พึ่งพา"บิ๊กดาต้า" !

 

                  ก่อนอื่นก็ต้องขอสวัสดีปีใหม่ท่านผู้อ่านทุกท่าน และขออวยพรให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพกายใจแข็งแรงกันตลอดปี 2562 นะครับ อวยพรเสร็จก็วกกับมาเข้าเรื่องราวทางการเกษตรของเรากันต่อ ในช่วงปลายปี 2561 ต่อกับต้นปี 2562 นี้ เราจะเห็นกันชัดเจนในเรื่องของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นค่อนข้างมากในหลายที่ทั้งในประเทศต่างประเทศ ซึ่งในวันที่ผมนั่งเขียนบทความนี้อยู่ก็นั่งติดตามข่าวของพายุโซนร้อนปาบึกที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทางภาคใต้ของเรา 

 

 

              จากข้อมูลที่ได้ติดตามมาก็นับว่าจะรุนแรงพอสมควรจากการพยากรณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายๆ แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากเหตุการณ์ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ตอนพายุเกย์เข้าที่ภาคใต้เมื่อหลายปีก่อน รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แหลมตะลุมพุก ซึ่งตอนนั้นก็ยังเด็กๆ อยู่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร แต่ก็รู้อยู่ว่ารุนแรงและเสียหายมากทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

              จากเหตุการณ์ที่ได้รับรู้จากเรื่องราวในอดีตกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้พรุ่งนี้ มันมีความต่างกันค่อนข้างมาก สืบเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยเฉพาะอย่างพวกการพยากรณ์และทำนายเรื่องของธรรมชาติและภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนับต่อจากนี้เราได้รับทราบล่วงหน้าว่าพายุจะเข้าพื้นที่บริเวณไหน ความเร็วและความแรงของลม ปริมาณของฝนที่จะตกมาน้อยขนาดไหน น้ำจะท่วมหรือไม่

            โดยข้อมูลเหล่านี้ในอดีตเราไม่สามารถทราบได้เลย ถึงแม้จะทราบบ้างแต่เรื่องของความแม่นยำก็ยังไม่ถูกต้องและชัดเจนเหมือนปัจจุบัน เพราะฉะนั้นจึงเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินขึ้นมากมาย แต่สำหรับในครั้งนี้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นวันนี้หรือพรุ่งนี้ เรียกว่าสารสนเทศจากการพยากรณ์ที่ได้รับแสดงผลได้ทั้งเป็นข้อมูล รูปภาพ และแบบจำลองต่างๆ ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า ทำให้สามารถเตรียมการรับมือและเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่อันตรายได้อย่างรวดเร็ว

             ซึ่งตัวผมเองก็คาดการณ์และคิดในใจว่าการสูญเสียในเรื่องของพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยก็คงจะมีบ้าง แต่เรื่องของชีวิตน่าจะไม่มีหรือน้อยมากหากสุดวิสัยจริงๆ หันกลับไปมองเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวและคลื่นซึนามิที่อินโดนีเซียก่อนหน้านี้ เพียงเพราะอุปกรณ์เตือนภัยชำรุดจึงทำให้ไม่มีข้อมูลล่วงหน้าการเตือนภัยและทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมหาศาล

           จากจุดนี้ทำให้เห็นได้ว่าโลกเราในทุกวันนี้ต้องพึ่งพาข้อมูลสารสนเทศเข้ามาช่วยในการทำงานในทุกด้าน ซึ่งในด้านการเกษตรเองทุกวันนี้ประเทศไทยเราเองในยุค 4.0 ก็มีระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ของหลายหน่วยงาน ทั้งในรูปแบบของอะกริแม็พ และบิ๊กดาต้า ทางด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมซึ่งมีความทันสมัยชนิดที่เรียกว่าอัพเดทข้อมูลกันได้แบบเรียลไทม์ เพราะมีตัวเซ็นเซอร์คอยวัดข้อมูลกันในพื้นที่และส่งข้อมูลกันแบบต่อเนื่องตลอดเวลา 

              นอกจากนี้ก็ยังมีโปรแกรมคำนวณต่างๆ รวมถึงแอพพลิเคชั่นทางการเกษตรที่ถูกสร้างกันขึ้นมาเพื่อใช้งานกันทั้งในแง่ของการพยากรณ์ การช่วยสนับสนุนการผลิตทั้งด้านพืชและสัตว์ การหาตลาดและกำหนดราคา ไปจนถึงเรื่องการสั่งสินค้ารวมไปถึงการขนส่งและการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

            และท้ายที่สุดไปจบที่การดูแลและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เขียนไปเขียนมาก็เลยยาวไปถึงเรื่องความทันสมัยของเทคโนโลยีทางการเกษตรเป็นหลัก ในสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ถัดๆ ไปของปีนี้น่าจะเป็นปีของเทคโนโลยีและความล้ำสมัยทางการเกษตรที่เป็นประเด็นหลักๆ ที่เราจะมาคุยกันครับ 

             ท้ายที่สุดของวันนี้ผมขอส่งใจไปช่วยพี่น้องทางใต้ที่กำลังจะเจอพายุในคราวนี้เทคโนโลยีช่วยเราแล้วที่เหลือคือพวกเราคนไทยต้องช่วยกันเองด้วยครับ