ข่าว

ผู้เสียหาย หุ้น STARK เรียกร้องทายาทธุรกิจดัง ชดใช้เงิน

ผู้เสียหาย คดีหุ้น STARK เรียกร้องทายาทธุรกิจดัง ชดใช้เงินที่สูญเสียไป เพื่อบรรเทาโทษ เดินหน้าฟ้องคดีแบบกลุ่ม

ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายวนรัชต์ ทายาทนักธุรกิจดัง ในคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.พ.67

 

ต่อมา นางณฐิยา ผู้เสียหายจากการลงทุนในหุ้นกู้ STARK กว่า13 ล้านบาท ในฐานะตัวเเทนกลุ่มผู้เสียหายตัวจริง กล่าวว่า นอกจากคดีอาญาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นฟ้องไปวันนี้ ทางผู้เสียหายตัวจริงได้ยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มที่ศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ โดยใช้โจทก์ฟ้องแค่3คน โดยที่เนื้อหาคดีนี้จะครอบคลุมผู้เสียหาย ครบคนทุกคน 4,000 กว่าราย ให้ได้รับการเยียวยาเท่าๆกัน เป็นการดำเนินคดีครั้งเดียวแต่จะช่วยผู้เสียหายทุกคน โดยศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับเป็นคดีเเบบกลุ่ม (Class Action )หรือไม่ในวันที่ 21 มี.ค.67

 

เรื่องนี้เป็นความหวังของผู้เสียหายทุกคน เพราะถ้าศาลไม่รับเป็นคดีแบบกลุ่มทุกคนต้องไปยื่นฟ้องกันเองแบบแพ่งสามัญซึ่งผู้เสียหาย4,000 กว่าราย คดีจะมี 4,000 กว่าคดีในศาลแล้ว ที่สำคัญคือมันไม่ใช่ทุกคนที่จะมีศักยภาพในการฟ้องด้วยตัวเองได้ เพราะบางคนมูลหนี้ไม่มากพอ จะต้องจ่ายเงินค่าวางศาล ค่าทนายความ ก็จะรู้สึกว่ายอมจำนนดีกว่า ไม่สู้ดีกว่า หรือบางคนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สะดวกที่จะไปฟ้องเอง บางคนอายุมาก บางคนไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย หรือการจะเข้าถึงข้อมูลสำหรับประชาชนธรรมดาแบบเรามันยากมาก

ขนาดเรารวมตัวกันมากขนาดนี้ยังรู้สึกว่ามันไม่ง่าย ที่จะต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม แต่เราโชคดีที่เรารวมตัวกันได้เป็น 100 คนโดยการช่วยเหลือของ นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดี Class Action

 

ได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยที่ไม่คิดเงินเลยแม้แต่บาทเดียว เราอยากให้คดีที่เราฟ้องเองในวันที่ 21  มี.ค.67 ขอให้ศาลพิจารณารับเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อที่ทุกคนจะได้รับความยุติธรรมเท่ากัน ไม่ต้องไปแย่งฟ้องกันเอง ยังไงขอเชิญผู้สื่อข่าวเป็นกำลังใจให้พวกเราผู้เสียหายทุกคน ในวันที่ 21 มี.ค.67 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ 09.00 น.

 

กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่มสตาร์คตัวจริง เพราะเราเป็นผู้เสียหายตัวจริงไม่ใช่เป็นเป็นตัวแทนของผู้เสียหาย เราเป็นผู้เสียหายตัวจริงที่ได้มีการคัดกรองทุกคนเป็นเจ้าของหุ้นกู้จริงๆ เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่มีกลุ่มเป็นผู้เสียหายสามารถที่จะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเราได้ พวกเราต่อสู้เพื่อผู้เสียหายทุกคนโดยที่ไม่คิดเงิน แค่ต้องการความถูกต้องเราไม่อยากให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องมันเกิดขึ้นในสังคมเรา เราอยากให้มันมีมาตรฐานที่ดีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

สิ่งที่อยากฝากถึงนายวนรัชต์ คือพวกเราผู้เสียหายควรได้สิ่งที่สูญเสียไปคืน อย่างที่ผู้ต้องหาที่2 เคยพูดไว้ในศาล ว่าเขาเสียใจและอยากจะชดใช้ให้กับพวกเรา อยากให้คำพูดนั้นเป็นการกระทำขึ้นมาจริงๆไม่ใช่เพียงแต่พูด เราอยากเห็นการกระทำตรงนั้นจริงๆ จะดีใจมากถ้าคืนเงินให้ ถ้ายอมรับผิดเราก็พร้อมที่จะให้อภัย

 

ถ้ามีการคืนเงินเยียวยาผู้เสียหายครบ เราก็พร้อมจะเเถลงศาลให้บรรเทาโทษ เราต้องการมากที่สุดก็คือเราอยากให้ผู้เสียหายทุกคนได้รับเงินคืนเพราะว่าหลายๆคนเป็นผู้สูงอายุ และเขาอยากจะได้เงินคืนในช่วงอายุของเขา บางคนเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต บางคนเป็นผู้ป่วยที่ต้องดูแลพ่อแม่ที่อายุมาก และต้องใช้เงินในการดูแลชีวิต

 

ตรงนี้ถ้าเกิดคืนมาทุกคนก็จะได้รับการเยียวยา ก็อยากให้คืนเงินเร็วที่สุด เพราะว่าการต่อสู้กันไปมันอาจจะใช้เวลานาน บางคนอาจจะมีชีวิตไม่ถึง ถ้าเกิดเขายอมคืนเงินให้ ก็พร้อมที่จะจบคดี ความผิดเกิดขึ้นแล้วเราก็จะไม่ให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเกิดเขารับผิดชอบ และควรกำหนดเวลาว่าเค้าจะชดใช้เมื่อไหร่ไม่ใช่ 10 หรือ 20 ปีเพราะมันอาจจะเกินอายุของเราไปแล้ว ในฐานะผู้เสียหายเราอยากให้ผู้ที่กระทำความผิดเข้ามามาชดใช้ให้กับเราและพวกเราสูญเสียไปมาก

 

ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหาย อีกกลุ่มหนึ่ง เปิดเผยว่า ในฐานะของผู้ร่วมสังเกตการณ์ในการส่งตัวนายวนรัชต์ มาฟ้องคดีที่สำนักงานอัยการสูงสุด จากที่สังเกตอาการของนายวนรัตน์ สันนิษฐานว่าน่าจะป่วยจริง และขณะนี้ทางอัยการและดีเอสไอ ได้มีการนำตัวนายวนรัตน์ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่

ข่าวยอดนิยม