หนีไม่รอด รวบแล้ว 3 ผู้ต้องหาขโมยตู้เซฟ 20 ล้าน

 

               เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 2562 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. ,พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น. 8 ,พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร ผกก.สน.บางมด ,พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย ผกก.สส.บก.น. 8 พร้อมด้วยตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางมด และตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.8 แถลงการจับกุม นายไพโรจน์ มีนุช อายุ 52 ปี ชาวจ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ที่ 357/2562 ลงวันที่ 28 มิ.ย.62 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหะสถาน และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , นายทวี พหลยุทธ์ อายุ 44 ปี ชาวจ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 363/2562 ลงวันที่ 2 ก.ค.62 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ลักทรัพย์ในเคหสถาน , ร่วมกันรับของโจร และนายดนุสรณ์ พหลยุทธ์ อายุ 23 ปี ชาวจ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 364/2562 ลงวันที่ 2ก.ค.62 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ลักทรัพย์ในเคหะสถาน , ร่วมกันรับของโจร พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ยกสูง ทะเบียน ถท 9464 กทม. เครื่องประดับสร้อยคอเพชร แหวนเพชร มูลค่า 11,454,000 บาท ทองคำแท่ง 3 แท่ง มูลค่า 3,936,000 บาท เงินสด 2,206,420 บาท รวมมูลค่า 17,596,420 บาท

 

 

 

 

 

               การจับกุมสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. เวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปลักตู้นิรภัย ขนาด 62 X 53 X 100 เซนติเมตร จำนวน 1 ตู้ ภายในศูนย์การแพทย์ชีวโมเลกุล แห่งเอเชีย พระราม 2 พุทธบูชา ซอย 5 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. โดยภายในตู้เซฟนั้นมีทรัพย์สินจำนวนมาก มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และคนร้ายยังเอาฮาร์ทดิสก์ภาพกล้องวงจรปิดไปด้วย หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนจนพบกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพรถคนร้ายเอาไว้ได้ กระทั่งตรวจสอบพบว่าเป็นของนายไพโรจน์ อดีตพนักงานขับรถของศูนย์แพทย์ฯ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังลงไปติดตามตัวที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก แต่ไม่พบตัว อย่างไรก็ดีสามารถจับผู้ต้องหาอีก 2 คนได้ ภายในบ้านพัก ต.มะขามสูง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก โดยจากการสอบสวนทราบว่า นายไพโรจน์ได้ไปร่วมงานศพที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา จึงไล่ติดตามจับกุมจนได้ ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุตามไปยึดได้ที่ จ.เลย เนื่องจากหลังก่อเหตุนายไพโรจน์ ได้นำรถไปเปลี่ยนกับเพื่อน

 

 

 

 

               จากการสอบสวนนายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวร่วมกับน้องที่ทำงานอยู่ในคลินิกดังกล่าวอีก 1 คน อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ โดยใช้ราวบันไดพาดกับรถกระบะเพื่อขนตู้เซฟออกจากบ้านดังกล่าว จากนั้นได้กลับมาที่บ้านของตนเองที่จ.พิษณุโลก ใช้เครื่องตัดเหล็กหรือลูกหมูและแผ่นตัดปูนผ่าตู้เซฟแล้วนำทรัพย์สินมาแบ่งกัน ต่อมาได้นำตู้เซฟและทรัพย์สินที่เหลือมาฝากไว้กับนายทวี และนายดนุสรณ์ เป็นคนรู้จักที่อยู่แถวบ้าน โดยให้ค่าจ้างคนละ 5,000 บาท โดยนำตู้เซฟและทรัพย์สินไปซ่อนฝังดินในป่าใกล้บ้าน 4 จุด แยกเป็นตู้เซฟ 1 จุด เครื่องเพชร 1 จุด เงิน 1 จุด และทอง 1 จุด ระหว่างที่นำทรัพย์สินให้ทั้ง 2 คนนำไปซ่อน ตนก็แยกย้ายหลบหนีไป ก่อนจะมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

 

 

 

 

 

               นายไพโรจน์ สารภาพต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ 2-3 ปีก่อนเคยทำงานขับรถและพักอยู่ในคลินิกดังกล่าว แต่ถูกให้ออกเนื่องจากก่อเหตุยิงปืนภายในคลินิกดังกล่าว หลังมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาวที่เป็นพยาบาลอยู่ในคลินิก และรู้ว่ามีทรัพย์สินอยู่ จึงตั้งใจก่อเหตุเพื่อที่จะนำเอาเงินที่ได้มาใช้หนี้พนันบอล ส่วนทรัพย์สินที่เหลือได้นำมาใช้ไปแล้วหลังก่อเหตุเป็นทองคำ 1 แท่ง หนัก 66 บาท และเงินสดอีกประมาณ 3 ล้านบาท

 

 

 

 

               เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายไพโรจน์ มีนุช ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหะสถาน และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนนายทวี พหลยุทธ์ และนายดนุสรณ์ พหลยุทธ์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ,ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ,ร่วมกันรับของโจร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีต่อไป สำหรับนายไพโรจน์ ไม่พบว่าเคยก่อเหตุลักษณ์นี้มาก่อนแต่อย่างใด