โผล่แล้ว "แม่ ม.4" โทรศัพท์ขอโทษ กุเรื่องลูกชายคิดสั้น กลางโรงพัก

จากกรณี น.ส.อิสรีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี หรือ "ครูทราย" ครูสอนทำเบเกอรี่ และกลุ่มเบเกอรี่โซไซตี้ ได้มีการนำเรื่องราว แม่เด็กนักเรียนชั้น ม.4 รายหนึ่ง ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับแท็บเล็ต ที่ลูกชายต้องใช้ในการเรียนออนไลน์ เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน โดยให้ "ครูทราย" ช่วยดำเนินการซื้อแท็บเล็ตส่งให้ก่อน

 

 

 

จากนั้นแม่ของเด็กชายรายนี้จะทยอยผ่อนส่งค่างวดแท็บเล็ตให้กับครูทราย พร้อมกับโอนเงินมัดจำมาให้ครูทราย เป็นจำนวนเงิน 1,300 บาท แต่สุดท้ายช่วงค่ำแม่เด็กนักเรียน รายนี้ได้แจ้งครูทรายว่า  ลูกชายที่รอแท็บเล็ตอยู่ได้คิดสั้นไปแล้ว สร้างความสะเทือนใจให้กับ "ครูทราย" เป็นอย่างมาก จนนำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว

 

แต่ต่อมาครูทราย ก็ต้องตกใจซ้ำสอง เมื่อตรวจสอบเรื่องราวจากแม่เด็กนักเรียนรายนี้ ทราบว่า เรื่องราวลูกชายของแม่เด็ก ที่อ้างว่า คิดสั้นไปแล้ว เป็นเพียงเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อหวังเอาเงินค่ามัดจำที่จองแท็บเล็ตคืนเท่านั้น ต่อมาทำให้เมื่อทราบความจริงแล้ว จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องหลอกลวง ที่แม่เด็กนักเรียนคนดังกล่าวกุเรื่องขึ้นมา 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ก.ค.2564 น.ส.อิสรีย์ และ น.ส.พรทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ครูสอนทำเบเกอรี่ ได้เดินทางมาที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้  น.ส.อิสรีย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อป้องกันตัวเองจากผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากหลังตนรับฟังเรื่องราวของแม่เด็กนักเรียนรายนี้แล้ว ก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก จนช็อก เสียใจ ร้องไห้ไม่หยุด จากนั้นจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีคนติดตามตนเป็นจำนวนมาก

 

น.ส.อิสรีย์ กล่าวอีกว่า เมื่อเรื่องราวเศร้าใจ ถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์ จนทำให้เริ่มสงสัยบางอย่าง จึงพยายามติดต่อกลับไปหาแม่เด็กนักเรียนรายนี้อีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงให้ น.ส.พรทิพย์ ซึ่งเป็นเพื่อนครูด้วยกันติดต่อกลับไปหาแม่เด็ก แล้วเกลี่ยกล่อมจนกระทั่งทราบจริงจากว่า ได้สร้างเรื่อง กรณีลูกชายคิดสั้นขึ้นมา เพราะต้องการเงินค่ามัดจำค่า "แท็บเล็ต" คืนจากตน จำนวน 1,300 บาท

 

 

 

น.ส.อิสรีย์ กล่าวด้วยว่า หลังจากติดต่อตนมาแล้วว่า จะให้ตนช่วยซื้อแท็บเล็ตให้ก่อน แล้วจะผ่อนชำระให้ทีหลัง เพื่อให้ลูกชายสามารถใช้เป็นอุปกรณ์  เพื่อเรียนออนไลน์ได้ แต่แม่ของเด็กคนนี้กลับถูกลูกชายต่อว่ามา เพราะลูกเขาต้องการ "ไอแพด" ไม่ใช่ "แท็บเล็ต" จึงคิดหาวิธีเอาเงินมัดจำคืน จึงได้สร้างเรื่องขึ้นมาโกหกตนเอง ว่าลูกชายของเจาได้คิดสั้นแล้ว เพียงแค่ต้องการเงินมัดจำคืนเท่านั้น

 

“เราไม่ได้อยากจะแจ้งความเอาผิดกับแม่ของนักเรียนรายนี้ แต่ก็ผิดหวังที่ถูกหลอกให้ช่วยเหลือ โชคยังดีที่เรื่องจริงปรากฏ คือเสียความรู้สึก ไม่ได้มีใครเสียชีวิตจริงในเหตุการณ์นี้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพง เพราะจากนี้ไปเวลาจะไปช่วยเหลือใคร คงต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน” น.ส.อิสรีย์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่น.ส.อิสรีย์ กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้น แม่ของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวได้โทรศัพท์เข้ามาหา น.ส.อิสรีย์ จึงได้เปิดเสียงโทรศัพท์ เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้รับฟัง เสียงคำรับสารภาพจากแม่เด็ก โดยยอมรับผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

ทั้งนี้ น.ส.อิสรีย์ ได้นำข้อความที่แม่เด็กนักเรียนรายนี้ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ รวมทั้งเรื่องที่สร้างขึ้นว่า ลูกชายคิดสั้น พร้อมทั้งเสียงบันทึกที่แม่เด็กนักเรียน รับสารภาพกับครูกบ มาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

 

เพื่อแสดงเจตนาว่า ถูกแม่เด็กรายนี้กุเรื่องมาหลอก ไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องโกหกดังกล่าว ออกมาเผยแพร่ในโซเซียลมีเดีย เพราะเกรงว่า อาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำข้อมูลอันเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

 

ทางด้าน พ.ต.อ.วิทยา บวรศิขริน ผกก.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า เรื่องของน.ส.อิสรีย์ ถือว่าไม่ได้มีเจตนากระทำผิด หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพราะน.ส.อิสรีย์ ไม่ได้มีเจตนาหรือรู้เห็นเป็นใจกับแม่เด็กนักเรียนรายนี้ และน.ส.อิสรีย์เองก็ไม่ติดใจเอาความกับแม่เด็กนักเรียน เพียงแต่ประสงค์จะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องโกหกดังกล่าว ซึ่งตนจะได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกแม่เด็กนักเรียนรายนี้มาสอบปากคำ และว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้ไปก่อเรื่องหรือกระทำในลักษณะนี้อีก