น้องสัก นักข่าว บ้านนาสำโรง ด้อยพัฒนาล้าหลัง 30 ปี เสนอตัวลงสมัครผู้ใหญ่บ้าน ประสาน 10 ทิศนำ"พัฒนาแบบกระจาย ไม่กระจุก"
(2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกำนัน ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เกษียณอายุลงทางอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงประกาศให้มีการรับสมัตรเอกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านนาสำโรง ตำบลมะม่วงสองต้น อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ในวันที่ 10 มี.ค. 2563 โดมีผู้สมัคร 2 คน ประกอบด้วยเบอร์ 1 นายสุรชัย สมทอง และ เบอร์ 2 นายนรศักดิ์ สานุจิตต์ หลังจากนั้นผู้ใหญ่บ้านใน ต.มะมวงสองต้นก็จะโหวตเสียงเลือกกำนัน ต.มะม่วงสองต้น ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โดยนายสุรชัย สมทอง ผู้สมัครเบอร์ 1 อายุ 26 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี จากวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ไม่ระบุอาชีพก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง และเป็นลูกชายของอดีตกำนัน ต.มะม่วงสองต้น ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ ส่วนนายนรศักดิ์ สานุจิตต์ เบอร์ 2 อายุ 36 ปี จบการศึกษานิเทศก์ศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีประทุม ก่อนลงรับสมัครรับการเลือกตั้งประกอบอาชีพสื่อมวลชนอิสระ มานานกว่า 10 ปี จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “น้องสัก นักข่าว” ทำให้ผู้สมัครคู่แข่งร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติเนื่องจากประกอบอาชีพเป็นสื่อสารมวลชน ทางคณะกรรมการอำเภอเมืองได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียดพบว่าการเป็นสื่อมวลชนหรือนักข่าวอิสระไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมาย และมีคุณสมบัติในการลงรับสมัครเบือกตั้งผู้ใหญ่บ้านอย่างครบถ้วน
ทำให้การหาเสียงของผู้สมัครทั้งสองคนเป็นไปอย่างเข้มข้นไม่แพ้การเลือกตั้งในระดับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและการเลือกตั้งระดับชาติ ทั้งการติดคัคเฮาส์หาเสียงตามจุดต่าง ๆในพื้นที่เลือกตั้ง การใช้รถแห่โฆษณาหาเสียงพร้อมเดินพบปะชาวบ้านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแบบพร้อมแจกใบปลิวแนะนำตัวและรายละเอียดของแนวทาง แนวนโยบายการทำงานบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายนรศักดิ์ สานุจิตต์ ผู้สมัครเบอร์ 2 กล่าวว่า ตนเกิดและอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 บ้านนาสำโรง มาทั้งชีวิตซึ่งพื้นที่บ้านนาสำโรง อยู่ติดกับตัวใองนครศรีธรรมราช ห่างจากศากลางเพียง 1-2 กม. แต่ผ่านมา 20-30 ปี บ้านนาสำโรงก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองและเป็นพท้นที่ประวัติศาสตร์ที่มีศักยภาพควรได้รักบารพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองเหมือนพื้นที่ใกล้เคียงอื่น ๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต 20-30 ปีก่อนที่เห็นเป็นรูปธรรมก็แค่เดิมพื้นที่เป็นถนนลูกรัง ในปัจจุบันมีถนนลาดยาง และถนนคอนกรีตขนาด 3-4 เมตรตัดผ่านไปตามจุดต่าง ๆ ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ รวมทั้งชลประทานตัดผ่าน ซึ่งเป็นถนนสายหลักในหมู่บ้าน ส่วนการพัฒนาในด้านอื่น ๆ แทบไม่ปรากฏให้เห็นเลย หลายโครงการที่เป็นสิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณลงมาในพื้นที่ เช่น การก่อสร้างแทงค์น้ำประชาของการประชาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ ต.ม่วงสองต้น 2 จุดก็ไม่สามารถขับเคลื่อนดำเนินการได้จนทางราชการต้องดึงงบประมาณกลับคืนไป และอีกหลายโครงการ ตนจึงคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่บ้านนาสำโรง ในที่สุดจึงตัดสินใจเสนอตัวลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้
สำหรับแนวทางการพัฒนาจะให้การสนับสนุนโครงการของรัฐบาลที่เข้ามาในพื้นที่ในทุกมิติ โยเฉพาะการก่อสร้างถนน 4 เลนสายพุทธภูมิช่วงข้ามทางรถไฟเชื่อมกับถนนชลประทานไปบรรจบถนน 4 เลนสายเบญจม-นาพรุ ถนนสายนี้เป็นถนนมาตรฐานสวยงามมากที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นถนนสายหลักรองรับโครงการพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นมรดกโลก รองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าสู่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่ง รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ประสานงานติดตามและได้งบประมาณกว่า 1 พันล้านพร้อมดำเนินการก่อสร้างในเร็ว ๆ นี้ หากถนนสายนี้ดำเนินการแล้วเสร็จจะเป็นถนนยุทธศาสตร์ที่จะนำการพัฒนาในทุก ๆ ด้านมาสู่บ้านบ้านสำโรง หมู่ 2 ต.มะม่วงสองต้น อย่างแน่นอน แต่ก่อนหน้านี้อดีตผู้นำท้องถิ่นใน ต.มะม่วงสองตเน บางคนนำชาวบ้านไปลงชื่อคัดค้าน ด้วยเหตุผลที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวเล็กน้อย”
อดีตสื่อมวลชนคนดังกล่าวอีกว่า หากตนได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านนาสำโรงจะดำเนินการทุกวิถีทางในการประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ส.ส.ในพื้นที่หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนพัฒนาหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดตั้งสภาประชาชน (หมู่บ้าน) โดยมีตัวแทนจากประชาชนครอบคลุมทุกจุดของหมู่บ้านเพื่อมาทำหน้าที่ร่วมกันพิจารณาการโครงการและงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนทำให้การพัฒนาเป็นไปตามความต้องการของประชาชนกระจายไปในทุกจุดของพื้นที่ไม่กระจกอยู่ในจุดใดจุดหนึ่งเหมือนในอดีตที่ผ่านมา สนับสนุนส่งเสริมให้เด็ก เยาวน และประชาชนหันมาออกกำลังกายโดนเล่นกีฬาทุกประเภท, จัดตั้ง อส.ตร.หรือ ชรบ.ช่วยกันตรวจตราดูแลลูกหลานและรักษาความสงบเรียบร้อย ,สนับสนุนส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อประกอบอาชีพนำผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นออกมาเผยแพร่และจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับประชาชน ส่วนปัญหาการกู้ยืมเงินกองทุนหมู่บ้านที่ชาวบ้านกู้ยืมและครบกำหนดชำระ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่มีเงินมาจ่ายคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ต้องต้นหยิบยืมเงินกู้นอกระบบมาจ่ายคืนกองทุนหมู่บ้านส่งให้ชาวบ้านเดือดร้อน ก็จะร่วมกันพิจารณาแก้ไขกฎระเบียบสัญญาและยืดระยะเวลาการชำระหนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้านออกไปอย่างไม่มีกำหนด ภายใต้เงื่อนไขผู้กู้จะต้องชำระเฉพาะดอกเบี้ยให้เป็นปัจจุบัน เป็นต้น โดยตนจะมุ่งมั่นทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส เป็นธรรม ทำงานแบบกระจายการพัฒนาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดไม่ให้กระจุกตัวอยู่แค่จุดใดจุดหนึ่งเหมือนในอดีต อย่างไรก็ตามขึ้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนบ้านนาสำโรง ในวันที่ 10 มีนาคม 2563 นี้ว่าจะให้โอกาสเลือกตนเข้าไปทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านหรือไม่ นายนรศักดิ์ สานุจิตต์ หรือ “น้องสัก นักข่าว กล่าวย้ำในที่สุด.
ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง