ข่าว

นศ.สาวร้องเอาผิด 2 "แพทย์" รพ.ดัง วินิจฉัยโรคผิด ผ่าตัดเจ็บตัวฟรี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นศ.สาวแจ้งความเอาผิด 2 "แพทย์" รพ.ดัง วินิจฉัยโรคผิด แจ้งพบเนื้อร้าย 3 จุด หลังผ่าตัดใหญ่ไม่พบเนื้อร้าย เจ็บตัวฟรี ไม่มีใครรับผิดชอบ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้พา น.ส.ปิยะดา  อายุ 22 ปี  สาวนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิตพร้อมด้วย นางจรัสพร อายุ 58 ปี มารดา เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไตรพงษ์ วงศ์อมรอัครพันธ์ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับ 2 แพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ย่านลาดพร้าว ที่วินิจฉัยโรคผิด ในข้อหา “ร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส”

 

นศ.สาวร้องเอาผิด 2 "แพทย์" รพ.ดัง วินิจฉัยโรคผิด ผ่าตัดเจ็บตัวฟรี

 

 

นางจรัสพร กล่าวว่า ตอนแรกตรวจพบว่าลูกสาวมี เนื้อร้าย 3 ก้อน ซึ่งอยู่คนละจุดกัน แต่พอผ่าตัดเสร็จ หมอบอกตนเองว่ายินดีด้วยไม่เจอก้อนเนื้อร้ายลำไส้ แต่ผ่าตัดเอาลำไส้และตัดรังไข่แล้ว ยืนยันว่ารักษาในตามหลักการรักษาของแพทย์ ตนเองได้โต้แย้งทุกอย่าง แต่ทางแพทย์ผู้รักษาไม่สนใจ ทั้งที่ตรวจผิดและผ่าไปไม่เจอ โดยเอาเงินที่ขายพวงมาลัยและค่าเช่าตึกมาใช้จ่ายค่ารักษาดังกล่าว

ด้าน ทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า ทาง น.ส.ปิยะดา ได้เข้ามาขอให้ตนเองช่วยทำคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2564 น.ส.ปิยะดา มีอาการปวดท้อง จึงให้คุณแม่ของน้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังย่านลาดพร้าว และได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคจากแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึง 2 ท่าน โดยวินิจฉัยโรคของ น.ส.ปิยะดา ว่ามีการตรวจพบก้อนเนื้อ จำนวน 3 ก้อน ในลำไส้เล็ก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นเนื้อร้ายจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยวิธีการผ่าตัดใหญ่เป็นการด่วน ทำให้คุณพ่อคุณแม่ของ น.ส.ปิยะดา รีบตัดสินใจให้ดำเนินการผ่าตัด

 

นศ.สาวร้องเอาผิด 2 "แพทย์" รพ.ดัง วินิจฉัยโรคผิด ผ่าตัดเจ็บตัวฟรี

 

จากนั้นวันที่ 22 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา แพทย์ทั้ง 2 ราย ที่วินิจฉัยและได้ร่วมกันผ่าตัด แต่ปรากฏว่าเมื่อผ่าตัดแล้วกลับไม่พบเนื้อร้ายดังกล่าวแต่อย่างใด แต่พบว่า แพทย์ทั้ง 2 ราย ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อซีสต์ในรังไข่ พร้อมทั้งรังไข่ด้านซ้าย 1 ข้าง และไส้ติ่งของ น.ส.ปิยะดา ออกโดยพลการ ไม่ได้รับความยินยอม และไม่มีความจำเป็นต้องกระทำเช่นนั้น เป็นเหตุให้ น.ส.ปิยะดา สูญเสียไส้ติ่ง ซึ่งยังนับว่าเป็นอวัยวะมีประโยชน์ และเป็นอวัยวะสำคัญ และสูญเสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่ไม่จำเป็น

อีกทั้งยังต้องบาดเจ็บทนทุกข์ทรมานจากการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ ทำให้หน้าท้องมีแผลเป็นเสียโฉมติดตัว และกระทบต่อสุขภาพจิตในระยะยาวตลอดชีวิต อีกทั้งหยิบยืมเงินต้องเสียค่าใช้จ่ายไป จำนวน 334,199 บาท ซึ่งภายหลังการผ่าตัด ทางผู้เสียหายได้พยายามสอบถามแพทย์ทั้ง 2 รายดังกล่าว และโรงพยาบาล แต่กลับถูกเพิกเฉย”

 

 

นายอนันต์ชัย กล่าวอีกว่า การกระทำของแพทย์ทั้งสองท่าน ถือว่าเป็นการตรวจวินิจฉัยโรคผิดพลาดอย่างร้ายแรง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.300 ประกอบม.83 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอให้ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีกับแพทย์และโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย ไม่เกินอาทิตย์หน้าฟ้องแพ่งคดีผู้บริโภคเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ