ข่าว

"ผู้กองณัฐ" สารภาพอ้างเป็นตร.กองปราบ รีดเงินคดีติดตัวเพียบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.กองปราบ คุมตัวผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นผู้กองสังกัดกองปราบ ออกกรรโชกทรัพย์ประชาชน ล่าสุดก่อเหตุกับเจ้าอาวาสวัดในจังหวัดบุรีรีมย์ สารภาพหมดเปลือกลงมือก่อเหตุมาหลายครั้ง เงินที่ได้นำไปเที่ยว ให้ผู้หญิง

          29 พ.ค.2563 ที่ กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผู้กำกับการ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม แถลงการจับกุมตัว นายอรรฆเดช ขันน้อย อายุ 35 ผู้ต้องหาในคดี “กรรโชกทรัพย์” เจ้าอาวาสวัดกมลาวาส ตำบลบ้านดู่ อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจับตัวได้ภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหัดนครปฐม

 

อ่านข่าว...   จับแล้ว "ผู้กองณัฐ" อ้างเป็นตร.กองปราบรีดเงินเจ้าอาวาสวัด
 

          พ.ต.อ.บุญลือ  เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยจะอ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม ชื่อ "ผู้กองณัฐ" และจะพกอาวุธปืน ไปด้วยเพื่อทำให้เหยื่อหลงเชื่อ และข่มขู่เหยื่อว่ากระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ เช่น ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จำหน่ายสุรา หรือ ดื่มสุรา โดยครั้งนี้มีการไปเรียกรับเงินเจ้าอาวาส ข่มขู่ว่า ขับรถเร็ว ดื่มสุรา โกงเงินวัด และขับรถชนคนบาดเจ็บ เรียกทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณ 2 บาท และเงินสดประมาณ 5,000 บาท รวมมูลค่า ประมาณ 5 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังไปกรรโชกทรัพย์ประชาชน อีก 2 ราย ในลักษณะเดียวกัน รายแรกได้เงินไป ประมาณ 1 หมื่น ส่วนรายที่ 2 เหยื่อไม่หลงเชื่อ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้ ผู้ต้องหาจะนำไปจำหน่ายก่อนจะนำเงินโอนเข้าบัญชีหญิงสาว 3 คน ซึ่งไม่ใช่ญาติ บางส่วนนำไปใช้เที่ยวเตร่ 

 

          ทั้งนี้ทางตำรวจเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อและยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติ พบผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์หลายคดี รวมถึงยังมีคดีพรากผู้เยาว์ ถูกจำคุกมานานหลายสิบปี เมื่อออกจากคุกก็มาประกอบอาชีพ ส่งออกเนื้อเป็ดไปขายประเทศเพื่อนบ้าน แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการปิดชายแดน จนกระทบต่อธุรกิจ จึงกลับมาก่อเหตุลักษณะดังกล่าว 
 

          สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ได้ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บุกเข้าไปภายในวัดกมลาวาส ในตำบลบ้านดู่ อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยอ้างตัวว่าเป็น “ผู้กองณัฐ” สังกัดตำรวจกองปราบปราม จากนั้นได้พูดจาข่มขู่กรรโชกเรียกเอาเงินจาก พระอธิการศักดิ์ วิสุทธสีโล อายุ 63 ปี และพยามยามยัดข้อกล่าวหาว่า เจ้าอาวาสขับรถเร็ว ดื่มสุรา โกงเงินวัด และขับรถชนคนบาดเจ็บ โดยเรียกเงินจำนวน 250,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการใช้ปืนข่มขู่ทั้งที่เจ้าอาวาสได้ปฏิเสธ และยืนยันว่าไม่เคยกระทำการดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง แต่ผู้ต้องหาก็ยังข่มขู่ ทำให้ญาติเจ้าอาวาส ต้องยอมถอดสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท และเงินสดอีก 5,000 บาทไปให้ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ