5 วิธีแก้ " Earworm " เพลงติดหู

"ใครก็ได้ เอาเพลงนี้ออกจากหัวฉันที" เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีคำพูด และความรู้สึกแบบนี้ เจ้าอาการที่ว่านี้ คือการนึกถึงเนื้อเพลง ทำนองเพลง เมโลดี้ เพลงหนึ่ง วนเวียนอยู่ในหัว ตลอดเวลา บางคนเผลอร้องตาใ หรือฮัมทำนองตาม ตลอดเวลา เคยเป็นกันใช่มั้ยค่ะ

เจ้าอาการนี้ เรียกว่า Involuntary Musical Imagery (INMI) หรือ Earworm นั่นคืออาการที่เรานึกถึงเนื้อเพลงนั้น ๆ วนเวียนอยู่ในหัวไปมา หรืออาการเพลงติดหูนั่นเอง

Earworm ไม่ใช่โรค เป็นแค่ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกแสนจะมากมาย ทั้งหลาย Brainworm, Sticky Music, Stuck Song Syndrome จริง ๆ แล้วมันก็แค่เพลง เพลงหนึ่ง ซึ่งอาจจะหมายถึงทั้งเพลงก็ได้ หรือแค่บางท่อนก็ได้ แม้เพลงมันจะปิดไปแล้ว  แต่เราจะรู้สึกเสมือนเพลงนั้นดังอยู่ในหูไม่ไปไหน รู้สึกเหมือนได้ยินอยู่ในหัวเราตลอด บ้างก็จะฮัมเพลงตามขึ้นมา

ซึ่งไม่ถือว่าเป็นโรคหรือมีความน่ากลัวแต่อย่างใด แต่ Earworm มักเกิดจากการฟังเพลงซ้ำ ๆ นาน ๆ ผ่านเข้าหูโดยตรงทำให้เสียงอาจติดสมองได้ ส่งผลให้ปลายประสาทถูกกระตุ้นอยู่นาน จะเกิด After Effect ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันไป แต่มันจะอยู่กับเราไม่นาน เมื่อเราเริ่มหันไปสนใจสิ่งอื่นรอบตัว เพลงที่ติดในหูก็จะถูกสลัดออกไปในที่สุด
 

5 วิธี หยุดเพลงดังวนในหัว มีดังนี้
1. ฟังและร้องเพลงนั้นให้จบทั้งเพลง เพื่อเป็นการปลดล็อกสมองจากสภาวะติดหล่มท่อนฮุค
2.พยายามหาเพลงอื่นหรือเปลี่ยนเพลงที่ฟังแล้วไม่มีอาการมาฟัง
3.หาเกมหรือปริศนาที่ต้องใช้ความคิดมาทำ
4. ไม่ให้ความสนใจและเชื่อมั่นว่าจะหายไปเอง
5.เคี้ยวหมากฝรั่ง

แต่จะว่าไป Earworm  ก็มีคนสนใจไม่ใช่น้อยเลยนะ
นักจิตวิทยาทั่วโลกมีการทำงานวิจัยศึกษาภาวะนี้กันมากมาย เช่นเมื่อปี 2010 ก็มีการตีพิมพ์รีวิวทุกการศึกษาลงใน British Journal of Psychology พบว่า 98% ของมนุษย์ทั่วไปเคยเจอปรากฏการณ์นี้มาแล้วกับตัว ระยะเวลาที่มันติดหูจะแตกต่างกันไป แต่พบว่าผู้หญิงจะยาวกว่าผู้ชายได้ ,73.7% ของปรากฏการณ์นี้เป็นเพลงที่มี “เนื้อร้อง”,17.7% เป็นเพลงที่ “ไม่มีเนื้อร้อง”
แต่!! เสียงติดหูทุกอันไม่ใช่ earworm เสมอไปนะ
นอกจากอาการเพลงติดหูแล้ว ยังพบว่าโรคทางสมองอื่น ๆ ก็ทำให้เกิดเสียงในหูหรือในสมองได้เช่นเดียวกัน โดยลักษณะของเสียงที่รบกวนในหูนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งเสียงวิ้ง ๆ เสียงกริ๊ง คล้ายจิ้งหรีดร้อง เสียงอี๊ด ๆ คล้ายเจียรนัยพลอย เสียงต่ำ ๆ เสียงซ่า ๆ หรือเสียงประหลาด จนทำให้บางคนรู้สึกปวดหัว หรือถึงขั้นปวดร้าวไปทั้งศีรษะเลยก็มี สำหรับใครที่มีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุในเบื้องต้น

ข้อมูลจาก นพ.อุเทน บุญอรณะ