หนุ่มสูงวัย ร้อง"เพจสายไหมต้องรอด" ถูกแก๊งสาวใน "แอปหาคู่" ชักชวนเล่นไพ่ จนหมดตัวกว่า 2 แสน ซ้ำยังเป็นหนี้อีก 50,000 บาท เบื้องต้นพบประวัติเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 "เพจสายไหมต้องรอด" ได้พาชายสูงอายุ ในฐานะผู้เสียหาย มาแจ้งความที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังถูกแก๊งสาวใน"แอพหาคู่" หลอกให้เล่นการพนัน เสียทั้งรถยนต์และเงินสด และทราบมามาแก๊งนี้เคยก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ทาง"เพจสายไหมต้องรอด" จึงพาผู้เสียหายมาพบกับ ผกก.สภ.คลองหลวง เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าทาตำรวจ จากการตรวจสอบคาดว่า กลุ่มคนร้ายทำงานกันเป็นแก๊ง โดยมีนกต่อ 1 คน ผู้เข้ามาร่วมเล่นไพ่ 2 คน มีคนชงไพ่ โดยทุกคนทำเป็นขบวนการเพื่อมาตบทรัพย์เหยื่อ
โดยเหยื่อต้องมีทุนทรัพย์มา ไม่ว่าจะมีเงินมีทอง หรือรถยนต์ หลังจากเล่นไปในที่สุดรถยนต์จะถูกยึดไว้ จึงฝากเตือนประชาชนผู้ชายหรือผู้สูงอายุ ที่จะเข้า"แอพหาคู่"จะต้องระวัง เพราะพวกนี้จะเข้ามาทักทายจนหลงเชื่อ และจะทำให้เสียทรัพย์ได้ บุตรหลานช่วยดูแลผู้สูงอายุและปัจจุบันโซเชียลไวมาก หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ"กล้องวงจรปิด" คาดว่าจะยังมีหลักฐานอยู่บ้าง
ด้านผู้เสียหาย ได้เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 ได้เล่น"แอพหาคู่"ออนไลน์ ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งจึงนัดหมายไปเจอที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อขึ้นไปบนห้องก็พบว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งดื่มเบียร์อยู่ก่อนแล้ว 1 คน ภายในห้องรวมทั้งตนเองและผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 3 คน
ต่อมามีผู้หญิงสูงวัยเข้ามาสมทบกับผู้ชายอีก 1 คนหนึ่ง รวมแก๊งก่อเหตุทั้งหมดมีผู้หญิง 3 คน ผู้ชาย 1 คน มาถึงก็ชวนเล่นไพ่ ทั้งที่ตนเองบอกเล่นไม่เป็น แก๊งนี้แจกไพ่ให้พร้อมกับชวนดื่มเบียร์ไปด้วย โดยมีผู้หญิงที่ตนเองเจอทางออนไลน์คอยเชียร์ตนเองอยู่ตลอดเวลา แม้จะบอกว่าไม่มีเงินก็ตาม เล่นไปได้สักพักเขาถามผมว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เมื่อบอกว่ามีรถ 1 คัน เขาเอากุญแจไปและเรียกคนปล่อยเงินกู้ขึ้นมา ใช้เวลาเพียง 5 นาที เขาทำสัญญาให้ผมจำนำกับเขา 150,000 บาท ก่อนนำกุญแจรถไป แล้วนำเงินมาให้ตน 150,000 บาท ตอนนั้นงงมาก ทำอะไรไม่ถูกเพราะทุกอย่างไวมาก
โดยเงินในวงไพ่มีประมาณ 6 แสนบาท ผู้ชายเป็นคนทำไพ่และผู้หญิงสูงอายุเป็นคนตัดไพ่ ทั้งหมดน่าจะรู้กันทั้งหมด ตนเองเสียไปรถเก๋ง 1 คัน เงินที่จำนำรถ 150,000 บาท ต่อมาคนผู้หญิงอีก 1 คน มาเสริมพร้อมกับนำเงินมาให้ตนเพิ่มอีก 50,000 บาท รวมเงินสดที่ตนเองเป็นหนี้ 200,000 บาท จากนั้นติดต่อใครไม่ได้เลย นอกจากเจ้าของเงินเท่านั้น ตนเองจึงไปร้อง"เพจสายไหมต้องรอด"ให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความ และพามาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง