ข่าว

สยอง ผลตรวจ 'น้ำคลองสีชมพู' พบเชื้อเจือปน เตือนห้ามดื่ม ห้ามโดนน้ำในคลอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'น้ำคลองสีชมพู' ผลตรวจพบเชื้อแบคทีเรียเจือปนคาดเป็น แบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง สาเหตุจากมีความสกปรกสูง เตือนห้ามนำมาใช้ดื่ม อันตรายมากหากโดนตัวต้องรีบล้างออก

กรณี 'น้ำคลองสีชมพู' ซึ่งตรวจพบในคลองบางแพรกบริเวณหลัง big c สาขาติวานนท์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 โดยสิ่งที่ตรวจพบคือปัญหาคุณภาพน้ำสีชมพู กระทรวงการอุดมศึกษา จึงได้ส่งนักวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดดังกล่าว 

 

นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว (DSS Team) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพของ 'น้ำคลองสีชมพู' ในคลองบางแพรกซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์น้ำสีชมพูโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ (Compound light microscope) กำลังขยาย 600 เท่า พบว่ามีจุลินทรีย์สีชมพูอยู่จำนวนมาก สันนิษฐานว่าเป็นแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง (purple sulfur bacteria) ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู

 

 

น้ำคลองสีชมพู


 

โดย แบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง เป็นแบคทีเรียแบบไม่ใช้ออกซิเจน มักพบในสภาพแวดล้อมของน้ำที่มีการแบ่งชั้น รวมถึงน้ำพุร้อน และแหล่งน้ำนิ่ง ซึ่งน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพเป็นน้ำนิ่งเช่นเดียวกันจึงทำให้เกิดเป็น 'น้ำคลองสีชมพู'

 

 

ดังนั้นเมื่อน้ำในคลองบางแพรกมีสภาพไร้อากาศ หรือมีความสกปรกสูงจึงเป็นสภาวะที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วงโดยจะใช้กรดอินทรีย์ในน้ำเสียและไฮโดรเจนซัลไฟด์เป็นอาหาร รวมทั้งใช้แสงแดดในการสังเคราะห์พลังงาน

 

 

แบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง

 

 

 

แบคทีเรียซัลเฟอร์สีม่วง น้ำคลองสีชมพู

 

 

แนวทางแก้ไขออกซิเจนในคลองบางแพรกควรติดตั้งเครื่องเติมอากาศ หรือลดภาระความสกปรกในรูปของสารอินทรีย์ในคลองบางแพรก เช่น การควบคุมแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่ทิ้งลงคลองฯ ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกิจกรรมนั้นๆ และข้อแนะนำสำหรับประชาชน ห้ามนำน้ำในคลองดังกล่าวมาใช้อุปโภค บริโภค เด็ดขาด ให้ระวังการสัมผัสน้ำในคลอง หากมีการสัมผัส ให้รีบทำความสะอาดด้วยน้ำและสบู่ทันที  ซึ่งหลังจากนี้ วศ.จะร่วมประชุมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ และปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ