เปิดใจพระเมาขับชน 2 วัยรุ่นดับ หลังตำรวจให้ประกันตัว

                    ที่สถานีตำรวจภูธรภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ญาติและคนใกล้ชิดของนายมานพ เนาโนนทอง อายุ 51 ปี อดีตพระลูกวัด วัดป่าศิริสมบัติ บ้านหัน ต.หนองกุงธนสาร อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาขับรถยนต์ชน น.ส.วิกาลดา เรสะท้านอายุ 18 ปี  และนายธนากร พื้นแสน อายุ 19 ปี ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา จนเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้พาสมาชิกสภาองค์การบริหารตำบลแห่งหนึ่งใน อ.ภูเวียง จำนวน 3 คน พร้อมหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ยื่นต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูเวียง เพื่อเป็นหลักประกันในการขอยื่นประกันตัวนายมานพในชั้นสอบสวน หลังจากที่ได้ทำการสอบปากคำเสร็จสิ้น ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและยินยอมที่จะเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ครอบครัว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไปได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่กระทบต่อการทำสำนวนคดี และเพื่อเป็นการให้โอกาสผู้ต้องหาในการเจรจา และหาเงินมาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไตรธรรม ผกก.สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวน ก็เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจาตกลงกันในเรื่องของค่าชดเชยเยียวยาผู้เสียชีวิต ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดี ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งในระยะเวลา 3 เดือนนี้ คู่กรณีจะได้นัดหมายกันมาเจรจาเรื่องค่าเสียหายที่ สภ.ภูเวียง   จนกว่าจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพราะตัวผู้ต้องหาเองก็ตัวคนเดียว เนื่องจากหย่าร้างกับภรรยา และบวชเป็นพระมาตั้งแต่ ปี 2546 เมื่อเจรจาค่าเยียวกันได้แล้ว ในทางคดีก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนจนถึงชั้นศาลที่จะมีการสืบพยานและตัดสินคดี โดยในระหว่างการปีระกันตัวหากผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีหรือประพฤติตนที่อาจกระทบต่อคดี ก็จะต้องถูกนำตัวฝากขังต่อศาล และนายประกันทั้ง 3 คน ก็จะต้องร่วมกันรับผิดชอบตามกฎหมาย

ด้านนายมานพ กล่าวภายหลังได้รับการปล่อยตัวออกจากห้องควบคุมผู้ต้องขังว่า ตนเองเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งตนเองก็ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา สิ้งที่เกิดขึ้นมาจากความไม่หนักแน่นในจิตใจของตนเองแม้ว่าจะบวชเป็นพระมาถึง 17 พรรษา แต่ก็ยังพ่ายแพ้ต่อของมึนเมา จึงอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองเป็นบทเรียนให้กับทุกคน รวมทั้งพระภิกษุ สามเณร ว่าไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มึนเมาทุกประเภท โดยหลังจากนี้ตนเองก็จะหาเงินมาเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตเท่าที่จะหาได้ หากหาไม่ได้ตามที่ครอบครัวผู้เสียหายเรียกร้อง ตนเองก็พร้อมที่จะติดคุก โดยจะไม่ขอเรียกร้องความเห็นใจใดๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของตนเองผู้เดียว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้พนักงานสอบสวน ได้นัดให้ผู้ต้องหาเดินทางมารายงานตัวอีกครั้ง ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ และให้ทั้งสองฝ่ายนัดวันที่จะมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยหากตกลงกันได้ก็จะทำการบันทึกเพื่อประกอบในสำนวนคดี ก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการในการส่งฟ้องต่อศาลต่อไป

นิติกรณ์ ฝางมาลา ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่น