โควิดคร่าหนุ่มมะกัน หลังประกาศไม่คิดซื้อหน้ากากใส่ ไวรัสแค่โฆษณาเกินจริง

ริชาร์ด โรส ชาวอเมริกันวัย 37 ปี จากเมืองพอร์ตคลินตัน รัฐโอไฮโอ โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเดือนเมษายน ว่าจะไม่ซื้อหน้ากากมาใส่ เพราะโควิด-19  เป็นแค่โฆษณาเกินจริง ทั้งๆที่ทางการสาธารณสุขรณรงค์ใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและล็อกดาวน์ ยับยั้งเชื้อไวรัสระบาดในเดือนมีนาคม แต่โรสปักใจเชื่อว่าหน้ากากไม่ได้มีความจำเป็น สองเดือนต่อมา โรสถูกตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เมื่อ 1 ก.ค. เขาประกาศผ่านเฟซบุ๊กเองว่าจะต้องกักตัว 14 วัน เพียง 3 วันจากนั้น หนุ่มวัย 37 ที่ไม่เคยมีโรคประจำตัว เสียชีวิตที่บ้านในวันชาติ 4 ก.ค. 

ประมวลจากโพสต์บนเฟซบุ๊กของเขา บ่งว่าผู้ตายไปเยือนสถานที่สาธารณะหลายแห่งก่อนล้มป่วย และไปโดยที่ไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันตัวเอง จึงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ นิค คอนลีย์ เพื่อนของผู้ตาย กล่าวว่า เพื่อนๆและครอบครัวช็อกกับการจากไปของโรส ทุกคนรู้เรื่องไวรัส แต่ไม่คาดคิดว่าจะกระทบคนอายุไม่มากอย่างพวกเรา 
 

ความเห็นของคอนลีย์ ไม่ได้ต่างจากคนหนุ่มสาวอีกมากที่ยังเชื่อว่าสุขภาพแข็งแรงต้านไวรัสได้หากติดเชื้อ ทั้งที่สถิติยืนยันว่าไวรัสโรคโควิด-19 เล่นงานคนทุกเพศทุกวัยและทุกสภาพร่างกาย 

โพสต์ประกาศไม่เชื่อเรื่องการสวมหน้ากากของโรส มีคนแชร์กว่า 1 หมื่นครั้ง ทำให้คอนลีย์ เพื่อนของเขา ใช้ความสูญเสียเตือนสติว่า น่าเศร้าที่เราสูญเสียโรส แต่เศร้ายิ่งกว่าก็คือ ใครจะติดเชื้อรายต่อไปเพราะทำแบบเพื่อนของเขา ซึ่งสุขภาพดี อายุยังอยู่ในช่วงวัย 30 และการไม่รู้จักคนที่ติดเชื้อสักราย ไม่ได้หมายความว่าไวรัสเป็นเรื่องโกหก ขณะเดียวกันก็ขอให้ผู้คนยังคงความโอบอ้อมเห็นใจ ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับความเชื่อของคนคนนั้นหรือไม่ ยิ่งเมื่อคนนั้นเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่ชาวโซเชียลเข้าไปซ้ำเติม เพราะโรสไม่ใส่หน้ากาก 

ริคกี โรส เป็นจิตอาสาช่วยเหลือทหารผ่านศึกไร้บ้าน และเคยเป็นทหารในกองทัพบก 9 ปี 

หนุ่มวัย 30 สารภาพก่อนตาย ผมผิดพลาดเอง ไปปาร์ตี้โควิดเพื่อพิสูจน์ไวรัสแค่เรื่องลวงโลก