แนะ "ผู้ว่าฯกทม." ผ่าทางตัน แก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว

ผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน โพสต์เฟสบุ๊ค มีเนื้อหา ในทำนองบอกให้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยอมรับความจริงว่าไม่สามารถทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ลดราคาเหลือ 25 บาทตลอดสายได้ตามที่หาเสียงไว้ หลังสภา
กทม.ไม่รับพิจารณาญัตติ ที่ขอหารือเรื่องราคาค่าโดยสารและการแก้ปัญหาหนี้สินรถไฟฟ้า เพราะติดคำสั่ง คสช. ทำให้ กทม.ไม่มีอำนาจ

โพสต์ของสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน  บอกว่า

เมื่อวานนี้ ใจจดใจจ่อ รอผลการพิจารณาญัตติรถไฟฟ้าสายเขียว ที่ผู้ว่าฯ กทม.ขอหารือ เรื่องอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-คูคต โดยเสนอให้เก็บ 15 บาทตลอดสาย ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารสูงสุด (รวมทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยาย) เท่ากับ 74 บาท หรือเก็บตามระยะทางตามสูตร 14+2X (ค่าแรกเข้า 14 บาท ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามระยะทาง 2 บาทต่อสถานี แต่ค่าโดยสารรวมทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยายไม่เกิน 59 บาท)

และการแก้ปัญหาหนี้สิน โดยเสนอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนค่าก่อสร้างงานโยธาของส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่ง กทม. รับโอนมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเงินประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท  ถ้ารัฐบาลสามารถให้เงินสนับสนุนได้ จะหาเอกชนมาร่วมลงทุนตาม พรบ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562
แต่ถ้ารัฐบาลไม่สามารถให้เงินสนับสนุนได้ ก็ขอโอนรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมด (ทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยาย) ให้รัฐบาล    

ท้ายที่สุด สภากทม.ไม่รับพิจารณาทั้งสองญัตติดังกล่าว  เพราะเห็นว่า กทม.ไม่มีอำนาจ เนื่องจากการบริหารรถไฟฟ้าฯ ยังอยู่ภายใต้อำนาจของคณะกรรมการตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2562 นั้น

สามารถแนะนำให้ชัชชาติ ตอบกลับหนังสือหารือลงวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ของ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ถึงผู้ว่าฯ กทม. ขอทราบแนวทางการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเสนอ ครม. และควรเสนอความเห็นดังนี้

อัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 จะเก็บ 15 บาทตลอดสาย จะทำให้ค่าโดยสารสูงสุดเท่ากับ 74 บาท หรือจะเก็บตามระยะทาง แต่ค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 59 บาท ก็ได้ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าไม่สามารถทำให้ค่าโดยสารถูกลงตามที่เคยหาเสียงไว้ว่าจะเก็บ 25-30 บาท ได้

การเปิดประมูลใหม่หาเอกชนมารับสัมปทานเดินรถส่วนต่อขยายที่ 2 ตาม พรบ. ร่วมทุน 2562 หากรัฐบาลช่วยสนับสนุนค่างานโยธาส่วนต่อขยายที่ 2 ไม่สามารถทำได้
เพราะจะไม่มีเอกชนรายใดสนใจมารับสัมปทาน เพราะจะขาดทุน  หากจะเปิดประมูลใหม่ทั้งส่วนหลักและส่วนต่อขยายหลังสิ้นสุดสัมปทานในปี 2572  ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะยังติดสัญญาจ้าง BTSC ให้เดินรถจนถึงปี 2585

แนวทางที่ผู้ว่าฯกทม.ต้องการจะโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งหมดให้รัฐบาล หากรัฐบาลไม่ช่วยสนับสนุนค่างานโยธาส่วนต่อขยายที่ 2 ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นการ โยนปัญหาให้พ้นตัว ถ้ารัฐบาลยอมรับข้อเสนอนี้ ก็น่าจะรับมาตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ อัศวินแล้ว ไม่น่าปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังมาจนถึงปัจจุบันนี้

สามารถ ระบุว่า การตั้งธงไม่ขยายสัมปทานให้ BTSC ตั้งแต่ตอนหาเสียง ของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ทำให้เดินมาถึงทางตันในวันนี้ จะผ่าทางตันได้ ต้องเปิดใจให้กว้าง ดูข้อดีข้อเสียในการขยายสัมปทานให้ BTSC ถ้าเห็นว่ามีข้อดีมากกว่าก็ตัดสินใจขยายสัมปทานให้ BTSC เพราะทางเลือกอื่นขณะนี้ ไม่มีจริงๆ

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

Line:https://lin.ee/qิ9UHd2

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w