คณะสงฆ์วอนน้องเดียว หยุดท้าทายเปิดกล่องรับบริจาคแข่งกัน

      เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างน้องเดียว นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้กับพระยังไม่จบหลังจากเกิดที่นายหนังน้องเดียวออกมาโพสต์ด่าพระที่พูดเรื่องค่าจ้างคืนละ8หมื่นบาทแพงระหว่างที่ไปเล่นหนังตะลุงที่วัดเนินพิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่18ตุลาคมที่ผ่านจนคณะสงฆ์จ.สงขลาต้องสั่งแบนไม่ให้วัดใน จ.สงขลารับหนังน้องเดียวไปเล่น ในขณะที่ท่าทีของนายหนังน้องเดียวก็ยังไม่อ่อนลงล่าสุดเมื่อคืนนี้ได้ท้าให้พระตั้งกล่องรับทำบุญแข่งกับตนหากพระได้มากกว่าก็จะเลิกเล่นหนังแต่ถ้าตนได้มากกว่าพระต้องสึก

      ท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้ซึ่งดูเหมือนว่ายังบานปลายเพราะนายหนังน้องเดียวไม่ยอมลดราวาศอกล่าสุดในวันนี้ท่าทีของคณะสงฆ์ได้จ.สงขลา ได้ออกมาพูดถึงประเด็นความขัดแย้งและทางออกของเรื่องนี้

โดยพระครูปลัดพลกฤต กลฺยาณธมฺโม เจ้าคณะตำบลหาดใหญ่เขต1 และหัวหน้าพระวินยาธิการ จ.สงขลา ออกมากล่าวว่า ในฐานะคณะสงฆ์ใน จ.สงขลา ขอบิณฑบาตรสังคมให้ยุติความขัดแย้งเรื่องนี้  เพื่อรักษาทั้งพระและรักษาทั้งหนังน้องเดียวเอาไว้  เพราะกว่าที่จะเกิดพระเม็ดงามขึ้นสักรูปและนายหนังตะลุงที่เก่งในภาคใต้นั้นเป็นเรื่องยาก  ที่สำคัญทั้งศิลปินและศาสนาก็เป็นเนื้อเดียวกันเรียกว่าจริยศาสตร์ที่นำเสนอเรื่องของคุณธรรมและพระพุทธศาสนาซึ่งต้องอยู่คู่กันไป

ส่วนเรื่องที่นายหนังน้องเดียวท้าให้เปิดกล่องรับบริจาคแข่งกับพระนั้นเรื่องนี้อย่ามาท้าทายกันเลยเพราะทั้งพระและนายหนังน้องเดียวเป็นบุคคลสาธารณะ แค่เจตนาก็ผิดแล้วญาติโยมไปใส่ให้ใครก็ยิ่งขัดแย้ง ทางที่ดีถ้าจะทำบุญก็ให้ทำทั้งสองฝ่ายแล้วเอามารวมกันจะดีที่สุด และขอบิณฑบาตรให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

    ส่วนกระแสสังคมเกี่ยวกับเรื่องที่น้องเดียวออกมาด่าพระและท้าทายพระนั้นบางคนก็ไม่เห็นด้วยโดยบอกว่าเรื่องนี้นายหนังน้องเดียวควรลดอคติลงและขอขมาพระทุกอย่างก็จะจบลงและเชื่อว่าสังคมจะให้อภัยเพราะคนส่วนใหญ่ยังรักและชื่นชมในความสามารถของนายหนังน้องเดียวแต่หากยังออกมาด่าหรือท้าทายพระก็จะยิ่งทำให้เสื่อมลง

ในขณะที่ท่าทีของชาวบ้านในต.พิจิตร อ.นาหม่อม จ.สงขลา นั้นขณะนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายหนังน้องเดียวโดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆให้พร้อมก่อน ที่จะเข้าแจ้งความในเร็วๆนี้

นภาลัย   ชูศรี  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   จ.สงขลา