"ทนายตั้ม" เปิดชื่อ “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” แอบกิ๊กสาว ยัน ไม่ใช่การเมือง

จากกรณีที่ "ทนายตั้ม" หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิ ทีมงานทนายประชาชนฯ มีการโพสเฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า มีชายหนุ่มนำภาพถ่ายมาร้องเรียน ขอความช่วยเหลือกับตนเอง ให้ฟ้องดำเนินการทางกฎหมาย “อดีตรองนายกรัฐมนตรี” แอบกิ๊กสาว ในโพส ระบุเบื้องต้นว่า

ผัวช็อค เจอภาพเมียเป็นชู้ กับ อดีตรองนายกรัฐมนตรี!!  คุณ ก. มาปรึกษาผมว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ภรรยามีท่าทีเปลี่ยนไป จึงแอบเอาโทรศัพท์มาเช็ค ปรากฎว่า เจอภาพโป๊เปลือยของภรรยา  แล้วที่ช็อคยิ่งกว่า คือคนที่ถ่ายรูปคู่เปลือยด้วยกันนั้น คืออดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่ใครๆก็รู้จัก จึงมาปรึกษา จะทำอย่างไรต่อไป?  #ฟ้องชู้”

ล่าสุดวันนี้ (9 มกราคม 2565) "ทนายตั้ม" ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมเผยภาพข้อมูลต่างๆ โดยระบุว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีการกล่าวถึง มีชื่ออักษรย่อ "ย" ซึ่งปัจจุบัน อดีตรองนายกรัฐมนตรี คนดังกล่าว ไม่ได้อยู่สังกัดพรรคเพื่อไทยแล้ว แค่เคยอยู่ แต่ได้ลาออก จากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่ปี 2561 ยืนยันว่า การที่ตนเองออกมาครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของบุคคล ซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม และเป็นถึง "อดีตรองนายกรัฐมนตรี"

"ทนายตั้ม" เปิดเผยอีกว่า เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดเป็นปี อย่างที่หัวหน้าพรรคการเมืองดัง ออกมาให้สัมภาษณ์ ซึ่งตนเองได้ข้อมูลมาจากผู้เสียหาย ที่นำเรื่องมาปรึกษา โดยผู้เสียหายที่เป็นสามี บอกว่า ภรรยาของตนเอง ทำงานอยู่ที่โรงแรม ระดับห้าดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งพบว่า มีท่าทีเริ่มเปลี่ยนไป จึงได้สังเกตพฤติกรรม ก่อนเปิดโทรศัพท์ เจอข้อความในแชท สนทนากับผู้ชาย และเจอภาพคู่เปลือย กับผู้ชายจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้น จำได้ว่า เป็น "อดีตรองนายกรัฐมนตรี"

เบื้องต้น ได้มีการฟ้องหย่าเรียบร้อย รวมถึงเรียกค่าเสียหาย จากภรรยาและชู้ ตามคดีแพ่ง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 แต่ทางภรรยาไม่ยอมหย่า โดยให้เหตุผลว่า ยังรักสามีอยู่ ซึ่งหลังเกิดเรื่อง ภรรยาได้ตีตัวออกห่าง จาก "อดีตรองนายกรัฐมนตรี" ทำให้อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไปแจ้งความดำเนินคดี กับภรรยากับผู้เสียหาย ในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากช่วงที่คบหากัน มีการให้เงินและ ทรัพย์สินต่างๆ

ซึ่งตำรวจ เคยเรียกให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่โรงพักครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า  อดีตรองนายกรัฐมนตรี พาชายฉกรรจ์ 6-7 คน มาข่มขู่ จากนั้นก็ตามไปข่มขู่ ถึงที่พักด้วย ซึ่งในส่วนนี้ "ทนายตั้ม" บอกว่า ตัวเองได้แจ้งเรื่อง ไปยัง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า โดยภายในอาทิตย์นี้ ตั้งใจจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการ ถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกครั้ง