ข่าว

ป่วน6จุดปัตตานี.ระดมไล่ล่า10ชายชุดดำ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ที่มา : หน้า 1 หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ฉบับวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2562

 

          โจรใต้บึ้มเอทีเอ็มปล้นเงินข้างโรงเรียน 3 แห่ง ในปัตตานี อีกจุดเผายางกลางถนน วางตะปูเรือใบสกัด จนท.ติดตาม ด้าน ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ประณาม สั่งล่า 10 ชายชุดดำ

 

          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่ากลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เผายางรถยนต์ และใช้อาวุธปืนใน 3 อำเภอจนได้รับความเสียหาย จุดแรกเป็นตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลาม ตั้งอยู่ริมกำแพงโรงเรียนมูลนิธิอาซิซสถาน ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ นอกจากนี้ยังมีการก่อกวนโดยการนำยางรถยนต์เผากลางถนน 3 จุด คือ 1.บนถนนสาย 409 หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน ต.นาประดู่ 2.บนถนนสาย 42 บ.ชะเมา ต.นาเกตุ และ 3.บนถนนสาย 42 แยกตัดคลองชลประทาน บ้านโพธิ์ ต.นาเกตุ รวมเหตุใน อ.โคกโพธิ์ ทั้งหมด 4 จุด

 

 

          จุดที่สองเวลาไล่เลี่ยกันคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม วางอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยฟาฏอนี บ้านโสร่ง หมู่ที่ 3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง แรงระเบิดทำให้ตู้ได้รับความเสียหาย ตรวจสอบพบเป็นระเบิดแบบลากสายไฟ ส่วนจุดที่สามคนร้ายได้ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลามตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนศาสนศึกษา ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี แรงระเบิดทำให้ตู้และกำแพงโรงเรียนพังเสียหาย จากการตรวจสอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา

 

 

 ป่วน6จุดปัตตานี.ระดมไล่ล่า10ชายชุดดำ

 


          ต่อมา พล.ต.ปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผบ.ฉก.ทพ.43 พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเดินทางไปตรวจสอบเหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มบริเวณกำแพงโรงเรียนมูลนิธิอาซิซสถาน ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ ปรากฏว่าระหว่างทางพบตะปูเรือใบเศษซากยางรถยนต์และปลอกกระสุนปืนอาก้าและลูกซองกระจายอยู่กลางถนน ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงปิดเส้นทางดังกล่าวชั่วคราวเพื่อเคลียร์เส้นทาง เมื่อไปถึงพบว่าตู้เอทีเอ็มถูกแรงระเบิดจนพังเสียหาย นอกจากนี้ยังทำให้กำแพงโรงเรียนและผนังอาคารของบ้านเลขที่ 102/1 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำได้รับความเสียหายไปด้วย จากการตรวจสอบพบชิ้นส่วนวงจรระเบิด สายไฟและชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบว่าเงินในตู้ได้หายไปด้วย




          พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าจุดเกิดเหตุที่ ต.นาประดู่ คนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน กระจายกำลังในการก่อเหตุ โดยชุดแรกนำระเบิดน้ำหนักประมาณ 5 กก. แบบลากสายไฟมาวางไว้ที่ตู้เอทีเอ็มก่อนจะจุดชนวนระเบิดจนทำให้ตู้พังเสียหาย แล้วเข้าไปขโมยเงินในตู้ทั้งหมดไป ขณะที่คนร้ายอีก 2 ชุดได้เผายางรถยนต์และโปรยตะปูเรือใบปิดเส้นทางทั้ง 2 เส้นทางเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามก่อนจะหลบหนียังได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่และเปิดทางหลบหนี ส่วนอีกสองจุดคนร้ายไม่สามารถขโมยเงินจากตู้ไปได้ โดยเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่มีหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งแจ้งไปยังโรงพักทุกแห่งทั้ง 12 อำเภอ ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ ธนาคาร ตลาด ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงย่านชุมชน เนื่องจากยังพบข้อมูลการเคลื่อนไหวของคนร้ายพยายามที่จะก่อกวนในหลายพื้นที่

 

 

 ป่วน6จุดปัตตานี.ระดมไล่ล่า10ชายชุดดำ

 


          ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดที่กรุงเทพฯ จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 2 รายได้นั้น ต้องรอการตรวจสอบจากพยานหลักฐานให้แน่ชัดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มทั้ง 3 แห่งใกล้สถานศึกษาซึ่งเป็นตู้ที่ผู้ปกครองใช้ส่งเงินให้นักเรียนเบิกเงินเพื่อใช้จ่าย เมื่อเสียหายก็ส่งผลกระทบต่อนักเรียนแน่นอน ซึ่งคนร้ายพยายามแสดงศักยภาพในการตอบโต้เจ้าหน้าที่แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้กำชับให้รวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบกล้องทุกตัวเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้


          เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.มนตรี เพชรนวลน้อย รองสารวัตรสอบสวน สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ หจก.ฟูจิฮัจญ์ แอนด์ทัวร์ ตั้งอยู่หมู่ 2 ต.ยี่งอ เหตุเกิดในเวลา 20.30 น.ของคืนวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา


          จากการตรวจสอบพบว่า หจก.ฟูจิฮัจญ์ทัวร์ เป็นบ้านชั้นเดียว 2 ห้องที่เปิดกิจการส่งคนไปประกอบพิธีฮัจญ์ และเปิดจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้สวมใส่ในการประกอบพิธีฮัจญ์ โดยมีนายกูมูฮำหมัดมูซี กูจิ อายุ 26 ปี เป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าที่บริเวณกระจกประตูและหน้าต่างของร้านถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุนแตกได้รับความเสียหาย ส่วนบริเวณถนนหน้าร้านและบริเวณฝาผนังของตัวอาคารเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 11 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


          จากการสอบสวนทราบว่าขณะที่นายกูมูฮำหมัดมูซี เจ้าของร้านและสมาชิกในครอบครัวกำลังพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและเลขทะเบียนเป็นพาหนะ โดยคนร้ายได้ขี่รถมาจอดที่บริเวณริมถนนข้างบ้านพัก จากนั้นคนร้าย 1 คนอาศัยความมืดเดินไปที่บริเวณข้างฝาผนังของบ้านพักและคนร้ายอีก 1 คนเดินไปที่หน้าบ้านพัก จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. คนละกระบอกยิงถล่มใส่ร้านจำนวน 11 นัดซ้อน ก่อนจะวิ่งไปขี่และซ้อนท้ายรถ จักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเมื่อเสียงปืนสงบลงนายกูมูฮำหมัดมูซี จึงค่อยๆ เปิดประตูบ้านออกมาดู พบว่าบ้านพักถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มได้รับความเสียหายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว


          ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 31 กรกฎาคม คนร้ายได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนมายิงข่มขู่ขึ้นฟ้าที่บริเวณหน้าบ้านพักมาแล้วครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวนายกูมูฮำหมัดมูซี และสมาชิกในครอบครัวมาให้ปากคำเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงในการติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ