ข่าว

รวบแก๊งลักรถ ยึดของกลางรถยนต์-อุปกรณ์งัดแงะ อื้อ!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตร.รวบ 7 ผตห.แก๊งลักรถพื้นที่ภาคกลาง พร้อมของกลางรถยนต์-อุปกรณ์งัดแงะ อื้อ เฉลิมเกียรติ เเนะติดกันขโมย-จีพีเอสเพื่อความปลอดภัย

 

 

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2560 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1)  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ รวม 3 คดี จับกุมผู้ต้องหารวม 7 ราย พร้อมของกลาง เป็นรถกระบะและรถยนต์เก๋งรวม 7  คัน และอุปกรณ์ในการลักรถ ประกอบด้วย ไขควง คีม กุญแจประดิษฐ์ อีกจำนวนหนึ่ง
               คดีแรก เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองอ่างทอง และ กก.1 บก.สส.ภ.1 ร่วมกันจับกุม นายศักดิ์ดา หรือดา หรือวิน เส็งรอดรัด อายุ 42 ปี ชาวจ.จันทบุรี และนายคมสันต์ หรือใหม่ ศรีม่วง อายุ 30 ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลาง รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ ทะเบียน บย 5381 สุพรรณบุรี 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีดำ ทะเบียน ฌข 3960 กรุงเทพมหานคร (ใช้ในการก่อเหตุ) 1 คัน รถกระบะ อีซูซุ ทะเบียน ผค 5468 นครปฐม 1 คัน และอุปกรณ์ในการลักรถทั้งไขควง คีม กุญแจประดิษฐ์ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”

 

รวบแก๊งลักรถ ยึดของกลางรถยนต์-อุปกรณ์งัดแงะ อื้อ!!


               สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีคนร้ายก่อเหตุลักรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 5381 สุพรรณบุรี ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม มีคนร้ายพยายามลักรถกระบะที่จอดอยู่ในห้างดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จก่อนหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อ่างทอง ได้ตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย พบว่าตรงกับลายนิ้วมือของนายศักดิ์ดา จึงทำการสืบสวนหาตัวจนทราบว่านายศักดิ์ดา อยู่ในพื้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบ พบนายศักดิ์ดา และนายคมสันต์ พร้อมรถกระบะอีซูซุที่ขโมยมา และอุปกรณ์เป็นไขควง คีม ที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุลักรถยนต์โดยเลือกเฉพาะรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ที่จอดอยู่ในห้างสรรพสินค้า และที่ชุมชน มากว่า 18 ครั้ง ในหลายพื้นที่ทั้ง กทม. จ.นครราชสีมา จ.ระยอง จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.จันทบุรี จ.สุพรรณบุรี  จ.นนทบุรี จ.ชัยนาท โดยแต่ละครั้งจะใช้อุปกรณ์งัดแงะประตูรถ ก่อนจะเจาะช่องกุญแจแล้วขับรถหลบหนี ใช้เวลาก่อเหตุไม่เกิน 2 นาที เมื่อได้รถมาแล้วก็จะส่งขายต่อให้นายทวี (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)
               คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด และกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกันจับกุม นายชลัมกรณ์ วรรณชาติ อายุ 36 ปี นายสิทธิชัย หรือเข้ม เย็นสุข อายุ 37 ปี นายธีรเจต หรือเก่ง ยอดประโคน อายุ 27 ปี และนายเข็มชาติ หรือเอ๋ ทับทิม อายุ 50 ปี โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 6 กฐ 2250 กรุงเทพฯ 1 คัน รถยนต์เก๋ง โตโยต้า รีโว้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน บ-2583 กรุงเทพฯ 1 คัน รถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน 3 กข 6272 กรุงเทพฯ 1 คัน และรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 1 ฒถ-9601 กรุงเทพฯ 1 คัน
               สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ว่ารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน 6 กฐ 2250 กรุงเทพฯ หายไปจากบริเวณหน้าตึก ซี 3 คอนโดเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ร่วมกับ สภ.ปากเกร็ด และตำรวจพื้นที่ใกล้เคียง จึงหาเบาะแสจนทราบว่า คนร้ายได้นำรถไปขายผ่านเว็บไซด์ ชุดสืบสวนจึงทำการล่อซื้อโดยนัดรับรถย่านถนนพุทธมณฑลสาย 1 ทำให้สามารถจับกุมนายชลัมกรณ์ได้พร้อมรถที่ถูกลักมา จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนโดยนายชลัมกรณ์ รับว่าซื้อรถมาจากนายเข็มชาติ ผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ชุดจับกุมจึงขยายผลต่อ ขณะเดียวกัน ในวันที่ 8 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ สภ.บางบัวทอง ได้จับกุมนายสิทธิชัย ได้บริเวณ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมรถยนต์ที่ถูกแจ้งหายไว้ จำนวน 2 คัน จากการสอบสวนนายสิทธิชัย ยอมรับว่าร่วมกับนายชาญณรงค์ สกุลพลไพศาล อายุ 27 ปี (อยู่ระหว่างหลบหนี) ก่อเหตุลักรถในพื้นที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยจะนำรถยนต์ที่ได้มาไปขายต่อให้กับนายเข็มชาติ นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ สภ.บางใหญ่ ได้จับกุมนายธีรเจต พร้อมยึดรถกระบะที่ถูกแจ้งหายไว้ ซึ่งจากการสืบสวนเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักรถยนต์หลายท้องที่ แล้วนำรถไปขายต่อให้นายเข็มชาติ จึงขอศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับทันที ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” และเร่งติดตามตัว จนจับกุมนายเข็มชาติได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 19 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่ารับซื้อรถยนต์มาจากนายสิทธิชัย จำนวนหลายคัน เมื่อได้รถมาก็จะส่งขายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง จ.กาญจนบุรี

 

รวบแก๊งลักรถ ยึดของกลางรถยนต์-อุปกรณ์งัดแงะ อื้อ!!


               คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมนายประภพ หรือพี แดงแตง อายุ 42 ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี โดยกล่าวหาว่า “รับของโจร” ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.615/2560 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2560 สืบเนื่องจากมีคนร้ายก่อเหตุลักรถยนต์ในเขตพื้นที่ ภ.1 และ ภ.7 หลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจับกุม ก่อนขยายผลจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายมักนำรถยนต์ที่ลักได้มาขายต่อให้นายประภพ ในราคาคันละ 50,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนเข้าจับกุมนายประภพ ได้ที่อู่ซ่อมรถยนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 50 ม.7 ต.คลองสวนพลู จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบภายในอู่ดังกล่าวพบรถยนต์ต้องสงสัยไม่มีหลักฐานมาแสดง จำนวน 7 คัน  จากการสอบสวนนายประภพ ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
               พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า คดีลักรถทั้ง 3 คดี ส่วนใหญ่จะใช้ไขควง ประแจ ในการไขเข้าไปทางประตู แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอาจจะเป็นการชี้ทางให้เกิดการกระทำผิด เมื่อได้รถก็จะนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ ในส่วนของคดีที่ 2 มีผู้เสียหายเป็นผู้สื่อข่าวเพจ อีจัน ทราบชื่อ นายภูมิพัฒน์ มะลิ อายุ  28 ปี ตนขอแนะนำพี่น้องประชาชนว่า ควรดูแลรถยนต์ให้ดี หากสามารถติดสัญญาณกันขโมย เครื่องติดตามหรือ GPS ได้ แนะนำให้ติดไว้ เพราะช่วยป้องกันการสูญหายได้ อีกทั้งเมื่อมีการสูญหาย ก็จะช่วยให้เจ้าของหรือเจ้าหน้าที่ติดตามรถกลับมาได้ และที่สำคัญเมื่อไปไหนมาไหน ต้องระมัดระวังการฝากกุญแจไว้กับผู้อื่น เนื่องจากอาจนำไปปั๊มกุญแจได้ โดยเฉพาะตามปั๊มน้ำมันและสถานบริการ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ