'ต่าย' ปัดย่องเซ็นใบหย่า 'ทิม'

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-หลัง “ต่าย” ชุติมา ต้องจบความสัมพันธ์กับ “ทิม” พิธา แต่ทางกฎหมาย ทั้งคู่ ยังเป็นสามี ภรรยา กันอยู่ เพราะทะเบียนสมรสยังมีอยู่ ล่าสุดมีข่าวลือว่า “ต่าย-ทิม” ย่องเซ็นใบหย่าแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ สาวต่าย ที่มาร่วมงาน เปิดกล้องซีรีส์ LINE TV Original “Mother...เรียกฉันว่าแม่” ณ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด (ลาดพร้าว 107) ชี้แจงว่า

กลับมารับละครในรอบหลายปีเลย

   “จริงๆก่อนหน้านี้เล่นหนังไปแล้ว ยังไม่ได้โปรโมท แต่ถ้าซีรีส์น่าจะเป็นเรื่องแรกในอาชีพการงานเลยดีกว่า เพราะก่อนหน้านี้จะเล่นภาพยนตร์กับซิทคอม อันนี้ก็เป็นซีรีส์เรื่องแรกจริงๆ ที่ได้มาลองแสดงฝีมือค่ะ”

อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจรับเล่น

   “ก็จริงๆคือชอบที่เป็นภาพยนตร์ออริจินอลมาจากญี่ปุ่น เรื่องนี้ได้รับการตอบรับทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นเรื่องที่มีความเข้มข้นน่าติดตาม”

เกี่ยวกับบท แม่ ด้วยไหม

   “ใช่แต่ว่าในเรื่องคือตรงข้ามเลย คือห่างไกลมาก สำหรับแม่ในเรื่องกับตัวจริง ถามว่าทำการบ้านยังไง ก็น่าจะเป็นเรื่องท่องบทมากกว่า ถ้าบทได้อินเนอร์ทุกอย่างมันก็จะมาเอง เราต้องมั่นใจกับบทก่อน”

มันยากกว่าการเล่นหนังเล่นซิทคอมที่ผ่านมาไหม

   “ก็นิดหนึ่งแต่ว่าจริงๆแล้ว แต่เดี๋ยวนี้การถ่ายทำก็เป็นสไตล์ภาพยนตร์อยู่แล้ว ก็จะไม่ยาก แต่ถ้าเป็นละครสมัยก่อนก็จะแอบกลัวนิดหนึ่ง อันนี้เขาจะถ่ายภาพสไตล์หนัง ก็ต้องเคาะสนิมนิดหนึ่ง แต่เดือนที่แล้วเราเล่นภาพยนตร์ มันได้เคาะสนิมบ้างกับบทที่เบาๆ บทที่ไม่ได้ดราม่ามากขนาดนี้ เรื่องนี้หนัก คิวแรกร้องไห้ 3 ซีน โดนตบ 3 ซีน (หัวเราะ)”

แบ่งเวลาให้ลูกยังไงบ้าง

   “เราจะรับเฉพาะวันที่น้องไม่อยู่ค่ะ”

กลับมารับงานเต็มตัวแล้ว

   “ใช่ค่ะ”

เลี้ยงลูกของเราคือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

   “ไม่ คือตอนนี้ก็เลี้ยงเยอะ เราจะให้คิวถ่ายเฉพาะที่น้องไม่อยู่ ซึ่งไม่ค่อยมีวันให้เขา อย่างกองหนังที่แล้วก็บอกเหมือนกันว่าคิวยากมากเลย ไม่ค่อยมีเวลา เราต้องดูแลเขาก่อนอันดับหนึ่ง”

มีความเข้าใจมากขึ้น เลยได้อยู่กับลูกเยอะขึ้นไหม

   “ไม่เกี่ยว เป็นตามความเหมาะสมค่ะ”

เราได้อยู่กับลูกมากขึ้น รู้สึกอย่างไรบ้าง

   “แต่ยังไงมันก็เป็นห่วงเขาอยู่ดีแหละ เวลาที่เขาไม่อยู่ คนเป็นแม่จะต้องดูลงดีเทลทุกอย่าง ความสะอาดของเขา ก็พยายามทำให้ดีที่สุดเหมือนที่เขาอยู่ เวลาเขาไม่อยู่เราก็จะพยายามฝากไป ในเรื่องที่เราเป็นห่วง”

เราเป็นห่วงอะไร

   “อย่างเรื่องเชื้อโรค เป็นห่วงมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งมีความทวีคูณขึ้น แล้วก็เรื่องฝุ่น เราจะเป็นเรื่องมลภาวะ อยากให้เขาใส่เครื่องฟอกอากาศ”

ส่วนเรื่องทางกฎหมาย มีข่าวลือว่าเราไปเซ็นใบหย่าแล้ว

   “ก็คืออยากให้เป็นเรื่องในกระบวนการ ตอนนี้ยังไม่อยากลงรายละเอียด”

สบายใจขึ้นไหม สำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา

   “จริงๆก็สบายใจมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หมายถึงว่าตั้งแต่แรกเริ่มที่มีเรื่อง ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ”

ยังไม่ได้มีการเซ็นใบหย่า

   “ก็ยังพูดไม่ได้ค่ะ หมายถึงว่าในกระบวนการเขาก็จะมีคำสั่งมา”

จะยืดเยื้อไปอีกยาวนานแค่ไหน

   “ก็ไม่น่าจะนานนะคะ ก็น่าจะเป็นภายในปีนี้”

ความสัมพันธ์กับอดีตสามี เราคุยกันมากขึ้นไหม

   “ก็เหมือนเดิม ก็คุยเรื่องลูก”

ที่ผ่านมาทางโซเชียล ก็ได้เห็นโมเมนต์ที่ดีเยอะขึ้น

   “ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเราก็ไปตามธรรมชาติ เราไม่ได้โกรธ ไม่ได้ติดใจอะไร ทำทุกอย่างออกมาจากใจ”

เราเตรียมคำพูดไว้หรือยัง ถ้าโตขึ้นลูกถามถึงเรื่องนี้

   “ทุกอย่างต้องพูดตามความจริง ไม่คิดจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว ถ้าเราปิดบังอะไรเขา เขาก็ต้องปิดบังอะไรเราอยู่แล้ว เราต้องเลี้ยงให้เขาเป็นเพื่อนสนิทของเรา บอกได้ทุกเรื่อง”

รอแค่เวลา ที่น้องจะถามใช่ไหม

   “ใช่ คือถ้าเขาอยากรู้อะไร เราก็ยินดีเล่าอยู่แล้ว”

น้องมีถามไหมว่า ทำไมต้องอยู่บ้านพ่อบ้านแม่

   “เขาก็เข้าใจอยู่แล้วค่ะ ว่าตอนนี้กิจวัตรเขายังไง ทุกๆวันก็ดีขึ้นตลอด”

ล่าสุดทำรารอของตัวเองด้วย

   “แรบบิทออนเดอะมู(เตลู) ก็จะเป็นรายการที่พาชิม พาเที่ยว แล้วก็พาไปไหว้พระบ้าง ดูฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับสายมูเตลู เพราะที่บ้านก็จะเป็นสายทำบุญตลอด ตั้งแต่อยู่ในท้องเลย เราก็จะวนเวียนอยู่กับการทำบุญปล่อยปลา ก็คิดว่าถ้าทำอะไรที่ดีๆ มันก็ต้องได้รับอะไรที่ดีๆ แต่ว่าทำบนพื้นฐานของความไม่งมงายนะ อย่างฮวงจุ้ยก็เป็นหลักวิทยาศาสตร์เหมือนกัน”