วิ่งไล่ลุงเมืองคอนไม่คึกคัก ทนายดังชี้โดนตำรวจสกัดทุกวิถีทาง
เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 12 ม.ค. 2563 ที่ถนนราชดำเนินหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับการคำสั่งให้ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” จำนวนกว่า 100 คน รวมทั้งตำรวจจราจรได้เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โดยมี พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้นั่งรถยนต์มาสังเหตุการณ์ด้วย แต่ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชไม่ได้ลงจากรถ
ต่อมาได้มีนายแพทย์อิสระ หัสดินทร์ ผอ.โรงพยาบาลนครพัฒน์ และนายสุวัฒน์ ตั้งตระกูล ทนายความ พร้อมกลุ่มประชาชนที่จะร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงกว่า 20 คนเดินทางมาที่ถนนราชดำเนิน หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ก่อนที่บรรดานักวิ่งอีกหลายสิบคนจะทยอยเดินทางมาสมทบ ก่อนจะช่วยกันติดป้ายกระดาษหน้าอกเสื้อและด้านหลังข้อความ “วิงไล่ลุง “ ซึ่งพิมพ์และปริ้นในกระดาษ เอ.4 สีฟ้าและสีชมพู นอกจากนี้มีกระดาษขาวดำอีก 2 แผ่นระบุข้อความว่า “เศรษฐกิจย่ำแย่ เบื่อ ๆๆๆ โจรกบฏ คสช.ออกไป ..สู้สู้ จึงจะชนะ และ “กลั่นแกล้งขั้วตรงข้าม ขจัดผู้เห็นต่าง” โดยมีนายธนชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมทนายความเพื่อประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทนายความอีก 3-4 คน เดินทางมาร่วมกิจกรรม และรอนักวิ่งมาสมทบนานเกือบ 30 นาที แต่ก็มีนักวิ่งมาสมทบเพียงไม่กี่คน รวมนักวิ่งประมาณแค่ 60 คนเท่านั้น
หลังจากมีการถ่ายภาพบริเวณปายวัดหน้าพระมหาธาตุวรมหาวิหารพร้อมชู 3 นิ้วประกาศสู้ ๆ ๆ กลุ่มนักวิ่งจึงเริ่มออกเดินและวิ่งไปตามถนนราชดำเนิน เป้าหมายที่ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินและขับรถ จยย.ติดตามปิดท้ายขบวน อย่างไรก็ตามในระหว่างทางบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ตลาดท่าม้า ได้มีกลุ่มนักวิ่งเข้าสมทบอีกหลายสิบคน โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านจาก อ.สิชล กว่า 10 คนที่จัดทำเสื้อสกรีนข้อความ “วิ่งไล่ลุง” เดินทางมาสมทบทำให้กลุ่มนักวิ่งเพิ่มขึ้นรวมประมาณ 120 คน จนกระทั้งทั้งหมดร่วมเดินและวิ่งไปถึงสนามหน้าเมือง และเข้าไปร่วมถายภาพบริเวณศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยยกมือชู 3 นิ้วประกาศเสียงดังกึกก้องว่า “ไชโยๆ ๆ ออกไป ๆๆ และนายธนาชัยได้ตะโกนถามว่า “มาทำไม กลุ่มนักวิ่งตะโกนตอบพร้อม ๆ กัน 3 ครั้งว่า “มาไล่ลุง”
นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าวว่า วันนี้เราจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายด้วยการเดินและวิ่งและพบปะพูดคุยปัญหาต่าง ๆ ในบ้านเมือง ส่วนที่มีคนมาร่วมน้อยนั้นเพราะจากเดิมที่มีการประชาสัมพันธ์บอกกล่าวเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในจังหวัดนครศรีธรรมราช จนาดหมายกันว่าจะมีผู้ออกมร่มกิจกรรมจำนวนมาก ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมามีคำสั่งจากตำรวจเข้าไปหากลุ่มคนโดยเฉพาะนักศึกษาและผู้ปกครอง ส่งผลให้ผู้ที่จะมาร่วมวิ่งไล่ลุงส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาร่วมกิจกรรม
“จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นการเชิญมารมออกกำลังกายหรือดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมันเป็นสิทธิโดยชอบของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เดิมมีคำสั่งห้ามจาก คสช.แต่หลังจาก คสช.ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้วก็ไม่มีกฎหมายใด มาตราใดสั่งห้าม จึงสามารถดำเนินกิจกรรมลักษณะนี้ได้ และที่มีทนายหลายคนมาร่วมกิจกรรมเพราะทนายความเขาใจข้อกฎหมายและตระหนักถึงห่าที่ความรับผิดชอบในทางสังคมและอย่างน้อยหากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ทางทนายจะได้ช่วยแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตามในส่วนของนักศึกษาโดยเฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยที่โดนคำสั่งห้ามากผู้บริหารนั้นในตอนแรกเราได้มีการติดต่อประสานงานกัน แต่หลังจากที่โดนผู้บริหารสั่งห้ามก็ไม่ได้ติดต่อประสานงานกันอีกเลย”
นายธนาชัย เกตุโรจน์ กล่าวอีกว่า ในช่วยของชาวบ้านจาก อ.จุฬาภรณ์ ชะอวด และอำเภอใกล้เคียง นำโดยนายชญานิน คงสง เขาไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมในช่วงเชาตรู่ได้ เพราะเขาต้องทงานกรีดยางพาราในช่วงเช้า และเขานัดกันมาร่วมวิ่งไล่ลุงในซึ่งเย็นของวันนี้ (12 ม.ค.) โดยนัดรวมตะวกันที่สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ตนและทนายความจะเดินทางมาร่วมกิจกรรมในตอนเย็นด้วยและอาจจะหารือกันว่าเราจะจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงกันทุกวนอาทิต์ก็เป็นได้
ในขณะที่นักวิ่งจาก มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์คนหนึ่งกล่าวว่า ทางผู้บริหารเขสั่งห้ามเฉพาะในมหาวิทยาลัย แต่กลุ่มที่ออกมาร่วมวิ่งไม่ได้เน้นในทางการเมืองแต่ส่วนใหญ่เป็นกามที่ชอบการออกกำลังกายด้วยการวิ่งตามปกติอยู่แล้ว และไม่แน่ใจว่าในเชาวันเดียวกันนี้กล่มรักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์จะออกมาร่วมวิ่งกันในมหาวิทยาลัยหรือไม่.
ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง