ข่าว

ถกแรง ไร้วี่แวว หรือ ไร้น้ำยา 2 โจร บุกปล้นทองซ้ำซ้อน หายเข้ากลีบเมฆ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โซเชียลตั้งคำถาม ไร้วี่แวว หรือ ไร้น้ำยา 2 โจร บุกปล้นทองซ้ำซ้อน จ.ตาก หายเข้ากลีบเมฆ ล่าสุดตำรวจยังตามจับกุมไม่ได้

จากกรณีดราม่าในโลกโซเชียล เมื่อวันนี้ 8 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ13.20 น. เกิดเหตุ 4 "คนร้ายบุกปล้นร้านทอง" บริเวณตรงข้าม โรงเรียนตากพิทยาคม อ.เมืองตาก จ.ตาก จากนั้นเจ้าของร้านทอง วิ่งกลับเข้าไปหยิบปืน ยิงสวนกลุ่มคนร้ายด้วยลูกซอง จน 1 ในคนร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายที่เหลือ รีบหลบหนีออกไป ตำรวจชุดสืบสวน ตามจับกุมได้ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย ที่เหลือ มีรายงานข่าวว่า หลบหนีออกช่องทางธรรมชาติ ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่สามารถจับกุมได้

 

 

 

ประเด็นดราม่า  "คนร้ายบุกปล้นร้านทอง" เกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เจ้าของร้านทอง ที่มีการเสนอข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจมองว่า การกระทำดังกล่าว  "เป็นการกระทำ เกินกว่าเหตุหรือไม่" แต่ส่วนใหญ่ความคิดเห็นในโซเชียล ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น คนร้ายสมควร ที่จะถูกยิง  หรือ บางข้อความก็บอกว่า เจ้าของร้านต้องยืนดู รอให้โจรปล้นเหรอคะ ไม่มีสิทธิ์ป้องกันทรัพย์ของตัวเองเหรอ หรือบางความคิดเห็นบอกว่า อยากให้คน ที่บอกว่าเจ้าของร้านผิด โดนแบบเขาบ้าง อยากรู้ว่าเขาจะทำยังไง กฎหมายบอกว่า ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ อยากให้พวกตำรวจโดนแบบนี้บ้าง หรือ แม้กระทั่ง แสดงความคิดเห็นว่า ไร้วี่แววโจร หรือ ตำรวจไร้น้ำยา

 

แสดงความคิดเห็นดุเดือด

 

 

อีกประเด็นที่ชาวโซเชียลพูดถึงกันมาก คือ กรณีที่ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดตาก ได้ยืนยัน ว่า 2 ใน 4 เป็นคนร้าย ที่เคยก่อเหตุ บุกปล้นร้านทอง กลางเมืองตาก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถจับกุม ตัวคนร้ายได้ โดยชาวโซเชียล มีการตั้งคำถามว่า "โจรขับรถหลบหนี จากเมืองตาก ไปถึงแนวชายแดน ระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร ตำรวจตามด่าน ทุกหน่วยทั้งจังหวัด ไม่มีใครรู้เรื่องเลยหรือไง ทั้งที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ก็จับภาพชัดเจน" 

 

 

ภาพจากกล้องวงจร จับภาพคนร้ายหลังก่อเหตุ

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถ จับตัวคนร้ายที่หลบหนีอีก 2 ราย มาดำเนินคดีได้หรือไม่ เพราะอย่างล่าสุดวันนี้  (13 ธันวาคม 2565) ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ก็รายงานว่า ยังไม่มีความคืบหน้า ในการติดตามจับกุม และไม่มีการ ติดต่อ มาจากทางฝ่ายของประเทศเมียนมา รวมถึงชนกลุ่มน้อยแต่ใด ซึ่งมีรายงานว่าอีกว่า การสืบสวนสอบสวน จะต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาเสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ