ผอ.รร.ดังยอมรับผิดติดประกาศผิดพลาด อ้างโปรมแกรมคอมฯรวน

 

            (19  ก.พ.) จากกรณีทศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้รับการร้องเรียนจากพ่อแม่ ผู้ปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากลูกหลานซึ่งเรียนจบระดับ ม.3 จากโรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดนครศรีธรรมราช และสอบเข้าเรียนในระดับ ม.4 โรงเรียนเดียวกัน จนกระทั้งเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2563 โรงเรียนได้ปิดป้ายประกาศผู้ผ่านการสอบเข้าเรียนในระดับ ม. 4 ทำให้นักเรียนพร้อมพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ไปตรวจสอบรายชื่อปรากฏว่าสอบผ่านต่างพากันดีใจเป็นการใหญ่ และจัดเตรียมเสื้อผ้าชุดนักเรียนระดับ ม.ปลาย เพื่อเตรียมเข่าเนียน ม.4 ในปีการศึกษา 2563 แต่ปรากฏว่าในวันที่ 15 ก.พ. 2563 ทางโรงเรียนได้ปลดแผ่นป้ายประกาศดังกล่าวออกและปิดประกาศแผ่นใหม่แทน ทำให้รายชื่อนักเรียนที่สอบได้และปิดประกาศในครั้งแรกหายไป 68 คน บรรดานักเรียนและผู้ปกครองที่มีรายชื่อในครั้งแรกถึงกับหัวใจสลาย ร้องห่มร้องใหญ่และตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการทุจริตในการเรียกผลประโยชน์ในการรับเด็กเข้าเรียน จึงรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอาจจะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับทางโรงเรียนต่อไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

 

                          ดร. ส.สมบัติ มีสุนทร กล่าวว่า ตนยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เนื่องจากการการประมวลผลที่เจ้าหน้าที่ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหม่ในการเรียงลำดับนักเรียนที่มีคะแนนสูงไล่ลงไปถึงนักเรียนที่ได้คะแนนต่ำ ปรากฏว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์รวนไม่อัฟเดตทำให้มีรายชื่อเด็กที่ได้คะแนนต่ำขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ได้คะแนนสูงด้วย ซึ่งความริงตอนที่จัดทำเอกสารก่อนปิดประกาศครั้งแรกเจ้าหน้าที่ได้เสนอให้ตนเซ็นรับทราบตนก็พยายามถามย้ำหลายครั้งว่าถูกต้องเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ครูและเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ตนจึงเซ็นรับทราบก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปิดประกาศในครั้งแรก จนผู้ปกครองและนักเรียนมาตรวจสอบพบรายชื่อก็ดีใจ

            แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่และครูที่รับผิดชอบในการจัดทำเอกสารได้มาบอกตนว่าเกิดความผิดพลาดที่รายชื่อเด็กคะแนนต่ำขึ้นอยู่อยู่ในกลุ่มที่คะแนนสูงซึ่งอยู่ในเอกสารที่ปิดประกาศด้วย ตนตกใจมากจึงหารือกันว่าจะแก้ไขอย่างไร โดยตนตั้งใจอย่างเดียวว่าจะต้องทำให้ถูกต้อง จึงมีตรวจสอบและจัดเรียงลำดับรายชื่อนักเรียนตามที่ได้คะแนนสูงผ่านเกฑณ์คัดเลือก โดยพบว่ามีเด็กที่คะแนนต่ำที่มีชื่อในครั้งแรกหายไป ก่อนจะไปแกะประกาศแผ่นเก่าออกและติดประกาศแผ่นใหม่ จนผู้ปกครองและนักเรียนที่มีชื่อในครั้งแรกออกมาโวยวายและเรียกร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว

 

 

 

            ผอ.โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช กล่าวว่าเรื่องนี้ตนในฐานะผู้บริหารไม่โทษใคร ไม่โทษครูและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการในเรื่องนี้ โดยตนจะขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวกับความผิดพาดที่เกิดขึ้น ตนบกพร่องในการตรวจสอบรายชื่อครั้งแรก เพราะเชื่อในมาตรฐานระบบคอมพิวเตอร์  แต่ยืนยันว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังในเรื่องผลประโยชน์ในการรับเด็กเข้าเรียนในปีการศึกษาใหม่อย่างแน่นอน ตนบริสุทธิ์ใจและไม่มีเรื่องทุจริตอยู่ในหัวใจเลย เมื่อพบความผิดพลาดก็ต้องการแก้ไขให้ถูกต้องเท่านั้น  ซึ่งตนได้รายงานให้ สพฐ.และกระทรวงศึกษาธิการทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว

            “สำหรับนักเรียนที่มีรายชื่อในครั้งแรกไม่ต้องห่วง เพราะเท่าที่ตนชี้แจงกับผู้ปกครอง มีอยู่จำนวนหนึ่งจะไม่เรียนต่อในสายสามัญแต่จะไปเรียนต่อในสายอาชีพแทน และเข้าใจความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ในส่วนทียังตั้งใจจะเรียนที่โรงเยนกัลยาณีศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมนั้นทางโรงเรียนได้รับนโยบายจาก สพฐ.ว่าจะรับเด็กเก่าที่ประสงค์เข้าเรียน ในโรงเนียนเดิม 100 เปอร์เซ็นต์  ดังนั้นขอให้นักเรียนและพ่อแม่ ผูู้ปกครองสบายใจได้ว่าทางโรงเรียนจะรับนักเรียนบุตรหลานของท่านกลับเข้าเรียนในแผนการเรียนที่เหมาะสมกับเด็กซึ่งมีคะแนนเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาว่าจะได้เรียนในแผนการเรียนใด  ดร. ส.สมบัติ กล่าวย้ำ

            ตัวแทนผู้ปกครองรายหนึ่งกล่าวว่า เมื่อทาง ผอ.โรงเรียนขี้แจงข้อเท็จจริง และยอมรับความผิดพลาดพร้อมยืนยันว่านักเรียนที่มีรายชื่อในการประกาศครั้งแรกจะได้เข้าเรียนต่อในระดับ ม.4 ทุกคนก็ยอมรับได้ และดีใจที่ไม่ต้องวิ่งรอกหาที่เรียนให้กับบุตรหลาน เรื่องนี้เราเชื่อว่า ผอ.ท่านมีประวัติที่ขาวสะอาดไม่น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลีงเรื่องการทุจริตหรือเรียกรับผลประโยชน์  แต่ทาง ผอ.ต้องเข้าใจนักเรียนและผู้ปกครองที่มาดูการปิดประกาศครั้งแรกด้วย เมื่อเขาเห็นมีรายชื่อเขาก็ดีใจเป็นธรรมดา แต่เมื่อมีการเปลี่ยนของเก่าออกติดของใหม่รายชื่อหายไป ทุกคนอยู่ในสภาพหัวใจสบาย จึงออกมาเรียกน้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว.

 

ภาพ/ข่าว ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวนครศรีธรรมราช/รายงาน