทั้งแพทย์ พยาบาล พ่อแม่ ญาติ ๆ และชาวบ้านโมคลานที่เข้าทำกิจกรมทางศาสนาในมัสยิดไม่น้อยกว่า 200 คน ๆคนกลุ่มเสียงเหล่านี้ก็ไม่มีหน่วยงานไหนตามนำตัวมากักบริเวณ 14 วันตามมาตการ ทุกคนใช้ชีวิตปกติ จนถึงวนนี้เป็นวันที่ 5 แล้วคนกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ และเชื่อว่าเรื่องนี้ใครรับผิดชอบ ผอ.รพ.ท่าศาลา รับผิดชอบได้หรือไม่ เชื่อว่าอีกไม่กี่วันจะมีคนล้มป่วยเพราะติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อีกจำนวนมากแน่นอน หากยอมรับความจริงและประกาศมาตรการควบคุมเข้มข้นมาตั้งแต่ต้นเรื่องคงไม่บานปลายขนาดนี้.
ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกจังหวัดนครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง