รวบอีก 14 เครือข่าย "โรแมนซ์สแกม"

 

              ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันที่ 6 ส.ค. 2561 เวลา 14.50 น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) แถลงจับกุมผู้ต้องหาองค์กรเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ “แสร้งรักออนไลน์” หรือ Romance Scam จำนวน 3 เครือข่าย ผู้ต้องหา 14 ราย แบ่งเป็น สัญชาติไทย 6 ราย ,ไนจีเรีย 8 ราย โดยมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อในพื้นที่ราชบุรี, สมุทรสาคร, พิษณุโลก, ชลบุรี และ สน.ดุสิต มีมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เครือข่ายร่วมกันหลอกลวงประชาชนโดยใช้เฟซบุ๊ก, ไลน์ สร้างโปร์ไฟล์หรู ทักแชตพูดคุยลักษณะชู้สาวก่อนจะหลอกให้โอนเงิน มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นขบวนการ

 

 

 

              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลาการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาประมาณ 1  สัปดาห์ โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเสียเงินตั้งแต่ 3 แสน - 5 แสนบาท โดยยอมรับว่าการจับกุมแก๊งโรแมนซ์ฯยากกว่าการจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์จึงได้ทำการปรับแผนใหม่ในการกวาดล้างจับกุม โดยจะสืบสวนจับกุมคนไทยที่ให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ ตั้งแต่การรับเปิดบัญชี, รับโอน, กดเงิน แม้จะอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นก็ตาม ซึ่งจะถูกดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน และมีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โทษจำคุก 10 ปี ทั้งนี้ปัจจุปันมีชาวไนจีเรียเข้ามาประเทศไทยกว่า 1,400 ราย ซึ่งได้ประสานขอข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าในจำนวนนี้ เข้ามาในประเทศไทยด้วยจุดประสงค์ใด มีการใช้วีซ่านักท่องเทียวมาบังหน้า เพื่อก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินคดีและผลักดันกลับประเทศ แต่หากเข้ามาท่องเที่ยวจริงก็พร้อมดูแลเพราะสร้างรายได้ให้ประเทศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

              รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า นอกจากแก๊งโรแมนซ์สแกมแล้ว ตำรวจเร่งสืบสวนจับกุมแก๊งหนี้นอกระบบ ที่หลอกลวงชาวบ้านโดยปล่อยเงินกู้ ให้นำโฉนดมาจำนอง มาขายฝาก หรือทำนิติกรรมอำพรางฉ้อฉลต่างๆ ซึ่งผลการกวาดล้างจับกุมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน มีประชาชนเดือดร้อนและแจ้งข้อมูลเข้ามากว่าแสนรายแล้ว โดยภายในสิ้นเดือนนี้คาดว่าจะสามารถคืนที่ดินให้ชาวบ้านได้ประมาณ 2 พันไร่