ข่าว

จิตรกรแปรพักตร์ผู้จับ"คิม จอง อิล"ใส่ชุดมาริลีน มอนโรว์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ซอง บยอค เคยได้รับอนุญาตให้วาดได้ก็แต่ภาพหน้ายิ้มแย้มของ คิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และใบหน้าเปี่ยมสุขของผู้คนภายใต้ "ผู้นำที่เคารพรัก" เท่านั้น ขณะนี้ ซองมีโอกาสได้สะท้อนภาพตรงข้าม แสดงให้โลกรู้ว่าชาวเกาหลีเหนือใฝ่หาเสรีภาพและความเปลี่ยนแปลงมากเ

ผลงานศิลปะแนว ป๊อป อาร์ต ราว 30 ชิ้นของซอง บยอค จิตรกรชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ได้รับการจัดแสดงเป็นครั้งแรกในกรุงโซล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในชื่อ "เสรีภาพชั่วนิรันดร์" ได้รับความสนใจจากผู้รักงานศิลป์และสื่อต่างชาติจำนวนมาก

 สะดุดตาที่สุดเห็นจะได้แก่ภาพ คิม จอง อิล ซึ่งหน้ายังคงยิ้มละไม เหมือนกับที่จิตรกรคนนี้เคยวาดมานับครั้งไม่ถ้วน พร้อมแว่นกันแดดสีชาคุ้นตา ทว่าอยู่บนร่างมาริลีน มอนโรว์ เซ็กซี่สตาร์ผู้เป็นตำนานในชุดกระโปรงขาวพลิ้วเบาถูกลมพัด ที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ

 ซอง กล่าวระหว่างแถลงข่าวเปิดนิทรรศการเมื่อวันพุธว่า หากศิลปินคนใดในเกาหลีเหนือลองได้วาดภาพเสียดสีแบบนี้แล้วละก็ อาจทำให้คนทั้งตระกูลถูกลากไปยังที่ใดที่หนึ่งที่ไม่มีใครรู้ และถูกบังคับให้ทำงานจนตาย

 เสรีภาพในการแสดงความเห็น ไม่มีเลยแม้แต่น้อยในเกาหลีเหนือ แต่นี่เกาหลีใต้ ใครจะวาดอะไรก็ได้ที่อยากจะวาด ทุกผลงานจึงแสดงออกถึงความเป็นตัวตนอันแตกต่างของศิลปินได้

 แนวคิดภาพเสียดสี คิม จอง อิล  มาจากตอนที่ซองได้เห็นฉากอมตะของมาริลีน ที่พยายามปกปิดความโป๊เมื่อถูกลมตีจนกระโปรงเปิดขึ้นในภาพยนตร์ปี 1955 เรื่อง "เดอะ เซเวน เยียร์ อิช"  ทำให้นึกถึงความพยายามซุกซ่อนความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นในเกาหลีเหนือของนายคิม

 ภาพนี้ ซองต้องการสื่อว่า ถึงเวลาปฏิรูปและเปิดเกาหลีเหนือได้แล้ว ให้ประชาชนได้เห็นเสียทีว่าโลกที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

 ซอง เคยเป็นจิตรกรสร้างผลงานโฆษณาชวนเชื่อรัฐบาลเปียงยางหลายร้อยชิ้น ยาวนาน 7 ปีจนถึงปี 2544 ก่อนหลบหนีมาเกาหลีใต้

 "ไม่ว่าคนจะหิวโหย ทุกข์โศกอย่างไร แต่ภาพเขียนที่ออกมา จะต้องเป็นภาพชาวนามีความสุข จับมือกันและกัน ตามองขึ้นฟ้าเพื่อสรรเสริญผู้นำ และปฏิญาณจงรักภักดีเท่านั้น

 และการเป็นจิตรกรโฆษณาชวนเชื่อในประเทศคอมมิวนิสต์นั้น ก็ไม่ง่ายเลย เพื่อนคนหนึ่งของผม ถูกลากไปขังในค่ายกักกันชั่วข้ามคืน ฐานที่สะกดคำประกาศของรัฐผิดไปตัวเดียวเท่านั้น"

 การขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงเมื่อปี 2544 ทำให้ซองกับพ่อ ตัดสินใจว่ายน้ำทูเหมิน ข้ามชายแดนเข้าไปในจีนเพื่อไปหาอาหาร โชคร้าย เมื่อน้ำตอนนั้นขึ้นสูงมากเพราะฝนตกหนัก กระแสน้ำซัดพ่อออกไป  ซองรีบไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยยามฝั่ง แต่อีกฝ่ายตะโกนกลับมาว่า ทำไมไม่ตายไปพร้อมกับพ่อแกซะเลย ก่อนเข้าจับกุมและทุบตีเขาจนหมดสติ ปล่อยพ่อของเขาจมน้ำตายไปโดยไม่ไยดี

 วินาทีนั้น ซองตระหนักว่า นี่ไม่ใช่ดินแดนสำหรับมนุษย์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้

 ซองถูกจำคุก 6 เดือน เสียนิ้วหนึ่งนิ้วเพราะติดเชื้อระหว่างถูกบังคับใช้แรงงานในค่าย และเริ่มคิดเรื่องการแปรพักตร์ ในที่สุด สามารถหลบหนีเข้าไปในโซลได้สำเร็จในปี 2545 และได้เข้าเรียนในวิทยาลัยศิลปะ

 ซอง เล่าว่า หลังไปอยู่เกาหลีใต้ได้ไม่นาน ครั้งแรกที่ได้เห็นนักศึกษาหญิงเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง นุ่งกางเกงยีนขาดๆ ไปเรียน เขาตกใจมาก เพราะตอนอยู่เกาหลีเหนือ ถูกสั่งสอนว่า ยีนขาดๆ เป็นสัญลักษณ์ความยากจนข้นแค้นในเกาหลีใต้ พอวันถัดมา ก็เลยเอาเข็มกับด้ายไปให้เธอเพื่อซ่อมกางเกง โดยไม่ได้รู้เลยว่านั่นเป็นความจงใจ เป็นแฟชั่นเก๋ไก๋ที่ใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง

 ชีวิตของผู้อพยพมาจากฝ่ายเหนือในเกาหลีใต้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การปรับตัวรับชีวิตใหม่ในประเทศติดอันดับรวยที่สุดในเอเชียแม้ได้ชื่อว่าเป็นเกาหลีเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ยากมาก จำนวนไม่น้อยไม่สามารถหางานดีๆ ทำได้ ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่ได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรมและถูกดูแคลน
 
 ซองก็เช่นกัน  แม้กวาดรางวัลด้านศิลปะมากมายในเกาหลีใต้ แต่ยังต้องปากกัดตีนถีบ ยังต้องกินบะหมี่สำเร็จรูปบ่อยๆ เพื่อประหยัดเงิน ค้างค่าเช่าห้องมา 5 เดือนแล้ว ต้องหนักเอาเบาสู้ทุกงาน ตั้งแต่ล้างจาน ก่อสร้าง ไปจนถึงงานบริการย้ายบ้าน เพื่อหาเงินซื้ออุปกรณ์วาดภาพและงานประติมากรรมที่เขารัก

 กระนั้น เขามีความสุขที่อยากจะวาดอะไรก็ได้วาด และมีเสรีภาพในชีวิตประจำวัน

 เงินไม่ใช่เป้าหมาย การได้สื่อความรู้สึกนึกคิดผ่านงานภาพ มีความหมายสำหรับเขายิ่งกว่าการหาเงิน  เสรีภาพในการแสวงหาความรู้ทางศิลปะเป็นแกนหลักในชีวิตของศิลปินในวัย 42 ผู้นี้ ที่ยังศึกษาเรื่องการวาดภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน

 ในแผ่นสูจิบัตรนิทรรศการงานภาพของซองนั้น นายฮัน จิน มาน คณบดีคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยฮ่องกง ได้เขียนไว้ว่า ซองได้ใช้งานศิลป์ปลดปล่อยตัวเองจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนทุกค่ำคืน ระบายความคับแค้นจากชีวิตในเกาหลีเหนือผ่านอารมณ์ขัน และไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้หากไม่ปลดปล่อยมันออกมาผ่านงานศิลปะของตนอง

 หลายภาพเผยอารมณ์โกรธและกระหายเสรีภาพที่เจ้าของผลงานเคยรู้สึกเป็นอย่างดีว่าทรมานขนาดไหน ซองใช้ผีเสื้อและนกเป็นสัญลักษณ์ง่ายๆ ของเสรีภาพ รวมทั้งภาพของคิม จอง อิล ที่ครั้งหนึ่งไม่กล้าแตะต้อง

 ผลงานชิ้นหนึ่งเป็นจดหมายผนึกติดกันด้วยกาว เป็นจดหมายที่ซองเขียนโต้ตอบกับน้องสาวในเกาหลีเหนือผ่านคนกลางชาวจีน ก่อนจะได้ตามมาอยู่ด้วยกันในโซลเมื่อปี 2550

 ซองต้องการให้คนมองเกาหลีเหนือผ่านงานศิลปะของตน โดยไม่มองแค่ว่าเกาหลีเหนือเป็นดินแดนประหลาดพิลึก ปกครองโดยผู้นำเผด็จการ ไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่เป็นประเทศที่มีผู้คนกำลังรอคอยสันติภาพ

 คุณอาจรู้สึกว่า โชคดีจังที่ไม่ได้เกิดในเกาหลีเหนือ แต่ผมอยากให้ทุกคนก้าวข้ามความคิดเช่นนั้นและคิดว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง

 คนเกาหลีเหนือนั้นไม่รู้กระทั่งว่ามีมนุษย์โลกคนหนึ่งเคยไปเหยียบดวงจันทร์มาแล้ว ผมอยากให้ชาวเกาหลีใต้และคนอื่นๆ ได้รับรู้ว่า เสรีภาพที่พวกเขามีอยู่นั้น สำคัญเพียงใด และถ้าเป็นไปได้ ขอให้แบ่งปันความสุขจากเสรีภาพอันเหลือเฟือ เผื่อแผ่คนในบ้านเกิด


  บายไลน์ อุไรวรรณ นอร์มา
ที่มา : เอพี ,เอเอฟพี

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ