ข่าว

'ชาวไร่ยาสูบ' วอน 'สุทิน' สั่งการทุกเหล่าทัพทั่วประเทศปราบ 'บุหรี่เถื่อน'

05 มี.ค. 2567

'ชาวไร่ยาสูบ' ยื่นหนังสือถึง 'รมว.กลาโหม' ปราบ 'บุหรี่เถื่อน' โดยเฉพาะแนวชายแดน ป้องกันลักลอบนำเข้า โอดสู้สิ่งผิดกฎหมายไม่ได้ โควต้าไม่เพิ่ม ทำรายได้หด

ตัวแทนสมาคมการค้าชาวไร่ยาสูบเตอร์กีซภาคอีสาน ยื่นหนังสือต่อ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้สั่งการไปยังทหารทุกเหล่าทัพร่วมกันปราบปรามและจับกุม "บุหรี่เถื่อน" ตามแนวชายแดน ทั้งทางบกและทางทะเลอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะทางบกในภาคตะวันออกและทางทะเลในภาคใต้ ที่เป็นช่องทางที่สำคัญของการลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งกินส่วนแบ่งการตลาดไปเกือบถึง 1 ใน 4 ของตลาดยาสูบปัจจุบัน

 

นายสันต์ หารสุโพธิ์ ตัวแทนชาวไร่ยาสูบอีสาน กล่าวว่า นายสุทิน เป็น สส. ที่ช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ตนและพี่น้องชาวไร่ยาสูบหวังว่า นายสุทินจะคอยช่วยเหลือพี่น้องชาวไร่ยาสูบในภาคอีสานต่อไป เพราะตอนนี้อุตสาหกรรมยาสูบอ่อนแอมาก จากปัญหาบุหรี่เถื่อนที่รุกหนัก กระทบถึงความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบที่พึ่งพาโควตาการปลูกจากการยาสูบแห่งประเทศไทย แต่เมื่อบุหรี่ถูกกฎหมายสู้บุหรี่เถื่อนไม่ได้ โควต้าก็ไม่เพิ่ม การปลูกยาสูบหมุนเวียนกับพืชชนิดอื่น ทำให้รายได้ที่ควรได้ในช่วงนี้หายไป 

ซึ่งแม้ที่ผ่านมาภาครัฐมีการจับกุมบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวไร่ยาสูบมองว่า หากมีการจับกุมตั้งแต่ช่วงการนำเข้าตามพรหมแดนธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้การดูแลของทหารจะช่วยลดการแพร่กระจายของบุหรี่เถื่อนในประเทศได้ เพราะเมื่อข้ามชายแดนมาได้แล้วก็ไม่ยากเลยที่จะกระจายสินค้าผิดกฎหมายเหล่านี้ไปตามที่ต่างๆ ผ่านพัสดุไปรษณีย์หรือขนส่งทางบก

 

โดยปกติแล้วจะใช้เป็นเงินสำรองด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงภาคการศึกษาใหม่ที่กำลังจะมาถึง ดังนั้น ตนและพี่น้องสมาชิกสมาคมฯ จึงหวังพึ่ง รมว.กลาโหม ให้ช่วยสั่งการเรื่องนี้ลงไปยังเหล่าทัพต่างๆ เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ที่ได้รับปากว่าจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อช่วยเหลือปราบปรามเรื่องของบุหรี่เถื่อน หลังจากนี้จะนำหนังสือของชาวไร่ยาสูบนำเรียนและชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีต่อ 
 

นายสันต์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันในพื้นที่ภาคอีสานมีชาวไร่ยาสูบประมาณ 15,000 ครัวเรือนใน 8 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, นครพนม, สกลนคร, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี และหนองคาย ปลูกยาสูบพันธุ์เตอร์กีซเป็นหลัก โดยฤดูกาลปลูกจะเริ่มในช่วงต้นเดือน พ.ย.จนถึงเดือน เม.ย. การปลูกยาสูบเตอร์กิซจะช่วยสร้างรายได้ให้ชาวไร่ยาสูบเฉลี่ยไร่ละ 16,000 บาท ทำให้ชาวไร่ยาสูบมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงเพียงพอในช่วงฤดูแล้ง และสามารถนำเงินไปลงทุนทำการเกษตรหมุนเวียนพืชอื่นๆ ในฤดูฝนถัดไป และเพียงพอต่อการดำรงชีพของครอบครัวด้วย