ข่าว

เร่งช่วย 11 'แรงงานไทย' ถูกจับเป็นตัวประกัน เชื่อยังมีชีวิต ปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เอกอัครราชทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ยืนยัน เร่งช่วย 'แรงงานไทย' ใน 'อิสราเอล' หวัง 11 ตัวประกันยังมีชีวิต-ปลอดภัย ปัดแรงงานไทยถูกขายให้นายจ้างอื่น ยืนยันเป็นการเปลี่ยนงาน ประสานทางการขอให้พักฟื้นจิตใจก่อนทำงานต่อ

นางพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือ 'แรงงานไทย' ใน 'อิสราเอล' จากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ได้ขอจัดลำดับความเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือ แรงงาน ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงสูงสุดก่อน เนื่องจากมีแรงงานไทยหลายคน ประสงค์ขอเดินทางกลับจำนวนมาก จึงต้องให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเดินทางกลับก่อน

 

สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามทุกวิถีทาง ในการระดมสรรพากรกำลังติดตาม และติดต่อกับแรงงานไทยในอิสราเอลทุกคน แต่เนื่องจากในอิสราเอลขณะนี้ อยู่ในภาวะสงคราม และแบ่งโซนพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซา การช่วยเหลือแรงงานไทย รวมถึงชาวอิสราเอล และชนชาติอื่นๆ ทางการอิสราเอล จึงจะช่วยเหลือไปทีโซน โดยสถานเอกอัครราชทูต ได้ประสานกับทางการอิสราเอลเป็นระยะๆ เมื่อทราบว่า มีคนไทยติดอยู่ในพื้นที่ใด ก็ขอให้ช่วยอพยพออกนอกพื้นที่ ซึ่ง อิสราเอล พยายามให้ความช่วยเหลือตามโซนพื้นที่ จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจข้อจำกัด

 

 

เอกอัครราชทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ยังยืนยันถึง 'แรงงานไทย' ที่เตรียมเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 11 ต.ค. นี้ ว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ จะช่วยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ทั้งเอกสาร อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สามารถเดินทางขึ้นเครื่องได้ เว้นจะมีเหตุสุดวิสัยที่มีการปิดสนามบิน

 

 

เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ

 

ส่วนความปลอดภัย หรือพื้นที่ที่แน่ชัดที่ 'แรงงานไทย' 11 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้น เอกอัครราชทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ยอมรับว่า ยังไม่ทราบสถานการณ์ดังกล่าว แต่ยืนยันได้ว่า แรงงานไทยที่ถูกจับตัวไปเป็นตัวประกัน มี 11 คน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด แต่ทั้งกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และกองทัพอิสราเอล ก็ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่าตัวประกันทั้งหมดถูกจับไปยังพื้นที่ใด หรืออีกทางหนึ่งคือ ทราบแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากถือเป็นปฏิบัติการเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือ

 

 

มั่นใจว่า ทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามประสานทุกช่องทาง ทุกประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงกองทัพอิสราเอล และกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ก็ให้คำมั่นจะดูแล และให้ความช่วยเหลือคนอิสราเอล และตัวประกันชาติอื่นๆ ที่ถูกจับตัวไปอย่างเท่าเทียมเสมือนเป็นประชากรชาวอิสราเอล จึงหวังว่า ตัวประกันชาวไทย จะได้รับความช่วยเหลือออกมาพร้อมกับชาติอื่นๆ โดยเร็ว และจะยังคงมีชีวิตอยู่ 

 

 

เอกอัครราชทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ยังกล่าวถึงกรณีที่ 'แรงงานไทย' ใน อิสราเอล ร้องเรียนถูกขายให้กับนายจ้างอื่น หรือถูกบังคับให้ทำงานต่อทั้งที่เพิ่งหนีจากภัยสงครามว่า สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประสานกับ อิสราเอล เพื่อนำแรงงานออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ดังนั้น จึงมีการนำแรงงานไปฝากไว้กับนายจ้างอื่นในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้แรงงานได้ประกอบอาชีพต่อไม่ให้ขาดรายได้ และให้ถือว่า เป็นการย้ายงาน โดยยอมรับว่า เข้าใจถึงความรู้สึกของแรงงานไทย ที่เพิ่งหนีภัยสงครามมา จึงได้ขอความร่วมมือทางการอิสราเอลให้เวลาแรงงานไทย ได้พักฟื้นจิตใจก่อน 

 

 

ส่วนการขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนั้น เอกอัครราชทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ชี้แจงว่า ขณะนี้ ทางการ อิสราเอล ได้จัดลำดับความสำคัญ และเร่งช่วยเหลือผู้ที่มีชีวิต และติดในพื้นที่เสี่ยงภัยก่อน เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ทางการอิสราเอลส่วนใหญ่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร การพิสูจน์ยืนยันผู้เสียชีวิต จึงยังไม่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วนัก ซึ่งเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลเมื่อ 3 ปีก่อน ที่มีแรงงานไทยเสียชีวิตด้วย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมน้อยกว่านี้นั้น ทางการอิสราเอล ก็ยังต้องใช้เวลาในการยืนยันตัวตน และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกตัวตนเสียชีวิต เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือชดเชย ซึ่งมีหลายขั้นตอน ไม่ให้เกิดความผิดพลาด

 

 

ดังนั้น ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตขณะนี้มากกว่า 500 คนทั่วอิสราเอลแล้ว จึงเชื่อว่า จะยังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประเทศได้รวดเร็ว และเพื่อรักษาประโยชน์ของญาติผู้เสียชีวิต ที่ทางการ อิสราเอล จะให้สิทธิประโยชน์กับผู้เสียชีวิตด้วย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ