ข่าว

อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสรุปความเห็น ปม เพิกถอนทับลาน 2.6 แสนไร่ ใน 30 วัน

อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสรุปความเห็น ปม เพิกถอนทับลาน 2.6 แสนไร่ ใน 30 วัน

09 ก.ค. 2567

อธิบดีกรมอุทยานฯ เตรียมสรุปพร้อมรวบรวมความเห็น ปม เพิกถอน พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ภายใน 30 วัน คนไม่มีคุณสมบัติ-รุกที่จะไม่ได้รับการยกเว้น

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อดำเนินการแบ่งพื้นที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัด นครราชสีมา - ปราจีนบุรี จำนวน 260,000 ไร่ไปให้ ส.ป.ก. ดูแลว่า ปัญหาพื้นที่พิพาทในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มีมานานกว่า 40 ปีแล้ว เนื่องจากพื้นที่ ดังกล่าวก่อนเป็นอุทยานแห่งชาติได้เป็นป่าสงวนมาก่อน และได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้เข้าไปทำกิน เนื้อที่ประมาณ 58,000 ไร่

 

แต่หลังจากนั้นได้มีการประกาศ อุทยานแห่งชาติไปทับพื้นที่ในส่วนนี้ด้วยซึ่งถือเป็นความบกพร่องของ กรมป่าไม้ในอดีต จึงมีการเรียกร้องให้กันพื้นที่ออกจากอุทยาน และมีการสำรวจพื้นที่ใหม่อีกครั้งในปี 2543 แต่กระบวนการดังกล่าวไปไม่ถึงจุดหมาย ซึ่งหลายรัฐบาลที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน และมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือสคทช. และมีมติให้กันพื้นที่ชุมชน จำนวน 265,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ของส.ป.ก. และครม. ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่บุคคลใดที่ถูกดำเนินคดี ในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ได้รับการยกเว้น

 

นายอรรถพล เปิดเผยว่าจากมติดังกล่าวทำให้กรมอุทยานฯต้องมาดำเนินการปรับปรุงแนวเขต แต่จะทำได้ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั้งจากในพื้นที่และประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและจะสิ้นสุดในวันที่ 12 กรกฎาคม ก่อนจะรวบรวม เสนอให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ พิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อมีมติเสนอต่อครม. ต่อไป

 

โดยสิ่งสำคัญจะต้องยึดหลักข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องการอยู่อาศัยทำกินและการดูแลรักษาผืนป่า เนื่องจากในจำนวน 265,000 ไร่ มีทั้งคนที่อยู่อาศัยอยู่เดิม จากการจัดสรรพื้นที่และคนที่มาซื้อต่อเป็นมือที่ 2 มือที่ 3 รวมถึงกลุ่มรีสอร์ทที่ถูกดำเนินคดีกว่า 12,000 ไร่

 

ส่วนที่หลายคนมองว่ามติครมเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เป็นการเอื้อนายทุน อธิบดีกรมอุทยานชี้แจงว่า รัฐบาลที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน จึงเห็นว่าควรทำให้เป็นที่ดินของรัฐ และส.ป.ก. ก็ถือเป็นที่ดินของรัฐ

 

ดังนั้นส.ป.ก.จึงต้องเข้ามาพิจารณาตรวจสอบว่าใครมีสิทธิ์ ในส่วนของกรมอุทยานเองก็จะต้องไปพิจารณาร่วมกันในชั้นของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเพื่อเสนอต่อครม. ผมยังว่าบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายก็ยังจะไม่มีคุณสมบัติถือครองที่ดินอยู่อย่างนั้น เพราะกังวลว่าหากมีการจัดสรรที่ไปแล้ว เกิดผลกระทบเพื่อให้กับนายทุนกลุ่มรีสอร์ทเข้าไปดำเนินการ 
 

 

ส่วนประชาชนจะต้องได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวนเท่าไหร่และใครจะได้บ้าง นายอรรถพล ระบุว่า ต้องไปหารือในชั้นคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เพราะคุณสมบัติแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอยู่เดิมบางคนมาซื้อขาย เปลี่ยนมือบางคนเข้ามากว้านซื้อ จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติผู้ครอบครองที่ดินของรัฐ 

 

เมื่อถามว่า มติครม. ให้ดำเนินการตามแผนที่ที่มีการรังวัดใหม่ในปี 2543 เสียงของประชาชนจะสามารถเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าวได้หรือไม่ นายอรรถพล ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา และเป็นข้อเสนอของคณะกรรมการอุทยานฯ ซึ่งตอนนี้มีการรับฟังความเห็นทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และในโลกออนไลน์ แต่ทุกอย่างต้องไปยุติที่คณะกรรมการอุทยานฯ เพื่อเสนอต่อสคทช. หรือ ครม. หากมีมติ ให้ดำเนินการ ตามแผนที่ปี 2543 กรมอุทยานก็ต้องมาดำเนินการรังวัดเพื่อปรับแผนที่ท้ายกฎหมายใหม่