ข่าว

ยกฟ้อง“เคทอง”คนสนิทเสธ.แดงขู่ก่อการร้าย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ศาลพิพากษายกฟ้อง “เคทอง” คนสนิทเสธ.แดง คดีพ.ร.บ.คอมฯ ลงคลิปขู่ก่อการร้าย พยานโจทก์ไม่ชัด

(18มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1342/2553 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือ เคทอง ลูกน้องคนสนิทเสธ.แดง อายุ 50 ปี  เป็นจำเลยในความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 53 บรรยายความผิดสรุปว่า

เมื่อระหว่างวันที่ 26 - 27  ก.พ. 53 เวลากลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยได้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา  ด้วยภาพและเสียง โดยนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลได้และเป็นการทำให้แพร่หลายผ่านทางโปรแกรมชื่อแคมฟร็อก (CAMFROG) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ การเผยแพร่เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน  ด้วยการพูดข้อความทำนองว่า จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย เหตุเกิดที่แขวง/เขตบางรัก  แขวง/เขตลาดกระบัง และท้องที่อื่นทั่วราชอาณาจักรไทย

โดยจำเลยให้การปฏิเสธนำสืบต่อสู้ทำนองว่า ได้จัดรายการวิทยุจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้นำข้อมูลเสียงไปลงเผยแพร่ในโปรแกรมแคมฟร็อก ทางอินเตอร์เน็ต หรือ นำข้อความเสียงไปเผยแพร่ให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ แต่เป็นผู้อื่นที่เป็นบุคคลต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในต่างประเทศ ได้นำภาพและเสียงไปตัดต่อใหม่เพื่อเผยแพร่ให้เกิดความเสียหาย  ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า จำเลยเบิกความนำสืบถึงวันและเวลาในการทำงานของจำเลยโดยละเอียดหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ ขณะที่โจทก์ไม่ได้นำพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักเพียงพอมานำสืบว่าจำเลยกระทำความผิดหรือมีส่วนร่วมอย่างไร จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง

ภายหลังจากมีคำพิพากษาแล้ว นายพรวัฒน์ได้เดินออกมานอกห้องพิจารณาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมกับ อุ้มลูกชาย ที่ภรรยาพามาให้กำลังใจ

โดยนายพรวัฒน์ กล่าวว่า ที่ศาลยกฟ้องตนนั้นเนื่องจากตนได้สู้คดีเกี่ยวกับเรื่องวันและเวลาตามที่ อัยการฟ้องว่ามันมีความขัดแย้งกัน โดยคลิปที่อ้างว่าตนข่มขู่จะก่อการร้ายนั้นถูกทำขึ้นในวันที่ 26 ก.พ. 53 แต่ตนจัดรายการวิทยุในวันที่ 27 ก.พ. 53 ซึ่งเป็นไปไม่ ได้ที่คลิปภาพและเสียงจะปรากฏมาก่อนการจัดทำรายการวิทยุ อย่างไรก็ตามมีข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้ที่ทำภาพดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ต่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีหลังจากที่ได้นำเสียงของตนไป ตัดต่อ เพราะเป็นอาชญากรที่แท้จริงทำให้เกิดความวุ่นวายดังกล่าวด้วย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ