ข่าว

สาวใหญ่ 'เจ้าหน้าที่ศาล' บุกยิง 'ทนายดัง' ดับคา 'บ้านหรู'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สาวใหญ่ 'เจ้าหน้าที่ศาล' บุก 'บ้านหรู' รัวยิง 'ทนายดัง' ดับ ก่อนถือปืนเข้ามอบตัวกับตำรวจ เผยมีปากเสียงกันก่อนลั่นไก

กล้องวงจรปิดจับภาพ สาวใหญ่ เจ้าหน้าที่ศาล ขณะถือปืนบุกไปยิง ทนายป๋อง ทนายความชื่อดัง ถึงบ้านพัก

วันที่ 18 มี.ค.2567 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.ธัชพงศ์ พรหมมา ผกก.สภ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.กันทรารมย์ นั้น นางชัญญาพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ถืออาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 เข้ามาแจ้งว่า ได้ก่อเหตุยิงคนตาย ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 11 บ้านเกาะแก้วสันติธรรม ต.ดูน อ.กันทรารมย์

 

ต่อมา  ร.ต.อ.เอกภูมิ พลศักดิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.กันทรารมย์ ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

เป็นบ้านหรู 2 ชั้น ของ นายกฤษณ์ หรือทนายป๋อง ทนายความชื่อดัง บริเวณชั้นล่าง หน้าห้องนอน พบศพ นายกฤษณ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอก และกลางลำตัว รวม 3 แผล ใกล้กันพบมีดปลายแหลมตกอยู่ใกล้มือซ้ายของนายกฤษณ์ และพบกระสุนปืนตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

สอบสวน นางชัญญาพรรณ ทราบว่า ทำงานเป็น เจ้าหน้าที่ประจำศาลแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ รู้จักกับ ทนายป๋อง ก่อนเกิดเหตุ ขับรถมาหา ทนายป๋อง ที่ บ้านหรู หลังดังกล่าว ขณะนั้น มี ทนายป๋อง อยู่บ้านคนเดียว และได้กดประตูรีโมทจากข้างในบ้าน ให้ นางชัญญาพรรณ เข้าไป เมื่อเข้าไปได้ไม่นาน ทั้งคู่ได้พูดคุยกันในเรื่องส่วนตัว แต่คุยกันไม่เข้าใจ จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันขึ้น ก่อนที่ฝ่ายหญิงงจะลั่นไกยิง 4 นัด แล้วเข้ามอบตัว

ด้าน ภรรยาของทนายป๋อง กล่าวว่า ตนและสามี อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ก่อนเกิดเหตุออกไปทำงาน ส่วนสามีอยู่บ้านคนเดียว และไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร มารู้อีกทีตอนมีญาติโทรมาบอกว่าสามีถูกยิงเสียชีวิตที่บ้าน รู้สึกตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน

 

ด้าน นางอรทัย อายุ 67 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังทราบข่าว รู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะ ทนายป๋อง เป็นทนายที่ดี เป็นคนตรงฉิน มีคนรักใคร่ให้ความเคารพมากมาย และไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับน้องชาย อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถึงที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ